ข่าว

2 ผู้ต้องหาแสบ ออกอุบายหลอกตำรวจ ก่อนจับเข้ากรงขัง หลบหนีไกลถึงโคราช

2 ผู้ต้องหาแสบ ออกอุบายหลอกตำรวจ ก่อนจับเข้ากรงขัง หลบหนีไกลถึงโคราช

19 ก.ย. 2567

รวบ 2 ผู้ต้องหาแสบ! ออกอุบายหลอกตำรวจขอยืมโทรศัพท์ สกรัมก่อนจับเข้ากรงขัง หลบหนีไกลถึงโคราช สุดท้ายไปไม่รอดลั่นขอโทษสำนึกผิดแล้ว

19 ก.ย. 2567 จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนตำรวจนครบาล จับผู้ต้องหา 2 ราย  ทราบชื่อ นายอ้น อายุ 23 ปี และ นายนิพนธ์ อายุ 31 ปี ถูกจับกุมได้พร้อมไอซ์ประมาณ 80 กก. จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ( ไอซ์ )ไว้ในครอบครอง  ก่อนจะคุมตัวมาฝากควบคุมที่ สน. พญาไท โดยมีอำนาจในการควบคุมตัวได้ 3 วัน ตามพระราชบัญญัติยาเสพติด

 

จากนั้นวันที่ 18 ก.ย. 2567 เวลา 11:00 น. ชุดสืบสวนนครบาล ได้เบิกตัวผู้ต้องขังทั้งสองคน ไปสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ก่อนจะคุมตัวกลับมาฝากควบคุมที สน. พญาไท ในเวลา 23:00 น. โดยสิบเวรที่เฝ้าบริเวณหน้าห้องขัง มีการเปลี่ยนเวรในเวลาเที่ยงคืน โดย มี ร.ต.ต.รุ้งระวี สืบเหล่างิ้ว เป็นสิบเวรห้องขัง ในเวลานั้น

 

2 ผู้ต้องหาแสบ ออกอุบายหลอกตำรวจ ก่อนจับเข้ากรงขัง หลบหนีไกลถึงโคราช

ต่อมาตอนเวลา 01:00 น. ของวันที่ 19 ก.ย. 2567 ทางผู้ต้องขังได้ส่งสัญญาณผ่านกล้องวงจรปิดโดยการโบกมือ เมื่อ ร.ต.ต.รุ้งระวี เข้าไปถาม ผู้ต้องขังบอกว่าตนเองปวดท้อง ขอใช้โทรศัพท์โทรหาญาติ เพื่อขอยา ทางสิบเวรจึงให้โทรศัพท์เพื่อติดต่อญาติเป็นเวลา 2 นาที

แต่เนื่องจากห้องขังของ สน. พญาไทมีการนำแผ่นใสอะคีลิคมาติดที่กรง เพื่อป้องกันการผูกคอตาย - ทำร้ายร่างกายของผู้ต้องขัง นั้น ทำให้เวลาส่งโทรศัพท์มือถือคืน จึงจำเป็นต้องแง้มประตูห้องขัง เพื่อคืนโทรศัพท์ ซึ่งผู้ต้องขังทั้งสอง อาศัยจังหวะถีบประตูห้องขังออกมาจนโดนสิบเวร และมีการปลุกปล้ำก่อนหลบหนีออกไปจาก สน. โดยมีรถมารอรับและมาหลบหนี

 

2 ผู้ต้องหาแสบ ออกอุบายหลอกตำรวจ ก่อนจับเข้ากรงขัง หลบหนีไกลถึงโคราช

 

หลังเกิดเหตุจึงได้มีการวิทยุสกัดจับ ก่อนที่จะพบว่าผู้ต้องขังหลบหนีไปเส้นทางสระบุรี จึงประสานและโทรศัพท์ไปยังญาติเบอร์ที่ผู้ต้องขังโทรออก ก่อนที่ผู้ต้องขังจะรับสาย จึงเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว  เนื่องจากหากเข้าไปถึงตัวเมืองโคราช จะมีด่านใหญ่ ทางผู้ต้องขังจึงมอบตัวที่ สภ.สีดา โคราช ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการคุมตัวกลับมาที่ สน. 

 

เวลา 13.50 น. จนท. ควบคุมตัวผู้ต้องหาคดียาแหกห้องขัง สน.พญาไทกลับมาจาก สภ.สีดา โดยผู้ต้องหาให้การว่าขอโทษครับสำนึกผิดแล้วครับ ไม่อยากทำให้ทุกคนเดือดร้อน