ข่าว

รวบ แก๊งโรแมนซ์สแกม ตุ๋นสาวสูญเงิน 5 ล้าน

"กองบังคับการปราบปราม" จับยกแก๊ง 4 ผู้ต้องหา ขบวนการ"โรแมนซ์สแกม" หลอกให้รัก ตุ๋นผู้เสียหายสาวสูญเงินกว่า 5 ล้านบาท

8ก.ย. 2567 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย ดังนี้
1. นายธนนันท์ฯ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลหนองคาย ที่ จ.169/2567 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2567 ในความผิดฐาน “โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันฉ้อโกงโดยหลอกลวงเป็นคนอื่น”
สถานที่จับกุม หน้าห้องพัก หมู่ 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

รวบ แก๊งโรแมนซ์สแกม ตุ๋นสาวสูญเงิน 5 ล้าน

2. นายอภิชาตฯ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลหนองคาย ที่ จ.257/2567 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่จะน่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
สถานที่จับกุม บริเวณ ม.7 บ้านโนนสะอาด ต.หนองไผ่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

รวบ แก๊งโรแมนซ์สแกม ตุ๋นสาวสูญเงิน 5 ล้าน

3. นายธีรวัฒน์ฯ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลหนองคาย ที่ จ.258/2567 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมด หรือแต่บางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่จะน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน"
สถานที่จับกุม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

 

4. นางอรวรรณฯ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลหนองคาย ที่ 268 /2567 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมด หรือแต่บางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่จะน่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง"
สถานที่จับกุม หมู่ 1 ต.คลองฉนาก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

รวบ แก๊งโรแมนซ์สแกม ตุ๋นสาวสูญเงิน 5 ล้าน

พฤติการณ์ มีผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อน จากกรณีถูกคนร้ายอ้างตัวเป็นหนุ่มไทย โปรไฟล์ดี แอดเฟซบุ๊กมาพูดคุย และหลอกให้รัก ก่อนจะชักชวนลงทุนสูญเงินไปกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย ซึ่งต่อมาได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีที่รับเงินจากผู้เสียหายทั้งหมด จำนวน 5 หมายจับ

 

ต่อมาผู้เสียหายได้เดินทางมาร้องขอให้ทางกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุดต่อไป พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา

 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถจับกุม นายธนนันท์ฯ,นายอภิชาตฯ และ นายธีรวัฒน์ฯ ได้ในที่สุด และต่อมาจึงได้มีการขยายผลจับกุม นางอรวรรณฯ ได้เพิ่มอีก 1 ราย จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในส่วนของผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

กลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้มีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายในลักษณะเป็นขบวนการ โดยคนร้ายคนแรกจะทักเข้ามาพูดคุยกับผู้เสียหาย อ้างตัวเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ มีรายได้ต่อเดือนหลายแสนบาท จากนั้นจะให้คนร้ายอีกคนทักมาพูดคุยและยืนยันให้ผู้เสียหายเชื่อใจว่า บุคคลที่คนร้ายแอบอ้างมีตัวตนอยู่จริง

 

จนภายหลังเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ คนร้ายจะชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนซื้อหุ้น ซึ่งเมื่อผู้เสียหายได้รับผลตอบเเทนจากการลงทุน จะถูกหลอกซ้ำอีกว่ายังไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ต้องจ่ายค่าภาษี และค่าดำเนินการต่างๆ ทำให้ผู้เสียหายได้สูญเงินเป็นจำนวนหลายล้านบาท จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเปิดบัญชีธนาคารให้คนอื่นจริง  

 

ตำรวจสอบสวนกลาง ฝากเตือนให้พี่น้องประชาชนทุกคน รวมถึงเยาวชน ให้รู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ยุคนี้ประชาชนเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น บางครั้งเราหลงรักใครสักคนเราต้องระมัดระวังให้ดี อย่าเชื่อ จนกว่าจะนัดเจอดูใจกันจริง ทั้งนี้ขอฝากเตือนไปถึงผู้ที่รับเปิดบัญชีม้า อย่าไปเห็น แก่เงินค่าตอบแทนไม่กี่บาท เพื่อแลกกับการเปิดบัญชีม้า ให้มิจฉาชีพ ท่านจะถูกดำเนินคดีในฐานะเป็นตัวการร่วม หรือผู้สนับสนุนกระทำความผิด ดังกรณีดังกล่าวก็เป็นได้