ข่าว

เพิ่มโทษ แก๊งโจ๋กร่าง อวดศักดา ปาบึ้มป่วน ทำลายสิ่งของ ไม่เกรงกลัวทหาร

เพิ่มโทษ แก๊งโจ๋กร่าง จ.นครพนม อวดศักดา ปาบึ้มป่วน หลังบุกทำลายสิ่งของชาวบ้าน ไม่เกรงกลัวทหาร คาดโทษผู้ปกครองฐานสนับสนุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ทหาร ปฏิบัติการชุดเคลื่อนที่เร็ว หน่วยกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ร.3 พัน.3 กกล.ฯ) ค่ายพระยอดเมืองขวาง พร้อมชุดเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2103 (ร้อย ทพ.2103) อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นำคลิปขณะปฏิบัติหน้าที่ออกมาเผยแพร่ผ่านสื่อ เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญประกอบการดำเนินคดีของตำรวจ สภ.โพนสวรรค์ กับ แก๊งโจ๊กร่าง ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุจำนวนหนึ่ง 

 

 

กรณีเมื่อคืนวันที่ 26 ส.ค. 2567 เวลาประมาณ 21.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ทั้งสองหน่วยงาน ตั้งจุดสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติด บริเวณพื้นที่บ้านโคกนาดี หมู่ 6 ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม โดยตรวจค้นอาวุธ ยาเสพติด และตรวจปัสสาวะผู้ต้องสงสัย เครือข่ายยาเสพติด ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้มี เยาวชน 2 ราย อายุ 15 -18 ปี ขับรถจักรยานยนต์มาด้วยอาการตกใจ เพื่อขอความช่วยเหลือ และมีกลุ่มวัยรุ่นกำลังขับรถจักรยานยนต์ตามไล่ล่า มีอาวุธครบมือ ทั้งปืนและระเบิดปิงปอง พยายามจะทำร้ายร่างกายถึงขั้นเสียชีวิต 

 

 

แก๊งโจ๋กร่าง ป่วนไม่สนทหาร

 

 

ซึ่งตามคลิปหลักฐาน ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 นาที ได้มีกลุ่มวัยรุ่นเป็นเยาวชน อายุประมาณ 15 -18 ปี ขับรถจักรยานยนต์ตามหลังคู่อริมาประมาณ 4 - 5 คัน รวมเกือบ 10 คน กระทั่งเจอกำลัง ทหาร บริเวณตั้งจุดสกัด แทนที่จะเกรงกลัวกฎหมาย กลับแสดงความเป็นเจ้าถิ่นปาระเบิดปิงปอง และยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ทันที แต่ชุดปฏิบัติการได้โต้ตอบด้วยการยิงปืนขึ้นฟ้า เพื่อระงับเหตุตามยุทธวิธี กลุ่ม โจ๋ เจ้าถิ่นจึงพากันขับรถจักรยานยนต์หลบหนี 

 

ภายหลังชุดทหารไม่ปล่อยให้วัยรุ่นกลุ่มนี้ลอยนวล จึงได้ระดมกำลังติดตาม สามารถจับกุมตัวมาได้ 5 คน อายุระหว่าง 15 -18 ปี พบว่ามีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ระเบิดปิงปอง รวมถึงมีดดาบยาว จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกลุ่มโจ๋เถื่อนหลังถูกจับกุม ก็หน้าจ๋อยอ้างทำไปเพราะความคึกคะนอง เพราะเจอคู่อริทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน แค่ขับรถสวนแล้วมองหน้ากัน จึงขับรถจักรยานยนต์หวังจะทำร้าย เพราะฝ่ายตนมีจำนวนคนมากกว่า ระหว่างทางก็ใช้อาวุธปืนไล่ยิง และปาระเบิดปิงปอง โชคดีไม่มีคนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต 

 

 

แก๊งโจ๋กร่าง ป่วนไม่สนใจทหาร

 

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ช่วงเกิดเหตุยังมีชาวบ้านในพื้นที่ ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ นำคลิปหลักฐานสำคัญ ออกมาแฉเพิ่มเติมถึงพฤติกรรมสุดเถื่อนของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ที่มักไปสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และเป็นภัยสังคม ที่ผ่านมามีการรวมตัวกัน แล้วขับรถจักรยานยนต์นับ 10 คัน ก่อเหตุไล่ล่าทำร้ายคู่อริ และอวดศักดายิงปืน ปาระเบิดปิงปองในหมู่บ้าน สร้างความหวาดผวา เดือดร้อนรำคาญ ยิ่งกว่าพื้นที่ชายแดนใต้ พร้อมเรียกร้องให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานความมั่นคง ปราบปรามอย่างจริงจัง และเตือนผู้ปกครองช่วยกันสอดส่องดูแล ป้องกันไม่ให้เยาวชนเลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าว

 

จากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าว เพื่อตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติม ในพื้นที่จุดเกิดเหตุบ้านโคกนาดี หมู่ 6 ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม พบมีบ้านผู้เสียหายเป็นบ้านพักชั้นเดียวติดถนน บานกระจกหน้าต่างแตกเสียหาย 2 บาน มีหลักฐานเศษก้อนอิฐมวลเบาตกในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังพบต้นไม้ถูกฟันเสียหาย บ่งบอกถึงความคึกคะนองคลุ้มคลั่งของกลุ่มวัยรุ่น ทั้งนี้ทางตำรวจ สภ.โพนสวรรค์ อยู่ระหว่างการสอบสวน รวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อเอาผิดในฐานความผิดทำให้เสียทรัพย์ 

