ต้นไม้ยักษ์ล้มทับรถพังยับเยิน แต่รอดมาได้ สาวคนขับเชื่อพระคุ้มครอง

6 ก.ย.2567 กรณีเกิดพายุฝนซัดต้นไม้ขนาดใหญ่ ล้มทับรถยนต์ พังยับครึ่งคัน โดย นางสาวกฤษณา ณ วันติ๊บ หรือ เฟิร์น อายุ 43 ปี คนขับรถ อาชีพรับเหมาก่อสร้างและรีโนเวทบ้าน ที่นั่งอยู่ในรถรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด เหตุเกิดริมแม่น้ำโขง จ.นครพนม

โดย นางสาวกฤษณา เปิดใจว่า เป็นคน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ อดีตเคยเป็นสะใภ้อยู่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม แม้จะหย่าร้างกับสามีไปแล้ว แต่ยังคงแวะมาเยี่ยมเยียนย่าทวดที่อยู่ อ.ท่าอุเทน เป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุ ได้เดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต โดยยืมรถยนต์ญาติมาใช้ เพราะต้องไปรับลูกสาวที่นั่งเครื่องบินมาเพื่อไปกราบย่า

เวลาประมาณ 11.30 น. ขณะที่ตนขับรถเลียบริมแม่น้ำโขง เห็นฟ้ามืดครึ้ม บังเอิญมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จึงจอดรถคุยเรื่องงานริมฟุตบาทใต้ต้นไม้ใหญ่ หน้าโรงเรียนสุนทรวิจิตร ระหว่างนั้นมีลมพายุพัดมาแรงมาก ตนจึงรีบวางสายเพื่อจะสตาร์ทรถขับออกไป แต่ยังไม่ทันจะหมุนกุญแจรถก็มีเสียงดังโครมลงหลังคารถ ทีแรกคิดว่าถูกรถชนท้าย มองอีกทีเป็นต้นหางนกยูงโค่นทับ ตนร้องด้วยความตกใจ

จังหวะเดียวกันมีรถขับมาเจอเป็นชาย 2 คน ก็จอดรถวิ่งลงมาช่วยดึงตนออกจากเก๋งได้อย่างปลอดภัย และ เชื่อว่าเกิดจากปาฏิหาริย์พระผงพิมพ์หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ กับ รูปหล่อฤาษีที่พกอยู่ในกระเป๋าสะพายตลอดเวลา ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย ถึงแม้รถยนต์จะเสียหาย แต่ถือว่าโชคดีไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย และอยากขอบคุณชายทั้งสองคนที่เข้ามาช่วยเหลือ เพราะหลังเกิดเหตุมันชุลมุนมาก เลยไม่มีเวลาจะกล่าวขอบคุณ

คนนครพนมน่ารักทุกคน ตนถึงยอมมาจากเชียงใหม่มาเป็นสะใภ้ที่นี่ เสียดายที่หย่าร้างกับสามีด้วยเหตุผลบางอย่าง ทั้งนี้ในส่วนของเทศบาลเมืองนครพนม ได้ระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ให้การช่วยเหลือตัดกิ่งไม้ออกจากถนน ที่กีดขวางการจราจร พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชน ที่ผ่านไปมาระมัดระวัง เนื่องจากพื้นที่ถนนเลียบโขงบางจุดมีต้นไม้ใหญ่ ภายในรากผุกร่อนตามอายุ เสี่ยงเกิดหักโค่นเป็นอันตราย

เตือนอย่าจอดรถใกล้ต้นไม้ใหญ่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดยเฉพาะในช่วงฝนตกลมแรง ซึ่งตามกฎหมายไม่สามารถตัดเองได้โดยพลการ

สำหรับการดูแลเยียวยา นายโชคดี มังคละคีรี รองนายกเทศบาลฯ ได้พูดคุยกับผู้เสียหายเบื้องต้นแล้ว โดยจะพิจารณาชดเชยเยียวยา ตามระเบียบการช่วยเหลือทางราชการต่อไป เนื่องจากมีระเบียบสามารถช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย หากเกิดจากภัยธรรมชาติหรือสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งต้นไม้ ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน