ข่าว

ทนายตั้ม แฉ แก๊งฮั้วโควตาสลากกินแบ่งฯ คนพิการ

04 ก.ย. 2567

ทนายตั้ม พาคนตาบอดกว่า 150 คน ร้อง ยธ. เปิดโปงแก๊งฮั้วโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล ใช้บัญชีม้าสมาชิกสมาคมฯ รับสิทธิแทน แม้แต่นักกีฬาคนตาบอด ก็ไม่เคยได้รับสักเล่มเดียว

วันที่ 4 ก.ย. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พาคนพิการตาบอดจำนวน 150 ราย เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เพื่อให้ตรวจสอบการฮั้วจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล เนื่องจากมีการกระจุกตัวอยู่แค่คนกลุ่มหนึ่ง ไม่ถึงมือผู้พิการอย่างแท้จริง

 

ทนายตั้ม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มนักกีฬาคนตาบอดเคยร้องทุกข์กับตนที่สำนักงาน หากย้อนไปจะพบว่านักกีฬาคนพิการได้ออกไปแข่งขัน เอาชัยชนะ เอาเหรียญเงิน เหรียญทองกลับมาให้ประเทศชาติ แต่กลับไม่ได้รับการจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งฯ ทั้ง ๆ ที่ชื่อสมาคมที่เกี่ยวข้องก็มีชื่อชัดเจนโดยตรง คือ สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย แต่ปรากฏว่าสมาคมนี้ได้รับสลากกินแบ่งฯ ทั้งหมด 2,647 เล่ม แต่ไม่ถึงมือนักกีฬาเลยสักเล่ม 

ตนจึงสงสัยว่า ทำไมนักกีฬาคนตาบอดที่ไปทำชื่อเสียงให้ประเทศถึงไม่ได้รับโควตาเลย จึงทราบว่าอาจมีการฮั้วกัน คือ คนใดคนหนึ่งได้รับสลากกินแบ่งฯ ไปและหาบัญชีม้าที่ไม่ใช่นักกีฬา แต่เป็นสมาชิกของสมาคมเองไปรับเล่มสลากกินแบ่งฯ คนละ 20-30 เล่ม อีกทั้งยังไม่มีการจ่ายโอนเงินกับสมาคมฯ เพราะคนพวกนี้ไม่ได้รับสลากจริง แค่เป็นเหมือนบัญชีม้าที่จะได้รับผลตอบแทนงวดละ 1,000 บาท 

 

ทนายตั้ม แฉ แก๊งฮั้วโควตาสลากกินแบ่งฯ คนพิการ

 

ทนายตั้ม กล่าวต่อว่า การกระทำดังกล่าวจะตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงินได้หรือไม่ เพราะข้อมูลที่ตนได้รับจากสมาคมพบว่า มีเงินเข้าผู้มีตำแหน่งในสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย รวมประมาณ 200-300 ล้านบาท เดือนละประมาณ 20 ล้านบาท มันเป็นเงินมาจากอะไรและบัญชีที่มารับเล่มสลากกินแบ่งฯ มีการรับจริงไหม เพราะถ้ารับสลากจริงจะต้องมีการโอนเงินจ่ายสมาคมฯ อีกทั้งเสียภาษีตามกฎหมายหรือไม่ 

ทนายตั้ม ยังมองไปถึงสถานการณ์ที่มีการเอาชื่อพี่น้องคนตาบอดทั่วประเทศไปอยู่ในสมาคมต่าง ๆ แต่พี่น้องไม่เคยได้รับสิทธิประโยชน์เลย หากทางกระทรวงยุติธรรม สามารถทลายเครือข่ายนี้ได้ สามารถเปิดโปงว่า ไม่ได้มีการเอาสลากกินแบ่งฯ ให้สมาชิกในสมาคม แต่เอาไปกระจุกไว้กับคนกลุ่มเดียว จะทำให้พบกับอีกหลายสมาคมและท้ายสุดจะทำให้พี่น้องคนพิการได้เอาสลากกินแบ่งฯ ตามโควต้าไปจำหน่าย เลี้ยงชีพตัวเองได้จริง ๆ 

 

ส่วนนายสมชาย ปัญญ์เอกวงศ์ ประธานที่ปรึกษาสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผ่านมาการคัดเลือกนักกีฬาคนตาบอดไปร่วมแข่งขันอย่างยุติธรรม ไม่ใช่เอาแต่พรรคพวก เพื่อกลับมาได้มีงานทำเหมือนกับนักกีฬาปกติทั่วไป มียศ มีตำแหน่ง แต่ก็ไม่ได้รับโอกาส การไปแข่งขันเก็บตัวนักกีฬาก็เป็นเดือน เพื่อแข่งขันไม่กี่วัน หากจะแก้ไขปัญหาไม่ใช่เฉพาะสมาคมนักกีฬาตาบอดแห่งประเทศไทยเท่านั้น แต่รวมถึง สมาคม มูลนิธิ องค์กร ที่ได้รับจัดสรรการแบ่งฉลากกินแบ่งรัฐบาล จากสำนักงานกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งพบว่าหลายองค์กรมีพฤติกรรม ร้อยละ 90 ไม่เป็นธรรม

 

ด้าน น.ส.สุภดี ปานเสน่ห์ อายุ 41 ปี อดีตนักกีฬากรีฑาหญิง ระยะสั้น กล่าวว่า ตนเป็นนักกีฬามา 10 สมัย เล่นกีฬาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปี 2552 ตนได้รับชัยชนะมาตลอด ได้เหรียญทองมาให้ประเทศชาติ ไม่เคยทำให้คนไทยผิดหวัง แต่ปัจจุบันตนกลับไม่ได้รับการจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลจากสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทยแม้แต่เล่มเดียว ตนไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย เราทำอะไรเพื่อประเทศชาติมานาน พอวันนึงที่เราไม่ได้เล่นกีฬาแล้ว แค่ขอความอนุเคราะห์ให้สมาคมช่วยจัดสรรเล่มล็อตเตอรี่ให้เราได้ใช้ขาย เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ 

 

แม้ที่ผ่านมาพี่น้องคนพิการตาบอดจะพยายามประสานขอความอนุเคราะห์ แต่ก็ไม่เคยได้รับการจัดสรรที่เพียงพอ และต้นทุนราคาไม่ได้ทำให้ขายแล้วเหลือกำไรเท่าใดนัก เพราะราคาใบล็อตเตอรี่ หากคิดต้นทุนตกใบละ 76-79 บาท แต่รัฐกำหนดให้ขาย 80 บาทต่อใบ ขณะที่ราคาเล่มล็อตเตอรี่ ตกเล่มละ 7,000 กว่าบาท (1 เล่ม มี 100 ใบ) หักค่ารถค่าเดินทาง ค่าน้ำมันก็แทบไม่เหลือ จึงขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือ ช่วยให้เกิดการจัดสรรเล่มล็อตเตอรี่ 4-5 เล่มต่อคน และเราไม่ได้อยากซื้อต่อจากพ่อค้าคนกลาง อยากได้จากการจัดสรรโควต้าโดยตรง 

 

ทนายตั้ม แฉ แก๊งฮั้วโควตาสลากกินแบ่งฯ คนพิการ

 

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรับรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับเอกสารที่กลุ่มของผู้พิการคนตาบอดยื่นให้กระทรวงยุติธรรมช่วยตรวจสอบนั้น ประกอบด้วย บัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่ 098-1-*****-* , งบการเงินสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย ปี 2564-2566 , รายชื่อคนที่ได้รับสลากจากสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย เนื่องจากบัญชีธนาคารกรุงไทย ของผุ้มีตำแหน่งในสมาคมมีรายการฝากถอนเงิน และมีเงินเข้าบัญชีประมาณ 20 ล้านบาทต่อเดือน มีเงินรายได้เข้าบัญชีมาจากที่ใด เนื่องจากเดิมทีในเดือน ก.พ.2566 มีเงินติดบัญชี 180 ล้านบาท แต่พอเดือน มี.ค. - เดือน มิ.ย. กลับมีเงินเพิ่มขึ้นเป็น 200-220 ล้านบาท

 

อีกทั้งขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินบุคคลตามบัญชีรายชื่อผู้ขอรับการจัดสรรสลากกินแบ่ง ได้จ่ายเงินค่าสลากกินแบ่งให้แก่สมาคมจริงหรือไม่ หากจ่ายด้วยเงินสด สมาคมได้จัดทำบัญชีรายชื่อและลงชื่อผู้จ่ายเงินไว้หรือไม่ มีการจัดทำบัญชีการซื้อขายระหว่างสมาชิกกับสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทยและลงรายการไว้ในงบการเงินประจำปีสำหรับตรวจสอบทางราชการและแสดงรายได้ต่อสรรพากรหรือไม่ ในปี 2561-2566 ได้ลงรายการซื้อขายสลากกินแบ่งให้กับสมาชิกไว้ในงบการเงินประจำปีหรือไม่ 


ด้านนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม และในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายการเมือง ตัวแทนรับเรื่องร้องเรียน กล่าวว่า ตนได้ประสานเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พิจารณารับเรื่องตามลำดับขั้นตอน ซึ่งได้รับข้อมูลมาเบื้องต้นแล้ว และได้รับเอกสารการชี้แจงจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดยสรุปใจความสำคัญได้ว่า การให้โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลจะให้ในนามของสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทยและต้องเป็นสมาชิก ซึ่งทางทนายษิทรา และนายสมชาย อธิบายให้ฟังว่า มีการกีดกันเกิดขึ้นที่ทุกท่านจะต้องไปสมัครเป็นสมาชิก และสมาคมอื่น ๆ 

 

แม้ไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม แต่เมื่อท่านเดินทางมาหา เราจะรวบรวมปัญหาทุกประการ เพื่อจะเสนอ พ.ต.อ.ทวี ดำเนินการออกหนังสือไปยังนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประสานข้อมูลระหว่างกัน 

 

ด้านนายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม (ดีเอสไอ) กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับไปประมวลเรื่อง ก่อนตั้งเลขสืบสวนคดีพิเศษ เพื่อจะได้ส่งหนังสือเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าให้ถ้อยคำ และจะดูด้วยว่ามีการกระทำความผิดทางอาญาในเรื่องใด เข้าข่ายฐานความผิดใดบ้าง รวมถึงจะเข้าองค์ประกอบของ พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 หรือการรับเป็นคดีพิเศษ หรือไม่ 

 

แต่ขณะนี้เบื้องต้นยังไม่พบว่า มีส่วนใดเข้าบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษฯ แต่อาจจะเข้าข่ายการยักยอก ฉ้อโกงก็เป็นได้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องนำเรื่องเข้าคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) โดยที่จะไม่มีเรื่องระดับความเสียหายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จะประเมินจากความหนักเบาของเรื่องราว และผลกระทบต่อสังคม