ข่าว

อลเวง บุกจับสึก หลวงพี่ยืนบิณฑบาตรวน ไม่จำวัด พักบ้านแขกอิสลามนานนับปี

ตำรวจพระบุกรวบ "หลวงพี่สมชาย" พฤติกรรมไม่เหมาะสมบิณฑบาตรวน ไม่จำวัด พักบ้านที่มีหญิงสาวอาศัยอยู่ด้วย อ้างป่วย ถูกคุณไสย ต้องให้หมอแขกรักษา ระหว่างสึกกลับขัดขืน ต้องใช้คนช่วย 4-5 คน

ชาวบ้านร้องเรียนพฤติกรรมของพระสงฆ์นอกรีตปักหลักบิณฑบาตรอยู่หน้าร้านขายอาหารใส่บาตร บริเวณตลาดเช้า หน้าหมู่บ้านบัวทองเคหะ ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รวมถึงมีพฤติกรรมคุกคามพระรูปอื่นๆ ที่มาบิณฑบาตรทับเส้นทางจนมีเรื่องชกต่อย  

 

9 ก.ย. 2567 เวลา 08.00 น. พระครูศรีสมณวัตร พระครูสิทธิธรรมานุกุล พระมหาณัฐวุฒิ กลฺยาณเมธี และพระครูสังฆรักษ์พิสิทธิ์ พระวินยาธิการทั้ง 4 รูป พร้อมด้วยอาสาสมัครตำรวจบางบัวทอง ลงพื้นที่บริเวณที่รับแจ้ง ซึ่งยังพบว่า พระรูปดังกล่าว คือ พระสมชาย อายุ 69 ปี ถูกขับไล่ออกจากมาแล้ว ก่อนจะไปเช่าห้องพักอาศัยอยู่ในชุมชนอิสลาม จนชาวบ้านในชุมชนอิสลามทนไม่ไหวแจ้งให้ตำรวจพระมาทำการตรวจสอบ 

อลเวง บุกจับสึก หลวงพี่ยืนบิณฑบาตรวน ไม่จำวัด พักบ้านแขกอิสลามนานนับปี

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่และพระวินยาธิการเข้าตรวจสอบ พระรูปดังกล่าวกำลังยืนบิณฑบาตรอยู่หน้าร้านขายอาหารเช้าและเชิญตัวไปทำการตรวจสอบที่วัดลำโพ ซึ่งมีพระครูประโชติจันทสิริ เจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลบางรักใหญ่ ทำการสอบสวน แต่พระรูปนี้แสดงอาการขัดขืนและไม่พอใจ พร้อมกับอ้างว่า เรื่องบิณฑบาตรวน เป็นแค่เรื่องอาบัติไม่ถึงปาราชิก ตนเองเป็นแค่พระป่วยที่มาบิณฑบาตรเลี้ยงชีพเท่านั้น ไม่ได้ทำผิดร้ายแรง 

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจต้องแจ้งว่า ได้ทำการสะกดรอยติดตามพฤติกรรมมาหลายวันแล้วและมีหลักฐานชัดเจน ทำให้พระสมชายยอมเดินทางไปพบเจ้าคณะตำบลบางใหญ่ ซึ่งอยู่ในเขตปกครองของทางคณะสงฆ์ 

 

เมื่อไปถึงวัดลำโพ พระสมชายแสดงท่าทีไม่พอใจและโวยวายอยู่ตลอดเวลาว่า พระวินยาธิการไม่มีสิทธิจับตนเองสึก เพราะตนเป็นพระแท้มีใบสุทธิที่ออกให้โดยเจ้าคณะอำเภอลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ตนล้มป่วยจากโรคไสยศาสตร์ที่มองไม่เห็น โรงพยาบาลทั่วไปรักษาไม่ได้ ทำให้ต้องไปพักอาศัยอยู่ในห้องเช่าในชุมชนอิสลาม เพื่อให้หมอไสยศาสตร์ทางแขกช่วยรักษา จึงทำให้ตนไม่สามารถกลับไปจำวัดได้เหมือนพระปกติทั่วไป 
 

อลเวง บุกจับสึก หลวงพี่ยืนบิณฑบาตรวน ไม่จำวัด พักบ้านแขกอิสลามนานนับปี

ส่วนการนำอาหารที่มีคนมาใส่บาตรไปแจกจ่ายนั้น เป็นเพราะตนเป็นพระที่มีใจเมตตา เมื่อญาติโยมใส่บาตรทำบุญมาแล้ว ก็ต้องนำออกไปแจกจ่ายต่อ เพื่อเป็นการทำทานให้กับคนใส่บาตร แต่ทางพระวินยาธิการโต้กลับว่า จากพฤติกรรมของพระสมชาย มีหลักฐานชัดเจนว่า กระทำผิดวินัยสงฆ์ในหลายข้อ ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสมณะสงฆ์ที่เป็นอยู่ ทั้งเรื่องการบิณฑบาตร วนขายของให้กลับแม่ค้าที่รับซื้อ  ไม่กลับไปจำวัดเป็นปี ๆ แต่กลับบิณฑบาตรรับแต่เงินปัจจัยเพียงอย่างเดียว รวมถึงพฤติกรรมที่ก่อเหตุชกต่อยพระลูกวัดที่ลาดบัวหลวงจนถูกขับไล่ออกจากวัดมาแล้ว ยังมาก่อเหตุทำร้ายพระลูกวัดวัดใหม่คลองเจ๊กอีกครั้ง ยังมีเรื่องทะเลาะเบาะแวงกับแม่ค้าในตลาดอีก 

 

ด้วยพฤติกรรมดังกล่าว แม้จะเป็นพระที่บวชมาอย่างถูกต้องก็ตาม แต่จากพฤติกรรมที่ครองเพศสมณะไม่เหมาะสม จึงทำเป็นต้องให้สึก จากความเป็นพระในวันนี้ ซึ่งจะยังไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ แต่หากถูกจับสึกออกไปแล้ว ย้อนกลับมาแต่งกายเป็นพระโดยไม่ได้รับการบวชที่ถูกต้องก็จะถูกดำเนินคดีแต่งกายเบียนแบบพระสงฆ์ต่อไป 

 

อลเวง บุกจับสึก หลวงพี่ยืนบิณฑบาตรวน ไม่จำวัด พักบ้านแขกอิสลามนานนับปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่พระครูประโชติจันทสิริ เจ้าอาวาสวัดลำโพ ซึ่งเจ้าคณะตำบลอีกตำแหน่ง ทำการสอบสวนพระสมชายเพื่อให้สึกจากความเป็นพระ พระสมชายได้โต้เถียงและไม่ยอมสึก อ้างเหตุผลต่างๆนานา จนทำให้พระครูประโชติจันทสิริเจ้คณะตำบลเกือบหมดความอดทนจนเกือบประเคนแข้งใส่พระสมชาย แม้จะตวาดว่ากล่าวตักเตือนให้ยอมรับความผิด แต่พระสมชายก็ไม่ลดราวาศอก โต้เถียงทุกครั้ง 

 

หลังเจ้าคณะตำบลและพระวินยาธิการสรุปความผิดของพระสมชายว่า ต้องสึกและขาดจากความเป็นพระ เพราะหากให้ดำรงสมณะเป็นพระอยู่ มีแต่จะสร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการสงฆ์ 

 

แต่พระสมชายไม่ยอมสึก จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง และอาสาสมัครตำรวจบาวบัวทองช่วยทำการเปลื้องจีวรออก แต่พระสมชายกลับดื้นรนต่อสู้ไม่ยอมสึก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันยื้อยุดจับเปลี่ยนชุดได้อย่างทุลักทุเล ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวอดีตพระสมชายรายนี้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า ถูกจับสึกและขาดจากความเป็นพระแล้วในวันนี้ เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม 

 

นายชวลิต เชยนาม อาสาสมัครตำรวจบางบัวทอง กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านในชุมชนเคหะบางบัวทองว่า มีพระสงฆ์รูปหนึ่งมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับความเป็นพระ และไม่แน่ใจเป็นพระปลอมหรือไม่ ตนจึงได้ติดตามสะกดรอยพฤติกรรมของพระรูปดังกล่าว จนพบว่า พระรูปนี้หลังบิณฑบาตรเสร็จแล้วจะเดินทางกลับไปพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งมีหญิงสาว 2 คน ในชุมชนอิสลามเกือบทุกวัน เมื่อตนนำเรื่องไปปรึกษากับตำรวจพระ ก็พบว่า ก็ได้รับเรื่องร้องเรียนของพระรูปนี้มาหลายครั้งแล้วเช่นเดียวกัน

 

เช้าวันนี้จึงตัดสินใจนัดหมายลงพื้นที่ตรวจสอบพฤติกรรมของพระรูปนี้ด้วยกัน ก็พบว่าการกระทำผิดวินัยสงฆ์ตามที่ชาวบ้านร้องเรียนมา โดยพฤติกรรมพระรูปนี้ นอกจากจะยืนบิณฑบาตรหน้าร้านขายอาหารแล้ว ยังวนขายอาหารที่ได้รับมาจากการใส่บาตรให้กับร้านค้าอีกด้วย เคยมีประวัติขกต่อยทำร้ายพระลูกวัดจนถูกขับไล่ออกจากวัดมาแล้วไม่มีวัดไหนให้ตำพรรษา ก็มีอาศัยบิณฑบาตรในชุมชนแล้วกลับบ้านพักในชุมชนอิสลามมาเป็นปีๆ เวลานั่งรถสองแถวมาบิณฑบาตรก็มาตัวเปล่า ส่วนบาตรพระก็ฝากไว้กับแม่ค้า ข้ออ้างที่อ้างว่า ป่วยคงไม่ได้ป่วยจริง เพราะสามารถนั่งรถเดินทางมาบิณฑบาตรวันละ 30 กิโลเมตร จากอยุธยามาบางบัวทองทุกวันไม่เคยขาดไม่ว่าจะฝนหรือแดดออก ขณะจับปลดผ้าออกต้องใช้คนช่วยกัน 4-5 คน กว่าจะปลดจีวรออกได้เหมือนคนแข็งแรงปกติ ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรตามที่กล่าวอ้าง 

 

ทางด้านพระครูสิทธิธรรมนุกูล พระวินยาธิการ กล่าวว่า พฤติกรรมของพระรูปนี้พบว่าถูกขับไล่ออกมาจากวัด เพราะมีเหตุชกต่อยกับพระลูกวัด จากนั้นก็ไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านแขกคนหนึ่งในชุมชนอิสลาม โดยไม่ได้กลับไปจำพรรษาอยู่วัดเลยมาเป็นปีๆ แม้พระรูปดังกล่าวจะดื้อรั้นไม่ยอมสึกก็ตาม แต่ต้องจับสึก เพื่อไม่ให้พระศาสนาเสื่อมและมัวหมองจากพฤติกรรมของพระรูปนี้อีก
 

อลเวง บุกจับสึก หลวงพี่ยืนบิณฑบาตรวน ไม่จำวัด พักบ้านแขกอิสลามนานนับปี

อลเวง บุกจับสึก หลวงพี่ยืนบิณฑบาตรวน ไม่จำวัด พักบ้านแขกอิสลามนานนับปี อลเวง บุกจับสึก หลวงพี่ยืนบิณฑบาตรวน ไม่จำวัด พักบ้านแขกอิสลามนานนับปี