ข่าว

“อดีตอัยการ” ซัดกลับ ช่วย “คดีบอส” เพื่อนหลานผิดตรงไหน ด้าน 8 จำเลยได้ประกัน

29 ส.ค. 2567

“อดีตอัยการ” หนึ่งในจำเลย "คดีบอส” ซัดกลับ ช่วยเพื่อนของหลาน ผิดตรงไหน จวก “สังคมจอมปลอม” ขณะที่ศาลให้ประกันตัว 8 จำเลย

29 ส.ค. 2567 ภายหลังนายสุเวช จอมพงค์ อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 นำสำนวนที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ นายเนตร นาคสุข อดีต รองอัยการสูงสุด กับพวกรวม 8 คน  มายื่นฟ้องต่อาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ใน คดีบอส หรือคดีการเปลี่ยนเเปลงความเร็ว จนเป็นเหตุกลับคำสั่งไม่ฟ้อง คดี นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ที่ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2555 โดยในวันนี้จำเลย ทยอยเดินทางมาศาล พร้อมทนายความ 

 

ภายหลังยื่นฟ้องแล้ว นายสุเวช จอมพงค์ อัยการคดีปราบปรามการทุจริตฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ศาลประทับฟ้องไว้แล้ว และได้ทำประวัติจำเลยทั้งหมด โดยวันนี้ยังไม่มีการสอบปากคำจำเลย ซึ่งศาลนัดสอบปากคำจำเลยอีกครั้ง ในวันที่ 10 ก.ย. 2567 เวลา 09.30 น. หลังจากนั้นจะทราบว่าศาลกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานวันไหน ซึ่งอัยการได้เตรียมบัญชีพยานไว้เยอะพอสมควร แต่ศาลจะให้ไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์และจำเลยกี่ปาก ใช้ระยะเวลานานเพียงใด ก่อนนัดพิพากษา ก็เป็นดุลยพินิจของศาล

นายสุเวช กล่าวต่อว่า ส่วนการประกันตัวนั้น ในวันนี้จำเลยทั้ง 8 คน ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัว แต่เป็นหลักทรัพย์จำนวนเท่าใดนั้น ยังไม่ทราบและจะได้ประกันตัวหรือไม่ เป็นดุลยพินิจของศาล

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า อัยการมั่นใจในพยานหลักฐานที่ยื่นฟ้องมากเพียงใด นายสุเวช กล่าวว่า ยืนยันได้ตามพยานหลักฐานที่ ป.ป.ช.ส่งมาให้ และอัยการสูงสุดตรวจแล้วว่าพยานหลักฐานสมบูรณ์เพียงพอแล้ว ส่วนศาลท่านจะมองอย่างไรก็เป็นดุลยพินิจที่จะต้องมาพิจารณากัน ซึ่งในการตรวจพยานหลักฐาน หากมีพยานหลักฐานติดขัด หรือมีอะไรขาดตกบกพร่อง ศาลก็จะประสานมายังอัยการได้ ตามที่กฎหมายเปิดช่องไว้

 

เมื่อถามว่า หากศาลพิพากษายกฟ้อง จะดำเนินการอย่างไร นายสุเวช กล่าวว่า เป็นอำนาจของอัยการสูงสุดที่จะพิจารณาว่า ที่ศาลยกฟ้องชอบด้วยเหตุผลหรือไม่ และมีประเด็นใดที่ขาดตกบกพร่อง จะต้องให้ศาลวินิจฉัยอีก โดยเป็นดุลยพินิจของอัยการสูงสุดว่าจะต้องอุทธรณ์คดีหรือไม่

 

ด้าน นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส หนึ่งในจำเลย เปิดเผยว่า วันนี้รู้สึกดีใจและเสียใจ เรื่องนี้เมื่อวันที่ 29 ก.ค.2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายวิชา มหาคุณ ตรวจสอบมหากาพย์ คดีบอส อยู่วิทยา ถึงวันนี้ รวมระยะเวลา 49 เดือน หรือ 4 ปี 1 เดือน พอดี ยอมรับว่ารู้สึกอึดอัดใจและเสียใจมาก เพราะไม่ใช่ผู้กระทําความผิด แต่ถูกคณะกรรมการชุดต่างๆ ทั้ง ป.ป.ช. อัยการสูงสุด ที่ไม่ให้ความเป็นธรรม และกีดกั้นเพื่อพิสูจน์ความจริง

 

จนมาวันนี้รู้สึกดีใจ เพราะศาลยุติธรรมจะเป็นที่พึ่งสุดท้าย โดยตนจะนําพยานหลักฐานทั้งหมดที่ได้จากการฟ้อง อดีตประธานก.อ.ในคดีหมิ่นประมาทฯ ซึ่งตอนนี้ตนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนพบว่ามีการตัดต่อเทปจาก 1 ใน 8 ผู้ต้องหา ทําให้ ป.ป.ช. อัยการ และอัยการสูงสุด นําหลักฐานดังกล่าวมาเอาผิดตนเอง ซึ่งตนได้มีการแจ้งความเอาผิดใน 7 คดี มีผู้ต้องหาหลายหน่วยงาน เป็นทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งยื่นฟ้องนายตํารวจที่ตัดต่อเทปไว้ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้แล้วอยู่ระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง

 

อย่างไรก็ตาม นายชัยณรงค์ ยอมรับว่า ตนได้เข้าไปช่วยให้คําปรึกษาคดี “บอส อยู่วิทยา” เนื่องจากเป็นเพื่อนของหลานสาว โดนยืนยันว่าตนไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น แม้แต่สลึงเดียว ได้เพียงนํ้าใจเท่านั้น

 

“ขาหนึ่งเป็นอัยการ อีกขาเป็นเพื่อนมนุษย์ เมื่อเพื่อนเดือดร้อนตนจะเข้าไปช่วยไม่ได้เลยหรืออย่างไร ก่อนจะช่วยตนได้ศึกษาข้อกฎหมายมาอย่างดี อีกทั้งตนเป็นอัยการมานานกว่า 30 ปี การเข้ามาช่วยให้คําปรึกษาสามารถทําได้ เพราะตนไม่มีอํานาจในการพิจารณาคดีบอส”

 

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมในจริยธรรมของข้าราชการ ในกระบวนการยุติธรรมนั้น  นายชัยณรงค์ กล่าวด้วยนํ้าเสียงจริงจังว่า ”สังคมจอมปลอม“ พร้อมยกตัวอย่างเรื่องของตัวเองว่า เหตุใดจึงไม่มีใครให้ความเป็นธรรม ในเรื่องที่ถูกปลอมแปลงเทป ซึ่งตนเตรียมที่จะเปิดเทปตัวเต็มในวันที่ 23 กันยายนนี้ หลังศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีนายตํารวจตัดต่อเทป ครั้งที่ 4 เสร็จ ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้

 

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง

พล.ต.อ.สมยศกล่าวสั้นๆ ก่อนเดินทางกลับว่า หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของทนายความ คดีอยู่ในอำนาจศาลเเล้ว ก็ต้องให้เกียรติศาล เชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรม

 

โดยภายหลังศาลพิจารณาคําฟ้องของพนักงานอัยการที่ได้ยื่นพยานหลักฐานเอกสารต่างๆ จํานวน 9 ลัง 30 แฟ้ม มีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีดังกล่าว และนัดสอบคําให้การในวันที่ 10 กันยายน 2567 เวลา 09.30 น. ที่

 

ขณะที่ผู้ต้องหา 8 คน ได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นศาล โดยใช้หลักทรัพย์ 200,000 บาท ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นได้รับอนุญาตจากศาล