 

 

เพิ่มโทษแก๊งโจ๋

 

 

ด้านเจ้าของบ้านที่ถูกปาอิฐพังเสียหาย เล่าว่าเป็นการก่อเหตุที่น่ากลัวและเป็นภัยสังคม ขณะเกิดเหตุตนนอนอยู่ในบ้าน ได้ยินทั้งเสียงปืนเสียงระเบิดตามด้วยเสียงโวยวาย ตนต้องพาภรรยาลูกชายวัย 6 ขวบวิ่งหนีออกหลังบ้าน เพราะไม่มั่นใจว่าแก๊งทะลุถุงยางจะพังบ้านเข้ามาทำร้าย ส่วนสาเหตุเชื่อว่าวัยรุ่นทั้งสองกลุ่ม ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน อาจเข้าใจผิดหรือก่อเหตุเพื่ออวดศักดา เพราะกลุ่มคนก่อเหตุมาจากต่างถิ่นเป็นชาว ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ที่อยู่เขตรอยต่อติดกัน และหวังประกาศอิทธิพลกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ โชคดีไม่มีใครได้รับอันตราย อยากให้ทางตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก 

 

นอกจากนี้ ยังมี นายสวาท ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนาขมิ้น หมู่ 3 ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ระบุว่าเป็นเรื่องอวดศักดาระหว่างวัยรุ่นในพื้นที่กับวัยรุ่นต่างถิ่น ในพื้นที่อำเภอใกล้เคียง และกลุ่มที่เคยมีเรื่องเขม่นกันมาก่อน จึงถือโอกาสตระเวนก่อกวน และแสดงความเป็นเจ้าถิ่น ไม่สนใจว่าเป็นใคร เจอหน้าทำร้ายหมด ปกติฝ่ายปกครองจะร่วมกับตำรวจ รวมถึงผู้นำชุมชน ตระเวนตรวจสอบดูแลความเรียบร้อยในหมู่บ้าน แต่พอเจ้าหน้าที่เผลอจะถือโอกาสก่อเหตุทันที 

 

อย่างไรก็ตามจะต้องมีมาตรการเข้มงวดดูแล และฝากพ่อแม่ผู้ปกครองช่วยกันสอดส่องช่วยกัน ในส่วนของกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมแก๊ง มีการติดตามได้ทั้งหมด 10 คนเป็นเยาวชนอายุระหว่าง 13-15 ปี พร้อมทำบันทึกประวัติ เรียกผู้ปกครองมาว่ากล่าวตักเตือน กำชับให้ดูแลเข้มงวด สำหรับ เยาวชน 3 คน อายุ 15-13 ปี ที่ถูกดำเนินคดี ได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อาวุธมีดไว้ในครอบครอง เพื่อกระทำผิดกฎหมาย ส่งฝากขังศาลเยาวชนและครอบครัว เบื้องต้นมีรายงานว่า ศาลอนุญาตให้มีการประกันตัว และควบคุมความประพฤติจนกว่าคดีจะสิ้นสุด 

 

ทางด้าน พ.ต.อ.คุรุพงษ์ แก้วสะอาด ผกก.สภ.โพนสวรรค์ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุมีชาวบ้านแจ้งว่ากลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คน ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญ โดยขับรถจักรยานยนต์ตระเวนไปตามหมู่บ้าน มีอาวุธครบมือ จึงได้นำสายตรวจพร้อมชุดสืบสวน ออกตรวจสอบระงับเหตุ กลุ่มวัยรุ่นจึงได้สลายตัวหนีไป พอเจ้าหน้าที่กลับจึงฉวยโอกาสก่อเหตุซ้ำอีก ยอมรับส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ที่มีประวัติเคยทะเลาะวิวาท แต่เป็นเหตุเล็กน้อย เป็นการอวดศักดา แสดงความเป็นนักเลงเจ้าถิ่น อาจเป็นพฤติกรรมลอกเลียนแบบ ด้วยความคึกคะนอง 

 

 

เพิ่มโทษแก๊งโจ๋

 

 

สำหรับเยาวชน 3 คนที่ถูกดำเนินคดี ในข้อหาพกพาอาวุธปืน พกพาอาวุธมีด แต่ส่วนที่เหลือในกลุ่มรวมทั้งหมด 10 คน ได้เรียกมาทำประวัติ พร้อมเชิญผู้ปกครองมาว่ากล่าวตักเตือน ให้ดูแลช่วยกัน ไม่ให้ก่อเหตุซ้ำ หากใครพบหลักฐานมีการปาอิฐ ปาหิน จนบ้านชาวบ้านได้รับความเสียหาย จะต้องแจ้งข้อหาเพิ่ม 

 

อย่างไรก็ตามสำคัญที่สุดพ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องช่วยกันดูแลบุตรหลาน หากมีการทำผิดซ้ำ อาจจะต้องดำเนินคดีผู้ปกครอง ฐานสนับสนุนด้วย สำหรับเจ้าหน้าที่จะจัดสายตรวจออกตรวจสอบดูแลเข้มงวดมากขึ้น

 

 

 

 

โดย : พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล

 

ข่าวยอดนิยม