ปู่ อำมหิต เล่าเป็นฉาก ชิงตัวหลานว่ายน้ำหนีคนร้าย ที่แท้หลอนยา โยน 6 ขวบ จมดับ
ปู่หลอนยา เล่าเป็นฉาก หลานถูกคนร้ายจับ ชิงตัวว่ายน้ำหนี ทำหลานหลุดมือจมน้ำดับ ที่แท้หลอนฤทธิ์ยา ความจริง โยน 6 ขวบ จมดับ โดนตั้ง 2 ข้อหา ฆาตกรรมหลานแท้ๆ
4 ก.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี แจ้งข้อหา นายอินทร์ อภัยศิลา อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้างขับรถบรรทุกดิน และขับรถแบ็คโฮ “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” ฆาตกรรมหลานสาวตัวเองแท้ๆ เนื่องจากอาการหลอนเพราะฤทธิ์ยาเสพติด ประกอบกับการกระทำประชดภรรยาที่หนีออกจากบ้านไปทำงานที่ กทม.2 ปีแล้ว
ตำรวจสอบสวนถึงเหตุแรงจูงใจกระทำการฆ่าหลานสาวในครั้งนี้ ผู้ต้องหา ตอบวกไปวนมาจนถึงตี 3 ไม่มีอะไรคืบหน้า จึงยุติการสอบสวน เช้าวันที่ 4 ก.ย. จึงเริ่มสอบใหม่อีกครั้ง ผู้ต้องหายังคงตอบเหมือนเดิม คือมีคนสั่งทางโทรศัพท์ให้พาหลานมายังจุดบุ่งหนองไชวาน หรือหนองปลาเซือม ซึ่งเป็นจุดที่ตัวเองเคยมารับจ้างใช้รถแบ็คโฮขุดลอกดิน จุดนี้ถ้าไม่เคยมาจะไม่รู้พื้นที่ตรงนี้ว่า มันเข้ามายากลำบาก ลับตาคนด้วย
ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ ครูที่เคยสอน ด.ญ.ชนิสรา (สงวนนามสกุล) 2 คน คุณครูหนึ่งฤทัย เล่าว่า ตั้งแต่ "น้องออเจ้า" หรือ ด.ญ.ชนิสรา เข้ามาเรียนอยู่ในชั้นอนุบาล 2 ใน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดเกษมศิริมงคล ตอนนั้นยังเด็กอยู่เข้ามาเรียนชั้นอนุบาล 2 ส่วนอนุบาล 1 ญาติพาไปเรียนอยู่ ร.ร.อนุบาลเอกชน ตั้งอยู่ อ.พรเจริญ
"น้องออเจ้า" เป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซนหรือเกเร แต่ดูแววตาเหมือนเด็กที่มีปัญหา ไม่สดชื่น พ่อก็ถูกจับติดคุกเมื่ออายุแค่ 1 ปีแม่ก็หนีไปแต่งงานใหม่ จึงอยู่กับปู่และย่า โดยมีย่าคือ นางรำพึง มารับ-ส่งทุกวัน ไม่คิดว่าปู่จะทำร้ายหลานจนถึงขนาดต้องเสียชีวิตก็รู้สึกเสียใจมาก
ส่วนครูละมุล ครูผู้สอน น้องออเจ้า ที่สอนอยู่ชั้นป.1 เล่าว่า มีแต่ปู่คนนี้ที่มารับมาส่งเป็นประจำทุกวันถ้าวันไหนมารับช้าครูก็ต้องนั่งรอแต่รอไม่นานก็มารับ โดยเด็กก็เป็นคนไม่ค่อยพูดจาก็มีอาการซึมบ้างไม่ค่อยสนุกสนานรื่นเริงกับเพื่อนๆ เท่าไหร่ แต่ก็เห็นติดกันกับปู่ดีไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันนั่งซ้อนท้ายไปตลอด ทั้งกลางคืน ทั้งไปทำงานที่อื่น เพราะปู่มีอาชีพรับจ้างทั่วไปขับรถบรรทุกขนดินบ้างขับรถแบ็คโฮบ้าง แต่น้องจะขาดโรงเรียนบ่อยเนื่องจากป่วยปู่ต้องมาลาโรงเรียนให้อยู่เรื่อย
