100 ชม. การค้นหา "อนุทิน" รับ โอกาสรอดน้อยลง เผย สัญญาณชีพ อาจไม่ใช่สัญญาณชีวิต | คมชัดลึก

29 ส.ค. 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ มาที่ บริเวณ อุโมงค์ รถไฟฟ้าความเร็วสูง ไทยจีน สถานีคลองไผ่ เพื่อติดตามความคืบหน้า การค้นหาตัวผู้ประสบภัยอีก 2 ราย 

โดยภายหลังการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่งนายอนุทิน ได้เปิดเผยว่า เหมือนที่ทุกคนได้รับทราบแล้ว ว่าเราพบร่างผู้ประสบภัยรายแรกและมีการยืนยัน ทางการแพทย์และว่าเขาเสียชีวิตแล้ว หลังจากนี้ก็จะส่งร่างไปที่ชันสูตรที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา โดยจะมีการชันสูตรโดยละเอียด ว่าเสียชีวิตเนื่องด้วยสาเหตุใดเสียชีวิตมานานเท่าไหร่  น่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชม. 

ลักษณะของการเสียชีวิตของผู้ประสบภัยรายแรกนั้น พบว่าเสียชีวิตอยู่ภายนอกรถ ในลักษณะของการนั่งอยู่ข้างรถดั้ม ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิต ต้องรอการพิสูจน์ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เขาไม่สามารถดำรงชีพอยู่ได้เช่นกัน ขาดน้ำ ขาดอาหาร หรือ ขาดอากาศ เนื่องจากสภาพที่ถูกกดทับด้วยดินภายในอุโมงค์ 

ต้องบอกว่าฝุ่นด่านในยิ่งกว่า PM 2.5  ส่วนอัตลักษณ์หรือสัญชาติขอตรวจสอบจากผลการชันสูตรก่อน เพราะจากที่ได้รับรายงาน ผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในก็มีเพียง 2 สัญชาติ คือพม่า กับชาวจีน นายอนุทิน กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าผู้ประสบภัยอีก 2 รายยังมีสัญญาณชีพอยู่หรือไม่ตามการตรวจวัดของเครื่องสแกน นายอนุทิน ชาญวีรกุล กล่าวว่า หลังจากนี้จะไม่ใช้คำว่า การเคลื่อนไหวของ "สัญญาณชีพ" อีกแล้วเพราะจะเป็นการกดดันทีมแพทย์ ซึ่งหลังจากนี้เราจะใช้คำว่า "มีสัญญาณ movement" หรือ "การเคลื่อนไหว" ที่อยู่ภายในอุโมงค์ 

ซึ่งการเคลื่อนไหวที่พูดนั้น รวมไปถึงอาจจะเป็นการเคลื่อนไหวของเส้นเลือด เลือด หรือการขยายตัวของกล้ามเนื้อ ถือว่าเป็นไปได้ทั้งหมด ต้องบอกว่าเวลาล่วงเลยมากว่า 100 ชั่วโมงแล้ว หมายความว่าโอกาส ที่จะมีชีวิตรอดก็จะน้อยลง แต่เราไม่สามารถไปบอกได้ว่าเขาเสียชีวิตหรือไม่เนื่องจากเรายังไม่ได้เจอ ตัวผู้ประสบภัยทั้ง 2 ราย 

การค้นหาเรายังคงดำเนินต่อไป ซึ่ง ผู้ประสบภัยรายที่ 2 ห่างจากผู้ประสบภัยรายแรก 4 เมตร และผู้ประสบภัยร้ายที่ 3 ห่างจากผู้ประสบภัยรายแรก 10 เมตร 

ส่วน ที่มีรายงานว่าผู้ประสบภัยอาจจะอยู่ในรถแม็คโครอีกคันนั้นก็เป็นเพียงคำบอกเล่าจากคนงานที่เห็นช่วงเกิดเหตุ ยังไม่สามารถยืนยันขอเท็จจริงใดๆ ได้ เราก็หวังให้เขายังอยู่รอดภายใน

ส่วนเรื่องที่ทีมกู้ภัย ค่อนข้างกังวลในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งต้องขอบคุณ นายธเนศ วีระศิริ, นายกสภาวิศกร ที่ได้ไปสำรวจพื้นผิวหน้าดิน ผิวภูเขา ก็เห็นได้ว่า ในจุดที่ดินถล่มลงมาด้านบนมีความบางอยู่  ซึ่งในส่วนที่วิศวะเจ้าของโครงการได้มี 

การสร้างอุโมงค์ชั่วคราวก็ถือว่า ทำได้ดีพอสมควร แต่ถ้าหากมีจุดไหนที่รู้สึกว่าอาจจะเป็นอันตรายกับทีมกู้ภัยและคนที่เข้าไปปฏิบัติภารกิจด้านในก็ต้องมีการเสริมความแข็งแรงเพื่อให้ความปลอดภัยกับหน่วยงานที่ปฏิบัติภารกิจด้วย และยังต้องวางแผนเรื่องความปลอดภัยถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งทางด้านนายกสภาวิศวกร ก็ยืนยันว่า สิ่งที่วิศวะเจ้าของโครงการทำขณะนี้คือ ทำตามหลักสากลแล้ว 

นอกจากนี้ท่านรองนายกยังพูดถึงในเรื่องของประเด็นของการดำเนินคดีและการตรวจสอบ สาเหตุของอุโมงค์ดังกล่าวว่า ในขณะนี้ให้ความสำคัญไปในเรื่องของการนำร่างของผู้ประสบภัยออกมาจากจุดเกิดเหตุให้ได้ก่อนส่วนในเรื่องของการดำเนินคดีหรือตรวจสอบนั้นทางหน่วยงานราชการต้องทำอยู่แล้ว

โดยภายหลังการแถลงข่าว รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ได้รับรายงานจากแพทย์ ว่าผู้ประสบภัยรายแรกที่เสียชีวิตนั้นเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-5 วันซึ่งต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการจะแพทย์อีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่ เวลา 15.55 น. เจ้าหน้าที่ USAR ได้นำทีม สุนัขK9 เข้าพื้นที่ เพื่อทำการค้นหาผู้ประสบภัย 2 ราย ในอุโมงค์รถไฟอีกครั้ง