หนุ่ม ปวช. เล่าปมเหตุรัวยิง รุ่นพี่ ปวส.คาหอพัก

2 ก.ย.2567 กรณี นายนนทกร หรือกร อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้น ปวส. 1 วิทยาลัยฯแห่งหนึ่ง ถูกยิง เข้าร่างกายจำนวน 4 นัด เสียชีวิต บนพื้นหน้าห้องพัก ภายในหอพักเอกชนตรงข้ามวิทยาลัยฯแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง โดยมีอาวุธปืนแบลงค์กัน ชนิดแม็กกาซีนดัดแปลงสภาพสำหรับใช้กับกระสุนจริงของผู้ตายตกอยู่ใกล้ตัว 1 กระบอก

 

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายนฤเทพ (สงวนนามสกุล) หรือปิง อายุ 17 ปี ชาวจ.ตรัง นักศึกษาระดับชั้น ปวช.2 วิทยาลัยฯเดียวกัน เพื่อนรุ่นน้องของผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 31 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา

โดยล่าสุด วันนี้ เวลา 12.10 น. ที่กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ตรัง แม่บุญธรรม ได้พา นายนฤเทพ หรือ ปิง ผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง และ พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง ก่อนควบคุมตัวส่ง ร.ต.อ.พันธรักษ์ พงศ์พฤกษธาตุ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองตรัง เจ้าของคดี จากนั้นได้นำตัวเข้าควบคุมในห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อรอเบิกตัวมาสอบปากคำ ร่วมกับทีมสหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับ นายนฤเทพ ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน

 

โดยระหว่างที่นำตัว นายนฤเทพ เข้าห้องควบคุมผู้ต้องหา พบว่าแม่บุญธรรมมีสีหน้าและแววตาเคร่งเครียด

 

ก่อนที่ผู้ต้องหาจะตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆถึง สาเหตุที่ลงมือว่า “ถ้าผมไม่ทำ ผมก็ตายครับ ปืนของเขาหมดเลยครับ”

 

โดยแม่บุญธรรมของผู้ต้องหา กล่าวว่า เตรียมาขอประกันตัวลูก ส่วนวงเงินยังไม่ทราบ และยังไม่สบายใจ ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องพนักงานสอบสวนไป

 

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า พฤติการณ์ผู้เสียชีวิตได้ชักชวนผู้ก่อเหตุ พร้อมเพื่อนเข้ามานั่งดื่มน้ำต้มกระท่อมภายในห้องพักของผู้ตาย หลังจากเพื่อนคนอื่นๆกลับไปแล้ว เหลือแค่เพียงผู้ก่อเหตุและผู้ต้องหา ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ผู้ตายได้กินยาอัลฟาโซแลมเข้าไปด้วยคู่กับน้ำต้มพืชกระท่อม จนทำให้ผู้ตายเลอะเลือน ไม่มีสติ ก่อนที่ผู้ตายได้นำอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอกของผู้ตาย ออกมาเล่นและเดินถือวนเวียนอยู่ภายในห้อง จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุอ้างว่าได้มีการบันทึกคลิปเป็นหลักฐานไว้

 

ขณะที่ผู้ก่อเหตุเผลอ ผู้ตายได้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ที่ถืออยู่มาจ่อเข้าที่ศีรษะของผู้ก่อเหตุ จนทั้งคู่มีการทะเลาะวิวาทกัน และทำให้ผู้ก่อเหตุยื้อแย่งปืนออกมาจากมือผู้ตายได้ ก่อนจะกระหน่ำยิงไปและขับรถหลบหนี ไปดังกล่าว

 

หลังเกิดเหตุได้หลบหนีเข้าพื้นที่ อ.กันตัง และหลบหนีไปยังต่างจังหวัด ก่อนจะถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่และเข้ามามอบตัวตามหมายจับดังกล่าว

 

อย่างไรก็ตามจากการตรวจค้นภายในห้องพักในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบยาชนิดเม็ด Convulsil Clonazepam (โคลนาซีแพม) ประมาณ 1 แผงอยู่ภายในห้องพักผู้ตาย ซึ่งยาดังกล่าวนี้ข้อมูลจากเว็บไซต์สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟู ผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) ระบุว่า เป็นยาที่มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 4 ตาม พระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ในทางการแพทย์ใช้เป็นยากันชัก ที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคลมชัก

 

ช่วยคลายกังวลสำหรับผู้ที่เป็นโรคตื่นตระหนก และช่วยรักษาอาการผิดปกติของการเคลื่อนไหว โดยยาจะออกฤทธิ์ ยับยั้งการทำหน้าที่ของเซลล์ประสาท มีผลทำให้ผู้ใช้ยาลดอาการวิตกกังวลและตื่นตระหนกลงได้ ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ต้านอาการชัก ผลข้างเคียงจากการใช้ จะทำให้มีอาการง่วงซึม มึนศีรษะ สับสน จดจำสิ่งต่างๆ ไม่ได้ อาจทำให้เกิดอาการใจสั่นหรือมีชีพจรเต้นเร็วในผู้ใช้บางราย มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง หายใจช้าลง หรือหายใจสั้นๆ หูแว่ว เห็นภาพหลอน มีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหวและการทรงตัว อารมณ์ไม่คงที่ เช่น

 

ตื่นเต้นผิดปกติ พูดไม่หยุด โมโห โดยจะออกฤทธิ์นานประมาณ 8 ชั่วโมง ซึ่งห้ามมิให้มีการจำหน่ายเว้นแต่ได้รับอนุญาต หรือมีใบสั่งจากแพทย์ เป็นยาที่ต้องควบคุมการใช้ เนื่องจากอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย