ข่าว

ดัดแปลงรถ เพิ่มช่องลับไว้ขนยาเสพติด ดันขับชนเสาไฟฟ้า ถูกตำรวจรวบ

แก๊งลำเลียงยาเสพติดเข้ามชาติ ดัดแปลงรถ เพิ่มช่องลับไว้ขนยา ดันขับชนเสาไฟฟ้า ถูกตำรวจรวบ ขยายผลจับเพิ่ม พบ รถรอดัดแปลงอีกเพียบ

2 ก.ย. 2567  ป.ป.ส.  กรมยุทธการทหารเรือ  ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ 

สำนักงานผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง(ปส.ทอ.) 

ร่วมแถลงผลงาน  “ปฏิบัติการกวาดล้างแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน” พร้อมยาเสพติดของกลาง เฮโรอีน 91.7 กก. (262 แท่ง) และรถกระบะที่มีการดัดแปลงทำช่องลับสำหรับซุกซ่อนยาเสพติด ณ ต.บางแม่นาง 

อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

 

ดัดแปลงรถ เพิ่มช่องลับไว้ขนยาเสพติด ดันขับชนเสาไฟฟ้า ถูกตำรวจรวบ

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2567 มีรายงานอุบัติเหตุ รถยนต์กระบะ วีโก้ ต้องสงสัย เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ที่ จ.เชียงราย โดยผู้ขับขี่ ไม่ยอมให้ยกรถไปซ่อม และได้หลบหนีไป เมื่อตรวจสอบ พบว่า  รถคันดังกล่าวมีช่องลับบริเวณกระบะท้ายรถ 

ดัดแปลงรถ เพิ่มช่องลับไว้ขนยาเสพติด ดันขับชนเสาไฟฟ้า ถูกตำรวจรวบ

จากนั้นได้บูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดและมอบหมายให้ หน่วยบัญชาการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) เฝ้าระวังรถยนต์ที่มีพฤติการณ์น่าสงสัย 

ดัดแปลงรถ เพิ่มช่องลับไว้ขนยาเสพติด ดันขับชนเสาไฟฟ้า ถูกตำรวจรวบ

ต่อมา 3 ก.ค. 2567 นบ.ยส.35 และ กกล.ผาเมือง สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน พร้อมไอซ์ 106 กิโลกรัม ที่ถูกดัดแปลงซุกซ่อนในรถยนต์ 2 คัน (ซึ่งจะผู้ต้องหาเป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว และรถที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ จ.เชียงราย) ตนเชื่อว่า มีเครือข่ายกลุ่มลำเลียงยาเสพติดที่ใช้รถกระบะดัดแปลงทำช่องลับในการซุกซ่อนยาเสพติดและคาดว่าน่าจะมีอีกจำนวนหลายคัน 

ดัดแปลงรถ เพิ่มช่องลับไว้ขนยาเสพติด ดันขับชนเสาไฟฟ้า ถูกตำรวจรวบ

จึงได้เร่งสั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด มอบหมายชุดปฏิบัติการ 

เฝ้าติดตามสืบสวนวิเคราะห์พฤติการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มรถยนต์กระบะต้องสงสัยดัดแปลงทำช่องลับ จนสามารถพิสูจน์ทราบได้ในเวลาต่อมาอีกจำนวนหลายคัน พบพฤติการณ์สวมทะเบียนรถปลอม เพื่อใช้

อำพรางในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด 

 

เช้ามืดของวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากชุดปฏิบัติการ ป.ป.ส. ตรวจสอบ พบว่า มีรถยนต์ต้องสงสัยที่กำลังสืบสวนและเฝ้าระวัง เดินทางออกจาก จ.เชียงราย มุ่งหน้าเข้าพื้นที่ภาคกลาง 

ดัดแปลงรถ เพิ่มช่องลับไว้ขนยาเสพติด ดันขับชนเสาไฟฟ้า ถูกตำรวจรวบ

จึงร่วมมือประกอบกำลัง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหาร นบ.ยส.35, ฝขว.ศปก.ทบ, ฉก.ทัพเจ้าตาก 

กองกำลังผาเมืองฯ, เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.5, ชุดสกัดกั้นยาเสพติด ภ.5, ศูนย์อำนวยการป้องกัน

และปราบปรามยาเสพติดกองทัพเรือ บก.ส่วนควบคุมส่วนหน้า ชปพ.ศอ.ปส.ทร. (นสร.กร.) และ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพอากาศ (ศอ.ปส.ทอ.) ร่วมติดตามจนพบว่า รถยนต์ต้องสงสัยขับ

เข้าไปจอดในพื้นที่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 

และในบริเวณดังกล่าวมีลักษณะคล้ายโกดังล้อมรั้วด้วยสังกะสี ชุดปฏิบัติการจึงนำกำลังแสดงตัวขอเข้าตรวจค้นจับกุม 

