หลอนหนัก ! มือมืดอาละวาด เผารถกลางกรุง 3 ครั้ง ก่อนวางพระกับข้อความเอาไว้
ผวาหนัก ! มือมืดอาละวาดเผารถกลางดึก ป่วนย่านรามคำแหง 3-4 ครั้ง พ่อเหยื่อโพสต์สุดหลอนมีพระพุทธรูปกับข้อความไม่เหมาะสมหลังเกิดเหตุ
9 ก.ย. 2567 มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่ง โพสต์ข้อความและภาพ ระบุว่า “#เหยื่อ ตีสองครึ่งของวันที่ 7 กันยายน เกิดเพลิงลุกไหม้รถยนต์โตโยต้ายาริส ของลูกสาวผมความเสียหายทั้งคัน ซึ่งจอดอยู่ใกล้บ้านติดกับมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย
“ข้อสันนิษฐาน ลูกสาวและลูกเขยไม่เคยมีความขัดแย้งกับใคร , การจอดรถมิได้กีดขวางทางผู้ใด , รถอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่น่าจะเกิดเหตุในขณะจอด
“หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ละเอียดเพราะรถยังร้อนอยู่ 10.00 น หน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบพบมีพระพุทธรูปพร้อมข้อความที่ไม่เหมาะสม จึงยังมิอาจสรุปได้แบบชัดเจนว่าเราคือเหยื่อที่ถูกคุกคามของความขัดแย้ง หรือมีผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้น ที่มีอยู่ในสังคมหรือเปล่า
“ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุเผารถยนต์ของลูกสาวผม เห็นใบหน้าชัดเจน เป็นบุคคลเดียวกันที่ก่อเหตุเมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมา คาดว่าเจ้าหน้าที่จะจับตัวได้เร็วๆนี้ หากท่านใดมีเบาะแสเพิ่มเติม แจ้งมาได้นะครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง และขอขอบคุณชุดตำรวจสืบสวน สน.หัวหมาก ชุดกองพิสูจน์หลักฐาน และสำนักงานเขตพระโขนง เอื้อเฟื้อภาพจากกล้องวงจรปิด”
ทั้งนี้พบว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในซอยรามคำแหง โดยเพจดัง โพสต์ด้วยว่า ช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีเหตุคนร้ายวางเพลิงเผารถยนต์ชาวบ้าน ที่จอดอยู่ในซอยย่านรามคำแหง 2-3 ครั้ง ล่าสุดยังตามจับคนร้ายไม่ได้ โดยตำรวจอยู่ระหว่างเร่งล่ามือเผารถ คาดว่าน่าจะได้เร็ว ๆ นี้
ล่าสุดทางทีมงานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ในซอยรามคำแหง 2 ได้พบกับหญิงสาวเจ้าของรถยนต์ที่ถูกเผา เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา เวลา 02.00 น. โดยช่วงเวลา 17.00 น.ได้จอดรถไว้ตามปกติ จากนั้นเวลา 02.00 น. ก็เกิดเหตุไฟไหม้ ยามก็เข้ามาเรียก แฟนก็ได้กลิ่นไหม้
แฟนก็เอาถังดับเพลิงไปฉีดเพื่อดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ แต่ดับไม่ได้เลยโทรแจ้งตำรวจ ทางเจ้าหน้าที่ก็มาเร็วแต่เพลิงไหม้รถไปหมดแล้ว ทางตำรวจก็ยังดำเนินการอะไรไม่ได้เนื่องจากยังมีความร้อนอยู่ โดยเช้าวันรุ่งขึ้นตำรวจก็เข้ามาเก็บหลักฐาน ซึ่งมีทั้งพระพุทธรูปกับกระดาด ไม่ทราบว่ามันคืออะไร ส่วนมูลค่าความเสียหายกว่าสองแสนบาท หลังเกิดเหตุก็ได้เจ้าแจ้งความไว้ที่ สน.หัวหมาก โดยนำคลิปภาพวงจรปิดที่เห็นตัวผู้ต้องสงสัยมาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ที่บริเวณรถและเห็นหน้าชัดเจน ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับเคสแรกที่เกิดขึ้น ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ถือว่าแย่มากๆ ห่วงในด้านความปลอดภัย เพราะตนอยู่กับลูกและผู้สูงอายุ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในที่เดิม
ด้าน ผกก.สน.หัวหมาก เผยในห้องประชุมว่า ตั้งแต่ต้นปี 2567 เป็นต้นมา มีเหตุการณ์ในลักษณะคล้ายกันเกิดขึ้น 2 ครั้ง โดยครั้งแรก เกิดขึ้นวันที่ 24 มิ.ย. 2567 ซึ่งทางผู้แจ้งระบุว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้รถโดยไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาจึงไปประสานไปที่ พฐ. ตรวจเก็บพยานหลักฐาน ซึ่งเบื้องต้นไม่พบข้อที่บ่งชี้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากฝีมือมนุษย์
ต่อมาในส่วนเคสล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุในลักษณะเดียวกัน และในพื้นที่เดียวกัน หลังเพลิงสงบ ก็ได้แจ้ง พฐ. มาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งครั้งนี้ ทาง พฐ. แจ้งว่า นิติวิทยาศาสตร์สามารถเชื่อได้ว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้อาจจะมีการกระทำที่มาจากฝีมือมนุษย์ ซึ่งขณะนี้ก็มีพลเมืองดีพยายามนำข้อมูลหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดส่งมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยขณะนี้ก็อยู่ระหว่างติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี