6ก.ย.2567 ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม นายภานุพงศ์ฯ อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ (หลบหนีหมายศาล) ดังนี้ในความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และความผิดตาม ประมวลกฎหมายยาเสพติด
สถานที่จับกุม บริเวณตลาดรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงประมาณปี พ.ศ. 2566 นายภานุพงศ์ฯ ซึ่งประกอบอาชีพรับจ้างเป็นช่างซ่อมเบาะรถยนต์ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี มีพฤติกรรมชอบมั่วสุมกับเพื่อนเสพยาเสพติด จนทำให้เงินที่หามาได้จากการทำงานรับจ้างหมดไปกับยาเสพติด ต่อมานายภานุพงศ์ฯ จึงผันตัวเองมาเป็นขโมย ตระเวนงัดแงะตามบ้านชาวบ้านในพื้นที่ เข้าไปลักทรัพย์สินมีค่าภายในบ้านนำไปขายและจำนำเพื่อนำเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ
สถานที่จับกุม บริเวณตลาดรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงประมาณปี พ.ศ. 2566 นายภานุพงศ์ฯ ซึ่งประกอบอาชีพรับจ้างเป็นช่างซ่อมเบาะรถยนต์ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี มีพฤติกรรมชอบมั่วสุมกับเพื่อนเสพยาเสพติด จนทำให้เงินที่หามาได้จากการทำงานรับจ้างหมดไปกับยาเสพติด ต่อมานายภานุพงศ์ฯ จึงผันตัวเองมาเป็นขโมย ตระเวนงัดแงะตามบ้านชาวบ้านในพื้นที่ เข้าไปลักทรัพย์สินมีค่าภายในบ้านนำไปขายและจำนำเพื่อนำเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ
จากการตรวจสอบพบว่าหนึ่งในทรัพย์ที่ถูกลักไปเป็นกีตาร์ไฟฟ้า Limited Edition ราคาประมาณ 600,000 บาท โดยนายภานุพงศ์ฯ ลักเอาไปและนำไปจำนำ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนจนพบว่ากีตาร์ที่ถูกลักมาถูกวางจำหน่ายอยู่หน้าร้านรับจำนำแห่งหนึ่ง จึงได้เข้าไปสอบถามและสืบสวนย้อนกลับ จนสามารถติดตามจับกุมตัวนายภานุพงศ์ฯ ได้ในที่สุด โดยขณะจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่านายภานุพงศ์ฯ อยู่ในสภาพเมายาเสพติดจึงได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดอีกกระทง
ภายหลังเมื่อการดำเนินคดีอยู่ในชั้นศาล นายภานุพงศ์ฯ ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่หลังจากนั้นไม่ยอมไปรายงานตัวจนกระทั่งถูกศาลจังหวัดเพชรบุรีออกหมายจับตามหมายจับข้างต้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครปฐม ได้รับแจ้งว่า นายภานุพงศ์ฯ จะเดินทางมาทำธุระในพื้นที่ จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมจึงได้นำกำลังลงพื้นที่ จนกระทั่งพบตัว นายภานุพงศ์ฯ เดินอยู่บริเวณตลาดรอบองค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมจึงเข้าตรวจสอบ และได้แสดงหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบุรี ให้นายภานุพงศ์ฯ ตรวจสอบ โดย นายภานุพงศ์ฯ ยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับทั้ง 2 หมายดังกล่าวจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมสิทธิของผู้ต้องหาและควบคุมตัว นายภานุพงศ์ฯ ไปที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงหนองดินแดง เพื่อจัดทำบันทึกจับกุม ก่อนจะนำตัวส่งศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามนายภานุพงศ์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง