ข่าว

นักการเมืองท้องถิ่น แจ้งความกลับหนุ่มกัมพูชา พร้อมเผยที่มาสัมพันธ์สาวลาว

นักการเมืองท้องถิ่น แจ้งความกลับหนุ่มกัมพูชา พร้อมเผยที่มาสัมพันธ์สาวลาว

18 ก.ย. 2567

นักการเมืองท้องถิ่น แจ้งความกลับหนุ่มกัมพูชา โต้ลั่นไม่เคยซื้อประเวณีสาวลาว พร้อมเผยถึงจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์กับสาวลาว

นักการเมืองท้องถิ่นและทนายความเดินทางเข้าแจ้งความ

18 ก.ย. 2567 กรณี วันที่ 17 ก.ย.2567 ที่ผ่านมา นายตี๋ อายุ 33 ปี ชาวกัมพูชา ออกมาแฉว่าเสี่ยนักการเมืองท้องถิ่นพัทยา ซื้อบริการแฟนสาวจนคบหากัน ไม่พอยังถูกกลุ่มนักเลงส่งข้อความข่มขู่ทำร้ายร่างกาย นอกจากนี้เจ้าตัวยังได้เปิดโปงร้านอาหารอินเดียแอบค้าประเวณี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

ล่าสุด ในวันนี้ นายปัณฑวัฏฐ์ อายุ 71 ปี ทนายความ ได้พาสมาชิกสภาเมืองพัทยา คนหนึ่ง นักการเมืองท้องถิ่นที่ตกเป็นข่าวพัวพันการซื้อประเวณีชาวลาว ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เพื่อเอาผิดกับหนุ่มกัมพูชาคู่กรณีและสื่อหลายสังกัด ที่นำเอาข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงไปนำเสนอสู่สาธารณชน โดยไม่มีการไตร่ตรองข้อเท็จจริง

 

ภายหลังการแจ้งความ ทนายของนักการเมืองท้องถิ่นได้ออกมาระบุว่า สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองท้องถิ่นกับสาวลาว ได้เริ่มต้นจากนักการเมืองลงพื้นที่ไปดูถนนเส้นหนึ่งแถวจอมเทียน และได้ไปพบกับสาวลาวคนดังกล่าว โดยฝ่ายหญิงได้มีการขอเบอร์โทรศัพท์นักการเมืองท้องถิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือเท่านั้น

 

แต่ภายหลังทั้งคู่มีการสานสัมพันธ์กันต่อ ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องคู่ชายหญิง โดยมีการไปพบกันเพียงครั้งเดียว มันเป็นเรื่องการสมัครใจของทั้งคู่ และยืนยันไม่มีการซื้อบริการทางเพศ ซึ่งไม่รู้ด้วยว่าร้านอินเดียที่ลักลอบค้าประเวณีอยู่แถวไหนด้วยซ้ำ รวมถึงการส่งนักเลงไปข่มขู่ก็ไม่เป็นความจริง และอีกประเด็นที่ว่าลูกความจะส่งเสียเลี้ยงดูสาวลาว ตรงนี้อยากให้ฝ่ายหญิงออกมาชี้แจงจะดีกว่า

 

ทั้งนี้ ลูกความจะผิดตรงจริยธรรมของนักการเมือง ก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน หลังจากข่าวออกไปทำให้เสียหาย จึงเดินทางมาแจ้งความเอาผิดกับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

 

ขณะที่ พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เผยว่า ประเด็นที่เจ้าของร้านอินเดีย เอาสาวต่างด้าวลักลอบค้าประเวณี ทาง สภ.เมืองพัทยา ไม่ได้นิ่งนอนใจ อยู่ระหว่างการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้อยากให้ผู้ร้องคือหนุ่มกัมพูชามาพบตำรวจเพื่อให้ปากคำ โดยหากพบการกระทำความผิดก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด และหากใครมีเบาะแสก็แจ้งชุดสืบสวนได้ตลอดเวลา