ข่าว

รวบ! "หมอกระดูกเก๊" ตุ๋นเงินยาย อ้างอยู่ต่างประเทศไม่มีเงินกลับ

19 ก.ย. 2567

รวบ! หมอกระดูกเก๊ ตุ๋นเงินยาย อ้างอยู่ต่างประเทศไม่มีเงินกลับ ขอเงินค่าเดินทาง ยายหลงเชื่อ โอนเงินไป 7 ครั้ง สูญ 1 ล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

ร่วมกันจับกุม นายอภิวัฒน์ อายุ 21 ปี ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนฯ”

 

สถานที่จับกุม บริเวณภายในซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 27 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร

 

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นปี พ.ศ.2567 ผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสูงวัย มีประวัติเกี่ยวกับการรักษาโรคกระดูกและเส้นประสาท ต่อมาได้มีคนร้ายอ้างว่า เป็นหมอรักษากระดูกและเส้นประสาททำงานอยู่ต่างประเทศ ใช้เฟซบุ๊กติดต่อมายังผู้เสียหาย โดยได้มีการพูดคุยกับผู้เสียหาย ถามไถ่อาการจนสนิทสนมกัน

ทำให้ผู้เสียหายเชื่อใจ

 

จากนั้นคนร้ายได้บอกว่า จะเดินทางมาเยี่ยมบุตรสาวที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยและจะมารักษาโรคกระดูกและเส้นประสาทที่ผู้เสียหายเป็นอยู่ให้หาย แต่คนร้ายอ้างว่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่เพียงพอจะขอยืมผู้เสียหายเพื่อนำมาสำรองจ่ายก่อนและในการเดินทางคนร้ายจะนำเงิน ทองคำและเพชรพลอยติดตัวมาด้วย เพื่อที่จะนำมาใช้คืนที่ได้ยืมเงินผู้เสียหายไปก่อนหน้านี้ แต่จะต้องมีการเสียภาษีถึงจะสามารถนำของมีค่าดังกล่าวเข้ามาได้

รวบ! \"หมอกระดูกเก๊\" ตุ๋นเงินยาย อ้างอยู่ต่างประเทศไม่มีเงินกลับ

 

 

 ผู้เสียหายเชื่อใจจึงได้มีการโอนเงินไปให้คนร้ายอีกจำนวนหลายครั้ง แต่ในขณะเดียวกันคนร้ายได้ติดต่อมายังผู้เสียหาย โดยแจ้งว่าเกิดปัญหาระหว่างเดินทาง เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพร้อมด้วยของกลางยาเสพติด ต้องใช้เงินประกันตัวจึงจะสามารถนำของมีค่าที่ติดตัวมาคืนผู้เสียหายได้ ผู้เสียหายรู้สึกกระวนกระวายใจ เกรงว่าจะไม่ได้รับเงินที่โอนให้คนร้ายไปก่อนหน้านี้

จึงหลงเชื่อและโอนให้คนร้ายเพิ่ม รวมจำนวน 7 ครั้ง มูลค่ากว่า 1,000,000 บาท

 

จากนั้นทางผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้อีก จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรีเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย

 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายอภิวัฒน์ฯ คือหนึ่งในบุคคลที่มีการเปิด

บัญชีม้าให้กับขบวนการดังกล่าว โดยนายอภิวัฒน์ฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ภายในซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 27 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานครฯ

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณดังกล่าว และสามารถจับกุมผู้ต้องหานี้ได้ จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่

เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องดังกล่าว โดยให้รายละเอียดว่า เมื่อปี 2564 ผู้ต้องหาพร้อมแฟนสาวได้สมัครงานที่ลงประกาศในเฟซบุ๊ก ต่อมาได้มีหญิงไทยไม่ทราบชื่อ-สกุล อ้างว่าคือนายหน้า จะพานายอภิวัฒน์ฯ ไปทำงานยังประเทศกัมพูชา ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท ต่อเดือน เมื่อไปถึงผู้ต้องหาอ้างว่าได้ถูกยึดเอกสารส่วนตัว

 

โดยไม่ทราบว่าถูกนำไปใช้กระทำผิดกฎหมายหรือไม่ จากนั้นได้ให้ผู้ต้องหาทำหน้าที่เป็น แอดมินในการส่งลิงค์เพจต่างๆ ไปยังบุคคลอื่น ผ่านทางข้อความ SMS โดยภายในสถานที่ดังกล่าว มีชายชาวจีน ชาวเวียดนาม

และชาวกัมพูชา กระทำการในรูปแบบเดียวกัน ผู้ต้องหาทำงานในลักษณะดังกล่าวประมาณ 1 เดือนเศษ

แต่ไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามที่ตกลง จึงเชื่อว่าถูกหลอก จึงได้แจ้งให้มารดาซึ่งอยู่ประเทศไทยทราบ จนกระทั่งถูกจับกุมตัวดังกล่าว