แก๊งยานรก “เสือปุ่น” เน็ตไอดอล เหิมปล้นสายลับ ถูกตร.แก้เกมซ้อนแผนรวบ

3 ก.ย. 2567 เกิดเหตุสืบนครนายก วางแผนล่อซื้อยาเสพติด จากกลุ่มคนร้าย แต่คนร้ายกลับหักหลังปล้นเงินสายลับตำรวจ แต่ไปไม่รอด โดนจับยกแก๊ง

 

โดยชุดสืบสวนจังหวัดนครนายก วางแผนล่อซื้อยาไอซ์ 50 กิโลกรัม มูลค่า 9 ล้านบาท จาก เสือปุ่น เน็ตไอดอล กับพวก โดยตกลงนัดดูเงินที่ห้างแห่งหนึ่งในจังหวัดนครนายก ก่อนบ่ายเบี่ยงไม่ยอมมอบยาตามที่นัดกัน แต่ที่นัดให้ไปรับยาที่อำเภอบ้านนา แทน

 

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายขับรถประกบหน้าหลัง กระชากสายของตำรวจลงจากรถใช้ปืนตบ ก่อนใช้เคเบิ้ลไทร์มัดมือ ขณะที่ชุดปฏิบัติการพิเศษและสืบจังหวัดนครนายกที่เตรียมพร้อมเข้าชาร์จ กลุ่มคนร้ายหนีเข้าป่ากระเจิง

โดยมี พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 นำกำลังมาเสริมช่วยชุดปฏิบัติการพิศษ สืบจังหวัด สามารถรวบได้ 10 คน เหลืออีก 2 คน ที่ยังหลบหนี

 

พ.ต.อ.ฤตวีร์  สุขเจริญ ผกก.สส.ภ.จว.นครนายก บอกว่า ชุดสืบจังหวัดนครนายก ได้วางแผน พูดคุยติดต่อกับกลุ่มคนร้ายมาสักระยะเวลาหนึ่งแล้ว จนกระทั่งมีการตกลงนัดส่งของเป็นยาไอซ์จำนวน 50 กิโลกรัม โดยใช้เงินล่อซื้อจำนวน 9 ล้านบาท ที่ห้างสรรพสินค้าในจังหวัดนครนายก โดยคนร้ายได้แบ่งทีมเป็นสองทีม ทีมแรกเข้ามาดูเงินกับสายของตำรวจที่ห้าง เมื่อคนร้ายเห็นเงินแล้วก็บอกให้ไปรับของที่อำเภอบ้านนา ซึ่งตามแผนของตำรวจคนร้ายต้องเอาของมาส่งที่ห้างแห่งนี้ แต่คนร้ายนั้นไม่ยอม ต้องไปเอาของที่อำเภอบ้านนา ทางตำรวจจึงยอมตามน้ำไปยังอำเภอบ้านนา โดยคนร้ายบอกว่าจะเอาของโยนไว้ข้างทางให้ไปรับ บริเวณริมถนนคลองห้วยถ่าน หมู่ 12 ตำบลป่าขะ อำเภอบ้านนา มีลักษณะเป็นทางเข้าเป็นป่าทึบ

 

เมื่อสายลับตำรวจ 2 นาย ไปถึง ก็มีคนร้ายขับรถมาปิดหน้าและท้ายรถจำนวน 2 คัน จากนั้นได้เข้าไปกระชากสายตำรวจทั้ง 2 คน ลงจากรถ จากนั้นใช้อาวุธปืนตีที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บ และทำการค้นตัวสายตำรวจทั้ง 2 คน จากนั้นนำเคเบิ้ลไทร์มารัดมือสายของตำรวจ และบังคับให้พูดว่าได้ยาได้แล้ว

 

เป็นจังหวะเดียวกับชุดตำรวจที่ติดตามมาได้เข้าชาร์จทำการจับกุมกลุ่มคนร้าย ตอนนั้นเกิดชุลมุน อีกทั้งคนร้ายมีอาวุธปืน ได้ทำการสไลด์ปืนขึ้นลำ จ่อหัวสายลับของตำรวจ ตอนนั้นได้มีการใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กัน ระหว่างคนร้ายและตำรวจ โดยคนร้ายได้วิ่งหนีกระจัดกระจายไปในป่า คาดว่ามี 7-8 คน ตอนนี้มีคนร้ายที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ ทั้งหมด 10 คน ส่วนอีก 2 คน กำลังหลบหนี

 

จากการสอบสวน คนร้ายยอมรับว่าไม่มีของคือยาไอซ์ แต่เจตนาที่มานั้นเพื่อที่จะมาปล้นเงิน เข้าใจว่าสายตำรวจนั้นเป็นพ่อค้ายาจริงๆ ทั้งนี้ทางตำรวจขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนไฟส่องสว่าง รวมถึงเป็นหูเป็นตา ช่วยกันตามหาจับคนร้ายจนสามารถจับกุมได้เรื่อยๆ จนตอนนี้เหลือ 2 คน โดยมีหญิงเพียง 1 คน ซึ่งในกลุ่มนี้มีเสือปุ่น บางคนเป็นที่ปรึกษาของ กต.ตร.โรงพักแห่งหนึ่ง โดยมีลักษณะรู้เห็นวิธีการทำงานของเจ้าหน้าที่ เลยมาอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐในระหว่างการจับกุม

 

ขณะที่คนร้ายอีก 2 คน ที่หลบหนีไปได้ ทางสืบจังหวัดนครนายกทราบ ชื่อกับนามสกุลแล้ว เนื่องจากพื้นที่จุดที่คนร้ายหลบหนีนั้นเป็นป่าทุ่ง มีเส้นทางเข้าออกได้หลายเส้นทาง ขณะที่เมื่อคืนวานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังค้นหานั้น พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ควบคุมการทำงานด้วยตนเอง พร้อมนำกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษภาค และ จากจังหวัดปราจีนบุรี มาช่วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดนครนายก ในการค้นหาจนได้เพิ่มมา 2 คน และตอนเช้าวันนี้ได้มาอีก 1 คน

 

สาเหตุที่เข้าทำการล่อซื้อจับกุมกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ เนื่องจากทางสืบจังหวัดนครนายก ได้มีการตรวจเช็กข้อมูล ว่า มีการซื้อขายยาเสพติด ที่ผ่านมาทางสืบจังหวัดนครนายก็เคยทำคดีล่อซื้อยาเสพติดยาบ้าจำนวน 4 แสนเม็ด ที่เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งไม่ใช่คนร้ายกลุ่มนี้

 

ขณะเดียวกัน ตำรวจสภ.บ้านนา ได้ตรวจยึดของกลางเป็นรถกระบะอีซูซุ สีบอรนซ์ทอง รถกระบะโตโยต้า รีโว้ สีขาว และรถ SUV มิตซูบิชิ สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึง อาวุธปืนสั้น 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืน เคเบิ้ลไทร์ และตะปู ไว้เป็นพยานหลักฐาน ประกอบสำนวนคดี

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ถนนคลองห้วยถ่าน หมู่12 ตำบลป่าขะ อำเภอบ้านนา พบว่าเป็นป่าข้างทางที่มีทางพอให้รถกระบะเข้าไปทางเดียว และเป็นแยกสองทาง ทางหนึ่งเข้าทุ่งหญ้ากว้าง อีกทางหนึ่งเป็นทางรถเข้าไป หลังจากที่คนร้ายถูกตำรวจเข้าชาร์จก็ได้วิ่งหนีกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง