คนขับแท็กซี่ หื่น หวังเคลมแฟนลูกชาย ลวงมาเคลียร์คลิปลับ พลเมืองดีเข้าช่วย
คนขับแท็กซี่ สุดหื่น หวังเคลมแฟนสาวของลูกชาย ลวงมาเคลียร์คลิปลับ บอกคิดมากกว่าเป็นลูกสะใภ้ พลเมืองดีเข้าช่วยกลับถูกกระทืบสลบ ก่อนวิ่งหนีไป
ร.ต.อ.สุวิทย์ ภูดองนาง พนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามี คน ถูก คนขับแท็กซี่ ทำร้ายร่างกาย บริเวณลานจอดรถร้านสะดวกซื้อภายในซอยร่วมพัฒนาแยกจากซอยสุขสวัสดิ์ 100 (ซอยวัดใหญ่บางปลากด) หมู่ที่ 3 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์
ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถพบกลุ่มชาวบ้านยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี นายวัฒนะ อายุ 31 ปี ใบหน้าบวมปูดและศีรษะบวมโน และนายป้อม อายุ 30 ปี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมมี น.ศ.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้เสียหายยืนร้องให้ตัวสั่นอยู่ด้วย
นายวัฒนะ ซึ่งเป็นพลเมืองดีเล่าเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้นให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยนายป้อมและเพื่อนรุ่นพี่อีก 1 คน นั่งดื่มเบียร์กันอยู่หน้าห้องเช่าภายในซอยร่วมพัฒนาแยกที่ 1 ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไปประมาณ 100 เมตร ในระหว่างที่พวกตนนั่งคุยกันได้มีหญิงสาวผู้เสียหาย เดินออกมาจากห้องที่ 3 ในสภาพเนื้อตัวสั่นน้ำตาคลอเบ้าก่อนที่จะถามพวกตนว่ามีโทรศัพท์ไหมว่าจะขอโทรหาพ่อให้มารับหน่อย เป็นจังหวะที่มีชายวัยกลางคนซึ่งตนทราบภายหลังว่าเป็นพ่อแฟนหนุ่มของน้องแบมเดินตามออกมา ก่อนที่จะมาหาเรื่องพร้อมตะคอกใส่พวกตนว่าอย่ามายุ่ง ก่อนที่จะดึงมือหญิงสาวเดินออกไปทางปากซอย
ในระหว่างนั้นตนเห็นมือของหญิงสาวพยายามกวักเรียกพวกตนหลายครั้ง ตนเห็นว่าน่าจะเกิดเรื่องที่ไม่ดีจึงขี่รถจักรยานยนต์และปั่นรถจักรยานตามกันออกไป เมื่อไปถึงบริเวณลานจอดรถด้านหน้าร้านสะดวกซื้อเห็นหญิงสาวกำลังขึ้นไปนั่งในรถแท็กซี่ สีชมพู ที่จอดติดเครื่องอยู่ ก่อนที่พ่อแฟนหนุ่มของหญิงสาว ทราบชื่อภายหลัง นายสุทัศน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี จะเดินปรี่มาหาเรื่องพวกตนพร้อมท้าทายและด่าหยาบคาย ก่อนที่จะถูกสาวหมัดแลกใส่กันยับ โดยมีภรรยาของตนถ่ายคลิปไว้ได้เกือบทั้งหมด
แต่ตนสู้ไม่ได้ถูกต่อยและกระทืบจนสลบเหมือด ก่อนที่ นายป้อม เดินทางมาถึงจึงได้ช่วยตนไว้ได้พร้อมพยายามช่วยจับตัว ผู้ก่อเหตุ แต่ไม่ทันวิ่งหลบหนีไปก่อน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รีบมาตรวจสอบพร้อมช่วยเหลือ
หลังจากที่สอบถามข้อมูลชนวนเหตุเบื้องต้นแล้ว จึงได้เดินทางไปยังห้องเช่าภายในซอยร่วมพัฒนาแยกที่ 1 หมู่ที่ 4 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ บริเวณชั้นล่างห้องที่ 3 ซึ่งเป็นห้องที่น้องถูกก่อนเหตุ โดยหญิงสาวผู้เสียหายได้เล่าว่า ตนเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งย่าน อ.พระประแดง ได้คบหากับลูกชายของผู้ก่อเหตุ มานานกว่า 1 ปี
ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาหลังจากที่ตนกลับจากโรงเรียน ผู้ก่อเหตุได้ขับรถแท็กซี่มารับตนที่บ้านภายในซอยริมคลองแยกจากซอยสุขสวัสดิ์ 80 (ซอยโกเบ) ว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ก่อนที่จะพาขึ้นรถขับกลับมาที่ห้องของผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นห้องที่เกิดเหตุ ในระหว่างทางผู้ก่อเหตุได้พูดจาถามไถ่ตนในเรื่องที่ลูกชายเคยมีแฟนมาแล้วและพูดคุยอ้างถึงเรื่องคลิปลับที่ผู้ก่อเหตุแอบซ่อนกล้องไว้ในห้องเช่าที่อยู่ก่อนหน้านี้ในเขตราษฎร์บูรณะ ก่อนที่จะย้ายมายังในซอยสุขสวัสดิ์ 100 ได้ประมาณ 2-3 เดือน ว่า ได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่ตนมีอะไรกับลูกชายหลายครั้งและยังได้เฝ้าดูพฤติการณ์ของพวกตนมาโดยตลอด กระทั่งมาถึงห้องผู้ก่อเหตุได้ให้ตนเดินเข้าไปรอในห้อง ส่วนผู้ก่อเหตุ จะตามไปทีหลัง
กระทั่งผู้ก่อเหตุเดินมาถึงที่ห้องได้พูดคุยอ้างถึงเรื่องคลิปหลายครั้งว่าจะให้ทำอย่างไรหรือจะให้ปล่อยคลิปลงโซเชียล ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุเคยให้แฟนตนหักการ์ดทิ้งไปแล้ว 1 อัน ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นการ์ดอะไรและไม่เคยเห็นคลิปและกล้องวงจรปิดเลย ตนได้แค่พูดว่าแล้วแต่พ่อเถอะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุกลับพูดว่ามีความรู้สึกกับตนมากกว่าลูกสะใภ้ก่อนที่จะเดินเข้ามาดึงตัวตนเข้าไปกอดพร้อมจูบที่หน้าผากและใบหน้า
ตนพยายามดิ้นหนีพร้อมของร้องว่าอย่าทำตนเลยแต่ผู้ก่อเหตุไม่สนใจก่อนที่จะพยายามกอดพร้อมไล่จูบที่ใบหน้าและพยามจูบปากแบบแลกลิ้นแต่ตนได้พยายามผลักตัวผู้ก่อเหตุออกพร้อมพูดจาหว่านล้อมต่างๆ นาๆ ก่อนที่จะสะบัดตัวหนีออกมาจากห้องได้ จึงเดินทางของยืมโทรศัพท์กับพี่ที่นั่งดื่มอยู่หน้าห้องเช่าเพื่อจะโทรแจ้งพ่อของตนให้มารับ แต่ผู้ก่อเหตุตามมาทันก่อนจะกระชากแขนตนให้เดินพ้นจากกลุ่มวงเหล้านี้ ตนรู้สึกกลัวจึงได้พยายามกวักมือเรียกพวกพี่ที่นั่งดื่นเหล้าให้มาช่วย กระทั่งมาถึงลานจอดรถจึงเกิดการชกต่อยกันและผู้ก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไป
ทางเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุพร้อมเชิญผู้เสียหายและ พลเมืองดี ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจพร้อมส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อรวบรวมหลักฐานก่อนที่จะออกหมายเรียก ผู้ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนพลเมืองดีที่เข้าไปช่วยให้แจ้งความลงบันทึกประจำวันในข้อหาถูกทำร้ายร่างกายและไปตรวจสอบร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อดำเนินการตามคดีต่อไป
โดย : กัลยกฤษย์ ธนาวัฒน์ชัยกุล - วุฒณ์ จิตคราม