แม่ช็อก! ลูกสาวโดดเจ้าพระยา ญาติคาใจ ปมเหตุเสียชีวิต | คมชัดลึก

จากกรณี น.ส.สุดารัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดนครพนม ถูกมิจฉาชีพหลอกลงทุนออนไลน์ สูญเงินกว่าแสนบาท ได้กระโดดจากเรือข้ามฟาก น้ำฆ่าตัวตาย ขณะเรือลอยลำกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เหตุเกิดเมื่อ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• นาทีระทึก คนบนเรือพยายามช่วย "เหยื่อมิจฉาชีพ" โดดแม่น้ำจบชีวิต
• สาวเครียด โดนมิจฉาชีพหลอกลงทุน คิดสั้นกระโดดจากเรือข้ามฟาก จบชีวิต

 

 

 

8 ก.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม พบนางสมหวัง (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี แม่ของ น.ส.สุดารัตน์ ผู้เสียชีวิต เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนมีลางสังหรณ์ใจ หลังรับหลานมาจากโรงเรียน ช่วงใกล้ค่ำจึงรับโทรศัพท์หาลูกสาว ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่รับสายบอกให้ทำใจ ตอนนี้นำร่างขึ้นมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว

เจ้าหน้าที่คนเดิมยังยังบอกว่า กระเป๋าวางอยู่ตรงนี้ พร้อมถ่ายบัตรประชาชนของลูกสาวให้ดู จึงเรียกหลานมาดู ปรากฏว่าใช่จริงๆ หลังทราบข่าวจึงตั้งตัวไม่ถูกและรับไม่ได้ หัวใจแม่ถึงกับสลาย สติแตก เพราะลูกเป็นเสาหลักของครอบครัว คอยหาเงินรักษาตอนที่แม่ป่วย
 

นายพงศธร ดีโคตร อายุ 53 ปี อดีตรองนายก อบต.ไผ่ล้อม ซึ่งเป็นน้าเขยผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเลี้ยงผู้ตายมาตั้งแต่เล็กๆ  รู้นิสัยหลานดี มีความตั้งใจที่จะหาเงินมาไถ่ถอนที่ดินให้แม่ ที่เอาไปจำนองไว้ 1 แสนกว่าบาท โดยหลานนัดหมายกับแม่จะนำเงินไปไถ่ถอน วันที่ 20 ก.ย. 67 แต่ก็มาเกิดเหตุสลดขึ้นก่อน

นายพงศธร กล่าวอีกว่า ที่คาใจและสงสัยทำไมหลานจึงเอาทองไปจำนองถึง 3 ครั้ง ภายในวันเดียวกัน รวมทั้งช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ หลานส่งใบจำนำทองมาให้แม่ดู และช่วงเช้าได้โทรศัพท์มา มีน้ำเสียงแจ่มใส กระทั่งช่วง 5 โมงเย็น ได้ยินข่าวถึงกับช็อก ส่วนสาเหตุที่หลานเสียชีวิตน่าจะเกิดปัญหาภายในครอบครัวกับแฟนหนุ่ม

อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุฝ่ายชายออกมาพูดว่าหลานสาวถูกหลอกออนไลน์ หรือถูกแก๊งมิจฉาชีพดูดเงินไปจากบัญชี เรื่องนี้มันต้องมีหลักฐาน หากเราได้ดูหลักฐานก็ไม่ติดใจ หากไม่มีหลักฐานก็คงติดใจสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้