ข่าว

สืบนครบาล รวบแม่บ้านอดีตดารา ขโมยทรัพย์สินนับล้าน อ้างปัญหาหนี้

14 ก.ย. 2567

สืบนครบาล บุกจับแม่บ้าน "บลู เอลิกา" อาศัยช่วงคนไม่อยู่บ้าน ขโมยทรัพย์สินมูลค่านับล้าน สามีอดีตดารากลับมาเจอ เห็นคาหนังคาเขา ให้โอกาสเอามาคืน สุดท้ายไม่สำนึกขนของย้ายหนี

13 ก.ย. 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 4 จับกุมตัว นางสาวบัว (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาวบุรีรัมย์ อดีตแม่บ้าน "บลู เอลิกา" อดีตนักแสดงสาวลูกจ้าง โดยจับกุมได้ที่หอพัก ซอยลาดกระบัง 3 กรุงเทพมหานคร

 

หลังจากนายธัญร์นากร สามีอดีตดาราดัง บลู-เอลิกา  เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ไท สว่างจิต รองสารวัตร (สอบสวน) สน.วังทองหลาง ขอให้ดำเนินคดีกับแม่บ้าน ในข้อหาลักทรัพย์ในบ้านพักย่านรามคำแหง กรุงเทพฯ

บลู เอลิกา เล่าว่า รู้จักกับแม่บ้าน มาเป็นเวลานานนับ 10 ปี ซึ่งมาขอความช่วยเหลืออยู่ตลอด ด้วยความเห็นใจที่ลูกยังเล็กและมีลูกถึง 3 คน จึงได้ให้ความช่วยเหลือหางานให้ทำ คือ จ้างเป็นแม่บ้านมาคอยทำความสะอาดแบบเช้า-เย็นกลับ โดย 17 ส.ค. 2567  ที่ผ่านมาสามีได้ตรวจทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แล้วพบว่า แหวน, สร้อยข้อมือ, สร้อยพร้อมจี้ ได้หายจากที่เก็บของทั้งหมด

 

สืบนครบาล รวบแม่บ้านอดีตดารา ขโมยทรัพย์สินนับล้าน อ้างปัญหาหนี้

 

ซึ่งคิดว่าเป็นแม่บ้านขโมยไป เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเหตุให้สงสัย เนื่องจากเมื่อปลายปี 2566 พบว่า เงินหายไปจำนวนหลายพันบาทจากห้องนอน แม้กระทั่งสายชาร์จไอโฟนของแท้ก็หาย และแม่บ้านได้แจ้งว่า จะซื้อมาคืน แต่ก็ไม่ได้ซื้อมาคืน และมักลักลอบถอดสายกล้องวงจรปิดอยู่เสมอ 

 

ต่อมาวันที่ 18 ส.ค. 2567 แม่บ้านได้เดินทางมาทำงานที่บ้าน ก็ได้พูดคุยกันปกติ สามีกำลังออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน แต่ลืมโทรศัพท์มือถือไว้บนห้อง จึงได้กลับเข้าบ้านและขึ้นไปบนห้อง พบว่าแม่บ้าน กำลังรื้อค้นทรัพย์สินที่บริเวณหัวเตียงเพื่อที่จะขโมยทรัพย์สินเพิ่ม จึงได้พูดตรงๆ กับแม่บ้านว่า "ให้กลับตัวกลับใจใหม่ เอาของเก่าที่ได้ขโมยไปเอามาคืน" จากนั้นก็ออกจากบ้านไปเพื่อให้โอกาส แต่ทราบต่อมาว่าเมื่อแม่บ้านกลับบ้านของตนที่ย่านอ่อนนุช ก็ได้ขนของหนีออกจากที่พัก และไม่สามารถติดต่อได้อีก 

 

สืบนครบาล รวบแม่บ้านอดีตดารา ขโมยทรัพย์สินนับล้าน อ้างปัญหาหนี้

 

ด้านผู้เสียหายได้ตรวจสอบทรัพย์สินที่หายไปอีกครั้ง เบื้องต้นพบทรัพย์สินที่หายไป จำนวน 4 รายการดังนี้ แหวนทองหัวพลอย 2 วง มูลค่า 300,000 บาท , แหวนทองคำขาว จำนวน 4 วง มูลค่า 680,000 บาท , กำไรฝังเพชร จำนวน 1 วง มูลค่า 65,000 บาท , พลอดเม็ดสีแดง จำนวน 1 วง มูลค่า 120,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 1,165,000 บาท จึงได้เดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จนกระทั่งสืบนครบาลเข้าจับกุมได้ในที่สุด ในข้อหา "ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยุ่ในความครอบครองของนายจ้าง"
         


จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์สินภายในบ้านไปจริง สาเหตุที่ทำไปเพราะมีปัญหาหนี้สินและเป็นหนี้นอกระบบ ส่วนทรัพย์สินที่เอาไปดังกล่าว ตนได้นำทรัพย์สินไปจำนำกับโรงรับจำนำและคนรู้จัก แต่ยังมีเหลืออยู่ที่ตนเอง คือ แหวนทอง 2 วง และ สร้อยคอรูปกางเขน 1 เส้น จากนั้นได้นำตัวพร้อมของกลาง 


ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้กับเจ้าของบ้านหรือที่ทำงาน หนึ่งในปัญหาหนักใจก็คือ จะรู้ได้ไงแม่บ้านที่จ้างมาสามารถเชื่อใจได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เจ้าของบ้านต้องจำเป็นต้องสังเกตพฤติกรรม และดูประวัติส่วนตัวทั้งภูมิหลังและการทำงาน ด้วยการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเพิ่มความระมัดระวัง