ข่าว

พ่อเปิดใจ สูญเสียเสาหลักครอบครัว หลังไล่สกัดจับรถบรรทุก ขบวนการค้าไม้

พ่อเปิดใจ สูญเสียเสาหลักครอบครัว หลังไล่สกัดจับรถบรรทุก ขบวนการค้าไม้

11 ก.ย. 2567

พ่อเปิดใจ สูญเสียเสาหลักครอบครัว หัวหน้าหน่วยฯ สน.4(เมือง) หลังไล่สกัดจับรถบรรทุก ขบวนการค้าไม้ ลั่นยังไงก็สู้ผู้มีอิทธิพลไม่ได้

11 ก.ย. 2567 จากกรณีที่ นายพลวัฒน์ (สงวนนามสกุล)  นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ลูกแม่โจ้ รุ่นที่ 78 ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ก่อนได้รับการบรรจุต่อที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่อยู่กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 สาขานครพนม เสียชีวิตเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ ขณะปฎิบัติหน้าที่ เมื่อเช้าวันที่ 9 ก.ย. 2567

 

สำหรับการอุบัติเหตุครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลาประมาณ 06.00-07.00 น. ข้าราชการเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่สน. 4 (เมือง) ได้ร่วมกันติดตามรถบรรทุกไม้ ซึ่งเป็นขบวนการค้าไม้ ณ บ้านหลุบเลา ต.หลุบเลา อ.ภูพาน จ.สกลนคร โดยรถบรรทุกไม้ได้ทำการหลบหนี จึงได้ติดตามรถบรรทุกคันดังกล่าวจนถึงท้องที่ บ้านทุ่งนางาม ต.บ่อแก้ว อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์

 

รถยนต์พนักงานเจ้าหน้าที่ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ข้าราชการเสียชีวิต 1 นาย คือนายพลวัฒน์ (สงวนนามสกุล) หัวหน้าหน่วยฯสน.4 (เมือง) และมีพนักงานเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 ราย ขณะนี้ทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนาคู จ.กาฬสินธุ์

ล่าสุดวันที่ 11 ก.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านเลขที่ 103 ต .ท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม ได้มีการกางเต็นท์ตั้งโต๊ะเก้าอี้ พร้อมแม่ครัวจากเพื่อบ้านในหมู่บ้าต่างมาช่วยกัน เพื่อรับแขกผู้ที่มาร่วมสวดอภิธรรม ทางกรมป่าไม้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ มาค่อยดูแลเตรียมสถานที่และอำนวยความสะอาดตลอดงาน

 

นายสินไชย (สงวนนามสกุล)  อายุ 62 ปี พ่อนายพลวัฒน์ (สงวนนามสกุล) เปิดเผยว่ากับผู้สื่อข่าวว่า ได้ทราบข่าวตอน 9 โมงเช้า มีญาติโทรหาบอกว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว หัวอกคนเป็นพ่อมันจุก พูดอะไรไม่ออก ลูกชายเพิ่งจะสร้างครอบครัว ลูกสาวเพิ่งจะอายุได้ 1 ปี 8 เดือน เพิ่งจะพูดเก่งเรียกพ่อเรียกแม่ เรียกปู่เรียกย่า เพิ่งจะรู้จักภาษา

 

นายพลวัฒน์  หรือ แซ็ค เป็นลูกชายคนที่สอง เพิ่งจะบรรจุได้ 2 ปีเศษ ลูกชายเป็นคนดูแลพ่อแม่ เป็นเสาหลักของบ้าน ขาดเหลืออะไรก็อยู่กับลูก ลูกชายมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตอนเรียนมหาวิทยาลัยฯ ได้โควตา หลายที่ ทั้ง ม.มหาสารคาม,ม.ขอนแก่น แต่ลูกเลือกที่จะเรียน ม.แม่โจ้

 

 

 

พ่อกับแม่ก็ส่งเรียนจนเรียนจบ พอลูกเรียนจบก็มาบวชให้พ่อแม่ 3 เดือน จากนั้นก็ไปหาสอบทำงาน ตอนแรกได้เป็นพนักงาน ต่อมาก็สอบบรรจุได้เป็นข้าราชการ ที่ จ.นครพนม สังกัดกรมป่าไม้ ซึ่งลูกชายจะกลับบ้านที่ จ.มหาสารคามเป็นประจำ เพื่อที่จะกลับมาดูแลพ่อแม่ มาอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งลูกชายก็เล่าให้ฟังเสมอว่า ได้ไปจับไม้เป็นประจำ ในเขตรับผิดชอบ ทั้ง นครพนม,กาฬสินธุ์,สกลนคร และมุกดาหาร

 

ซึ่งบางครั้งไปจับแล้ว ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ โทรศัพท์มาขอ จากที่จับได้หลาย ๆ อย่าง ก็ให้ของกลางเหลือน้อย ซึ่งลูกชายได้รายงานผู้บังคับบัญชาไปแล้ว ได้รายงานไปตามความเป็นจริง ลูกชายเป็นทำงานจริงจัง เป็นคนซื่อ ซึ่งพ่อเคยเตือนว่าเวลาไปจับไม้ ให้ระวังที่สุด อย่าไปคนเดียว ลูกชายก็บอกว่าไม่ได้ไปคนเดียว มีทีมงานมีลูกน้องไปด้วยกัน ในวันที่เกิดเหตุ

 

วันเกิดเหตุ ลูกน้องของลูกชายมาเล่าให้ฟังว่า ได้มีการติดกล้องติดตามไว้ในป่า มีผู้ลักลอบมาตัดไม้ ลูกน้องก็เลยโทรมาบอก ทางลูกชายก็ได้รีบเดินทางกลับไปที่หน่วย โดยออกจากบ้านไปช่วงตี 5 ก่อนที่จะไปประสบเหตุช่วง 6 โมงกว่า ๆ เกือบ 7 โมง ที่ อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ ในความคิดของคนเป็นพ่อ มองว่า ระบบราชการเมืองไทย ทำยังไงก็สู้ผู้มีอิทธิพลไม่ได้ แม้ว่าจะเก่ง หรือมีอุดมการณ์แค่ไหน ก็สู้เขาไม่ได้ ตายแล้วก็เอาคืนมาไม่ได้ มันแก้ไขไม่ได้ ต่อให้มีการปฏิรูปก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ความสำคัญมันอยู่กับคนในชุมชน และผู้อยู่เบื้องหลัง ถ้าไม่มีคนอยู่เบื้องหลัง คงยอมให้จับไปนานแล้ว

 

ด้านนางอุเทียน (สงวนนามสกุล)  อายุ 62 ปี แม่ของนายพลวัฒน์ เปิดเผยว่า ลูกชายเป็นคนดี ตั้งแต่เด็ก ๆ จะช่วยเหลือพ่อแม่ จะช่วยทำงานบ้านทุกอย่าง กระทั่งได้ทำงานก็ยังทำอยู่ ปกติแล้วตนกับนายสินไชย จะเป็นคนเลี้ยงลูกสาวของนายพลวัฒน์ ปู่กับย่าจะเป็นคนเลี้ยง วันเสาร์อาทิตย์นายพลวัฒน์กับภรรยา ก็จะกลับบ้านมาหาลูก หาพ่อแม่ ซึ่งเมื่อขาดเสาหลักไปแล้ว ก็เป็นกังวล

 

เพราะนอกจากจะต้องเลี้ยงหลานสาววัย 1 ขวบ 8 เดือนแล้ว ตอนนี้ภรรยาของนายพลวัฒน์ กำลังตั้งท้องอ่อน ๆ ได้เดือนกว่า ๆ ซึ่งพ่อกับแม่ก็เพิ่งจะทราบ เพราะทางนายพลวัฒน์กับภรรยานัดกันว่าสัปดาห์นี้จะไปหาหมอฝากครรภ์ก่อน แล้วถึงจะมาบอกพ่อกับแม่ แต่ลูกชายก็มาเสียชีวิตเสียก่อน

 

 ต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง กังวลว่าจะเลี้ยงหลานได้ไหม เพราะลำพังลูกสะใภ้ก็เงินเดือนไม่แยอะ และยังต้องเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน ส่วนเงินเยียวยา หรือเงินทดแทนตอนนี้ยังไม่ลงมา ขณะที่นางเพ็ญศรี พลโรม คุณครูอนุบาล ที่โรงเรียนบ้านท่าตูมดอนเรือ กล่าวว่า ครูเป็นคนในหมู่บ้าน เคยสอนนายพลวัฒน์ตั้งแต่เรียนอนุบาล เป็นเด็กดี น่ารัก มีความรับผิดชอบ ครูมอบหมายงานให้ก็ตั้งใจทำให้งานเสร็จเรียบร้อย พองานของตัวเองเสร็จแล้ว ก็จะไปช่วยเพื่อน พอว่างก็ชอบเล่นอยู่ในห้องเรียน เป็นคนมีเมตตากับเพื่อน ๆ ชอบช่วยเหลือ

 

ด้วยความที่เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ก็จะเป็นพัฒนาการของน้องมาตลอด พอโตมาก็เป็นคนน่ารัก ไม่เกเร สังเกตดูว่าจะไปช่วยพ่อกับแม่ทำงานตลอด เวลาทำนาก็ไปช่วยตลอด ได้ทักทายกันอยู่เสมอ เป็นคนมีมารยาท ถามสารทุกข์สุกดิบกันตลอด คุณครูที่โรงเรียนจะรักเค้าทุกคน ในวันที่ 12 ก.ย. 2567 ได้มีการพระราชทานเพลิงศพ ณ ฌาปณสถานวัดป่าสโมสร บ.ท่าตูม ม.3 อ.เมือง จ.มหาสารคาม เวลา 14.00 น .