ทางด้านของ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ เหนือโพธิ์ทอง พนักงานสอบสวน เจ้าของคดีได้คุมตัว นายอินทร์ อภัยศิลา อายุ 48 ปี ผู้ต้องหา ออกจากห้องขังเพื่อสอบสวนต่อจากเมื่อคืน พร้อมทั้งได้สอบพยานปากสำคัญประมาณ 10 คน
จากการสอบสวน นายอินทร์ ยอมรับเบื้องต้นว่าได้ ฆ่าหลานสาวจริง แต่ลักษณะแบ่งรับแบ่งสู้ อ้างว่า ถูกคนร้ายจับตัวหลานสาวไป ตนได้แย่งชิงมาได้ จากนั้นจึงอุ้มหลานกระโดดลงน้ำ จะว่ายหนีคนร้ายไปอีกฝั่งหนึ่งตรงข้าม โดยอุ้มหลานไว้ในวงแขน เพราะน้ำลึกทั้งเย็น จึงสลับแขนซ้ายเหนื่อยล้า ก็เปลี่ยนมาแขนขวา บางจังหวะก็มุดดำน้ำทำให้หลานหลุดมือไป ประกอบกับตัวเองก็ใจจะขาดด้วย โดยเล่าเหตุการณ์มาเป็นฉากๆ เชื่อว่าผู้ต้องหาเล่าเหมือนเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ทำจริง แต่เป็นเรื่องของประสานหลอน จึงได้แจ้งข้อหาเบื้องต้นว่า "เจตนาฆ่า"
ด้าน พ.ต.อ.พงษ์พัชร์ แจ้งหมื่นไวย์ รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนภูธรจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่าเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญอยู่ในความสนใจของประขาชนและสื่อมวลชน ทางผู้ว่าราชการและทางตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ให้ผมมาควบคุมการดำเนินงานในการสอบสวนแสวงหาข้อเท็จจริง ซึ่งรายละเอียดที่ออกไปตามสื่อต่างๆ
นายอินทร์ ได้ฆ่าเด็กหญิงซึ่งเป็นหลานสาว จากการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นทางผู้ต้องหา ได้รับสารภาพว่าตัวเองเสพยาเสพติดมีอาการข้างเคียงมีจิตประสาทว่าจะมีคนมาทำร้าย ด้วยความรักหลาน จึงพาไปหลบอยู่ภายในน้ำตั้งใจจะพาหลานว่ายน้ำไปอีกฝากหนึ่ง เนื่องจากมีบริเวณน้ำลึกกระแสน้ำเย็นทำให้เกิดอาการเป็นตะคริวเลยหลุดมือก็เลยทำให้หลานจมน้ำเสียชีวิต
หลังจากเกิดเหตุผู้ต้องหาจึงเดินทางไปยังบ้านพัก ในเขตพื้นที่อำเภอศรีวิไล ห่างจากที่เกิดเหตุไม่มาก แล้วก็แจ้งรายละเอียดบางอย่างเบื้องต้นให้กับญาติทราบ เราเลยให้ญาติมาให้ปากคำจำนวน 9-10 คน ทุกคนให้การเป็นประโยชน์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายอินทร์ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และผู้ต้องหาได้ให้ความร่วมมืออย่างดี ได้บันทึกภาพเคลื่อนไหวและเสียงตาม พรบ.ป้องกันความทรมานตามกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการเน้นย้ำความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย และจะดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อให้เกิดความโปร่งใสสามารถเป็นที่เชื่อมั่นและศรัทธากับพี่น้องประชาชนได้