30 ส.ค. 2567 ตำรวจสืบนครบาล นำโดยพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก สส.บช.น. , ร่วมกับนักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 115 ดำเนินการจับกุม
น.ส.ดาริกา อายุ 39 ปี ชาวจ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุมบริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้า ซอยสุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณเดือนมกราคม พ.ศ.2565 น.ส.สุพรรณี ผู้เสียหาย ได้ทำการซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางแบรนด์เนม จากหน้าเพจฝากขายอินสตาแกรม (ig)ของนางสาวดาริกา หรือ(นุ้ย) ผู้ต้องหา
ทั้งคู่รู้จักกันโดยเห็นจากหน้าเพจฝากขายอินสตาแกรม (ig) ของ beauticity.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขายสินค้าของน.ส.ดาริกา
โดยน.ส.สุพรรณี ได้แอดไลน์หาส่วนตัว เพราะเห็นว่าผู้ต้องหาขายสินค้าราคาถูกกว่าหน้าร้านปกติทั่วไป น.ส.ดาริกา มีสินค้าจริงแต่ซื้อปริมาณสินค้าน้อยมีมูลค่าหลักร้อยบาท ถึงหลักพันบาท และเป็นการซื้อผ่านแอปพลิเคชัน น.ส.ดาริกาพยายามพูดชักชวนให้ลงทุนซื้อสินค้ามาขายเอง
และออกอุบายว่ามีสินค้าจำนวนมากแต่เป็นของพี่สาวจะเอามาขายให้และจะหาลูกค้าให้ น.ส.สุพรรณีจึงตกลงซื้อสินค้ามาขาย และเริ่มซื้อสินค้าเป็นเงินหลักหมื่นบาท เนื่องจากผู้ต้องหาได้ส่งสินค้าให้ตามที่ตกลง
ต่อมาน.ส.ดาริกาได้ชวนให้ซื้อสินค้ามาขาย จำนวนล็อตใหญ่ขึ้นเรื่อยๆโดยใช้กลอุบายต่างๆ มาหลอกลวงให้ สั่งสินค้ามาขายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,809,590 บาท และนำสินค้ามาส่งให้คิดเป็นเงิน 572,930 บาท แต่ยังไม่ส่งสินค้า อีกเป็นเงินรวมจำนวน 1,236,660 บาท
เมื่อทวงถามว่า ได้โอนเงินไปชำระค่าสินค้าที่บัญชีธนาคารใด น.ส.ดาริกา ก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงมาแต่ต้น จึงเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.โคมคราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงทำบันทึกการจับกุม และ นำตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ สน.โคกคราม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ หรือผู้การจ๋อ ฝากเตือนว่า การซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ได้กลายมาเป็นตัวเลือกอันดับแรกของใครหลายๆ คน ทั้งสะดวก ประหยัดเวลา อย่างไรก็ตาม ย่อมทำให้มิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาในโลกอินเตอร์เน็ตมากขึ้นด้วย ฉะนั้นมาป้องกันไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ด้วยวิธีการเบื้องต้น ดังนี้ ตรวจสอบและเปรียบเทียบราคาสินค้าจากหลายๆร้าน เลือกซื้อของจาก Official store หรือแพลตฟอร์มที่ไว้ใจได้ เก็บหลักฐานการโอนเงินไว้เสมอ ทำลายข้อมูลส่วนตัวบนกล่องพัสดุ ตรวจสอบบัญชีผู้โอน สืบประวัติของผู้ขายเบื้องต้น โดยนำเลขที่บัญชีหรือชื่อของผู้ขายไปค้นหาบน Google เพื่อที่จะหาประวัติว่าเคยมีคนโพสต์เกี่ยวกับการฉ้อโกงในการซื้อของหรือไม่ โอกาสที่เราจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพจะเกิดขึ้นน้อยมากหากเราใช้ “สติ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง