ข่าว

เปิดข้อต่อสู้คดี'หนุ่มจีน"ให้เมียเป็น"นอมินี" กลับถูกขอหย่า-ฮุบสมบัติ

เปิดข้อต่อสู้คดี'หนุ่มจีน"ให้เมียเป็น"นอมินี" กลับถูกขอหย่า-ฮุบสมบัติ

12 ก.ย. 2567

เปิดข้อต่อสู้ทางคดี "นายเคน" หนุ่มนักธุรกิจชาวจีน หลังให้เมียไทยเป็นนอมินีกลับถูกขอหย่าอ้างจะไปลงสส. - พากิ๊กมาขนสัมบัติในบ้าน จ่อฮุบบริษัท

 

 

11 ก.ย.2567 ทนายตั้ม จะพาคุณเคนชาวจีน ไปแจ้งความ ชิสา อดีตภรรยาไทยและ แม็ก สามีใหม่ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดนฉกฉวยเอาซึ่งหน้า (วิ่งราวทรัพย์) ที่สน.เพชรเกษม เวลาไม่เกิน 14.00 น. 

 

กรณีไฮโซหนุ่มชาวจีน ร้องทนายตั้ม หลังโดนอดีตภรรยาคนไทย หลอกให้หย่าอ้างจะไปลงสส.พรรคดัง ก่อนนำสามีใหม่ เข้ามาขนของ ภายในบ้าน และขู่ "ฉันสามารถทำให้คุณติดคุกได้ เพราะรู้จักกับผู้ใหญ่ภายในพรรคการเมืองชื่อดัง"

 

เวลา10.00น.ที่ สำนักงานSitara law firm นายเคน และมารดา ผู้เสียหาย พร้อมล่าม เข้าร้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม หลังพบพฤติกรรมของภรรยาชาวไทยเปลี่ยนไป อ้างจะไปสมัครสส. พรรคดัง แต่ต้องให้หย่าร้างกันไป

เปิดข้อต่อสู้คดี\'หนุ่มจีน\"ให้เมียเป็น\"นอมินี\" กลับถูกขอหย่า-ฮุบสมบัติ

นายษิทรา กล่าวว่า นายเคน และมารดาชาวจีน เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้หลายปีแล้ว โดยนายเคนรู้จักกับอดีตภรรยาเมื่อ 7 ปีก่อนหลังจากมาเที่ยวที่ประเทศไทย หลังจากนั้นไม่นานตัวอดีตภรรยาก็ได้ไปเที่ยวที่ประเทศจีนก่อนที่จะมีการคุยกัน และตกลงคบหากัน หลังจากคบหากันได้ไม่นาน นายเคนได้เดินทางมาหาอดีตภรรยา ที่ประเทศไทยเดือนละ 1 ครั้ง

เปิดข้อต่อสู้คดี\'หนุ่มจีน\"ให้เมียเป็น\"นอมินี\" กลับถูกขอหย่า-ฮุบสมบัติ

โดยช่วงที่คบกันแรกๆ ขณะยังไม่แต่งงาน อดีตภรรยาได้ขอเงิน จำนวน 500,000 บาท เพื่อนำไปวางดาวน์คอนโด แห่งหนึ่งย่านสาทร

 

หลังจากนั้นได้แต่งงานกันในช่วงเดือนกันยายนปี 2565 ก่อนที่จะมีลูกด้วยกัน 1 คน ที่เข้ามาร้องในวันนี้เพราะตัวภรรยามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ไม่สนใจเหมือนก่อน และนำทรัพย์สินภายในบ้านออกไป

เปิดข้อต่อสู้คดี\'หนุ่มจีน\"ให้เมียเป็น\"นอมินี\" กลับถูกขอหย่า-ฮุบสมบัติ

เมื่อมีการขนทรัพย์สินออกไปเรื่อยๆจึงได้ตั้งข้อสงสัย ถึงธุรกิจอีกหลายอย่างที่ได้มาตั้งสาขาในประเทศไทย และทราบภายหลังว่าหุ้นบริษัทภายในประเทศไทย ของนายเคนมีหุ้นอยู่เพียงแค่ 1% และ อดีตภรรยามีหุ้นทั้งหมด 99%

 

ทั้งนี้เนื่องจากเอกสารทั้งหมดเป็นภาษาไทยและนายเคนไม่ทราบภาษาไทยรวมถึงยังเชื่อใจ จึงให้ภรรยาเป็นผู้ดำเนินการ ก่อนทราบว่าถูกหลอกในภายหลัง

 

โดยหลังจากที่ภรรยาได้เริ่มขนของออกจากบ้าน นายเคนและอดีตภรรยาเริ่มที่จะมีปากเสียงกัน ภรรยาได้บอกนายเคนว่า จะลงเล่นการเมืองซึ่งอ้างว่าสนิทสนมกับผู้ใหญ่ทางพรรคการเมืองชื่อดังพรรคหนึ่ง โดยจะลงสส. ภรรยาก็บอกว่าจำเป็นที่จะต้องหย่า หาก ไม่หย่าจะติดคุณสมบัติในการสมัคร ตัวนายเคนจึงได้ตกลงที่จะหย่าเพราะหวังว่าอนาคตของอดีตภรรยาจะดีขึ้น

ต่อมาวันที่ 4 กันยายน อดีตภรรยาได้ขับรถเข้ามา ขนของพยายามที่จะนำเหล้าและไวน์ ภายในบ้านรวมถึงนาฬิกา เงินสดภายในเซฟ ก่อนที่จะทะเลาะกันหลังจากนั้น ก็มีรถอีกคันขับตามเข้ามาเมื่อรถคันดังกล่าวจอด ปรากฏผู้ชายคนนึงที่ลงรถมาและมีปากเสียงกันอีกครั้งแต่เมื่อบอกว่าให้พูดภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษ ผู้ชายคนดังกล่าวไม่สามารถพูดได้จึงได้มีการยื้อแย่งของกัน

 

ตัวนายเคนจึงตั้งข้อสงสัย ว่าชายคนดังกล่าวเป็นใครและได้สอบถามทางหมู่บ้านจนทราบว่า ทุกครั้งที่ อดีตภรรยาเข้ามาภายในหมู่บ้านจะมีผู้ชายคนนี้มาด้วยเสมอ แจ้งกับรปภ.หมู่บ้านว่าเป็นสามีของอดีตภรรยาและเป็นเจ้าของบ้าน โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นตัวนายเคนจึงรู้สึกกลัวเพราะอดีตภรรยาได้ขู่ว่าจะดำเนินคดีหลายอย่างจึงได้เข้ามาปรึกษากับตนว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง

 

นายเคน กล่าวว่า ทรัพย์สินตอนนี้ที่หายไปมีเงินสดในตู้เซฟ 20 ล้านบาท นาฬิกา กระเป๋า และสร้อยไข่มุก ส่วนอสังหาริมทรัพย์ประกอบด้วยบ้านย่านพระราม 2 ย่านบางแค และสุขุมวิท 31 เป็นบ้านพัก รวมถึงคอนโดย่านสาทร โดยชื่อผู้ถือครองทั้งเป็นอดีตภรรยาของตนเพราะตนเป็นคนต่างชาติจึงไม่สามารถถือครองได้โดยรวมมูลค่าทั้งหมดที่คาดการณ์ไว้เกิน 100 ล้านบาทที่ตัวอดีตภรรยานำไป 

 

นายเคน กล่าวอีกว่า ทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของร่วมกันแต่ตัวอดีตภรรยาแจ้งว่า "เงินฉันก็คือเงินฉัน เงินคุณก็คือเงินฉัน" ทั้งอดีตภรรยายังข่มขู่และบอกอีกว่าจะไล่ตนกลับประเทศ หากไม่กลับจะให้เจ้าหน้าที่มาจับให้ติดคุก โดยแจ้งว่าตนเป็นคนไทย แต่พวกคุณเป็นต่างชาติหากจะฟ้องฉันมีอำนาจพอที่จะทำให้คุณติดคุก ทั้งนี้เนื่องจากตนไม่รู้ถึงกฎหมายในประเทศไทยจึงเป็นกังวลว่าจะทำอะไรผิดหรือเปล่า 

 

นายเคน กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าเคยโทรหาภรรยาให้มาพูดคุยเรื่องทรัพย์สิน แต่อดีตภรรยาไม่รับสายพร้อมกับส่งข้อความมาว่า "คุณเรียกทนายมาคุยกับฉันได้เลย" เมื่อถามว่าเคยทุบตีอดีตภรรยาหรือทำให้ช้ำใจหรือไม่ นายเคน บอกว่า ตนไม่เคยทำร้ายอดีตภรรยา มีแค่ปากเสียงกันเท่านั้น และก่อนหน้าอดีตภรรยาเป็นคนนอนหลับยากจึงไม่อยากให้ลูกอยู่ด้วยเวลานอน แต่ยายแจ้งว่าลูกควรอยู่กับแม่เวลานอนจะได้สนิทกัน 

 

ในช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์มารดาของนายเคนกล่าวว่า ตั้งแต่ตนกลับมาไทยครั้งนี้เป็นคนดูลูกและหลานมาตลอด ก่อนหน้าตนรักและเอ็นดูลูกสะใภ้คนนี้มาก เนื่องจากที่บ้านทีนายเคนเป็นลูกแค่คนเดียวไม่เคยมีลูกสาวจึงได้รักและเอ็นดูสะใภ้เป็นพิเศษ ขนาดนายเคนและอดีตภรรยทะเลาะกันตนก็เข้าข้างสะใภ้ตลอด แต่ในช่วงเดือนกรกฎาคม ตัวลูกสะใภ้ก็เปลี่ยนไปไม่ถามถึงหลานชาย ตนจึงคิดว่าเริ่มแปลกๆ และเสียใจมากกับการกระทำของลูกสะใภ้

เปิดข้อต่อสู้คดี\'หนุ่มจีน\"ให้เมียเป็น\"นอมินี\" กลับถูกขอหย่า-ฮุบสมบัติ

นายษิทรา กล่าวถึงแนวทางการต่อสู้คดีว่า มีสองแนวทางในการต่อสู้หลังจากนี้โดยจากที่ทราบอดีตภรรยานั้นทีทรัพย์สินจากหลายทางและจะทำการเช็คเส้นทางการเงิน และจะพาตัวนายเคนไปแจ้งความเรื่องการลักทรัพย์ที่อดีตภรรยาจะเอาไป และในวันดังกล่าวได้เข้ามาพร้อมสามีใหม่จึงจะแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์นั้นก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เพราะเป็นของที่หามาได้ขณะจดทะเบียน 

 

ทั้งนี้มีผู้ใหญ่ที่สนิทกับสส.พรรคการได้เข้ามาให้ข้อมูลกับตน ว่าเป็นคนพาอดีตภรรยาของนายเคนไปทำความรู้จักกับผู้ใหญ่ภายในพรรค และในขณะนี้ทางพรรคการเมืองดังกล่าวยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาแต่จากที่ทราบคาดว่าน่าจะเป็นเบื้องต้นในขั้นตอนของการลงสมัครสส.เพื่อลงเล่นการเมืองในนัดถัดไป

 

นายษิทรา กล่าวทิ้งท้าย ตนไม่มีความรู้สึกกลัว ที่ฝั่งอดีตภรรยานายเคนบอกว่ารู้จักกับผู้ใหญ่ ภายในพรรคการเมือง แต่ที่หนักใจมากกว่าคือการสืบหาทรัพย์สินที่อาจกระจายออกไปมากกว่า