ดัดแปลงรถ เพิ่มช่องลับไว้ขนยาเสพติด ดันขับชนเสาไฟฟ้า ถูกตำรวจรวบ

โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทันที 2 คน (คนขับรถดัดแปลงที่ซุกซ่อนยาเสพติด และ คนขับรถนำทางเข้าโกดัง/ เฝ้าโกดัง) และพบของกลาง เฮโรอีน 91.7 กิโลกรัม (262 แท่ง) ถูกซุกซ่อนในรถกระบะดัดแปลงทำช่องลับ นอกจากนี้ ยังพบรถยนต์สภาพค่อนข้างเก่า จำนวน 4 คัน ถูกจอดทิ้งไว้ และได้ขยายผลตรวจค้นอีก 4 จุด 

-จ.นนทบุรี 1 จุด

- จ.สมุทรปราการ 1 จุด

- จ.ชลบุรี 2 จุด 

 

ผลการตรวจค้น ไม่พบยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายเพิ่ม แต่ได้ยึดทรัพย์สิน อาทิเช่น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 1 แปลง เงินสด รถยนต์ ทองคำ ยางอะไหล่รถยนต์ และล้อแม็ก รวมมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท

 

ดัดแปลงรถ เพิ่มช่องลับไว้ขนยาเสพติด ดันขับชนเสาไฟฟ้า ถูกตำรวจรวบ

ทั้งนี้จากการสืบสวน ผู้ต้องหาให้การว่า ลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 3 ครั้ง โดยยาเสพติดส่วนใหญ่เป็นประเภท เฮโรอีน ไอซ์ คีตามีน และ ยาบ้า ใช้เส้นทางลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากพื้นที่ภาคเหนือ ลักษณะเลี่ยงด่านตรวจ ตั้งแต่ จ.เชียงราย - จ.พะเยา - จ.ลำปาง - จ.แพร่ - จ.อุตรดิตถ์ - อ.วังทอง จ.พิษณุโลก - อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร - อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ - จ.สิงห์บุรี - จ.พระนครศรีอยุธยา - จ.ปทุมธานี - จนถึง 

จ.นนทบุรี (จุดเก็บพักยาเสพติด)

 

 

 จากคำให้การของผู้ต้องหาเพิ่มเติม ยังพบว่า ยาเสพติด (เฮโรอีน ไอซ์) ถูกลักลอบลำเลียงครั้งละประมาณ 100 กิโลกรัม เฉลี่ยเดือนละ 3 ครั้ง ซึ่งเท่ากับว่าภายในระยะ 1 เดือน เครือข่ายดังกล่าวจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าพื้นที่ตอนในประมาณ 300 กิโลกรัม

 

 

ซึ่งจากการสืบสวนและตรวจสอบของเจ้าหน้าที่นั้นพบว่า ตั้งแต่ห้วงเดือนมีนาคม 2567 – ปัจจุบัน รวมระยะเวลา 6 เดือน รถยนต์คันดังกล่าวมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 15 ครั้ง (เฉลี่ยเดือนละ 3 ครั้ง) เมื่อนำยาเสพติดเข้าเก็บพักในพื้นที่ภาคกลาง และจะนำยาเสพติดไปซุกซ่อนในรถยนต์คันอื่นต่อ เช่น รถยนต์สภาพเก่าที่พบ เป็นต้น  แล้วนำขึ้นรถสไลด์เพื่อทำการอำพราง จากนั้นจึงลำเลียงไปยังพื้นที่ภาคตะวันออก (จ.ระยอง) ผ่านการขนส่งทางเรือ เพื่อไปยังปลายทางประเทศที่สามต่อไป

ดัดแปลงรถ เพิ่มช่องลับไว้ขนยาเสพติด ดันขับชนเสาไฟฟ้า ถูกตำรวจรวบ

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องขอขอบคุณและชื่นชมการบูรณาการความร่วมมือในการทำงานร่วมกันของหน่วยงานภาคี หลังจากใช้เวลาติดตามพฤติการณ์ขบวนการดังกล่าวมานานร่วม 3 เดือน จึงจะสามารถพิสูจน์ทราบรถยนต์คันอื่น ๆ ที่อยู่ในขบวนการได้ รวมถึงขอบคุณความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ในการแกะรอยติดตามขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือเพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ตอนในและใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านขนส่งยาเสพติดไปประเทศที่สามต่อไป

 

 

จากนี้สำนักงาน ป.ป.ส. จะเร่งขยายผลเพื่อหานายทุนผู้สั่งการและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และขออยากฝากประชาชนหากพบเห็นเบาะแสยาเสพติดสามารถแจ้งได้ที่ 1386 ได้ทันที เพื่อร่วมกันเฝ้าระวัง และร่วมกันสร้างสังคมปลอดยาเสพติด

ข่าวยอดนิยม