ข่าว

ร้องสอบ "เรืองไกร" คาดแจ้งความเท็จ ปม "นายกอิ๊งค์"

ร้องสอบ "เรืองไกร" คาดแจ้งความเท็จ ปม "นายกอิ๊งค์"

20 ก.ย. 2567

ทนายร้องตรวจสอบ เอาผิด "เรืองไกร" นักร้องดัง ยื่นปม หนังสือถึงก.ก.ต.สอบนายกฯกรณีถือหุ้น เข้าข่าย"แจ้งความเท็จ"

20 ก.ย.2567 นายเดชา บัวปลี ทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงพล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.เพื่อกล่าวโทษให้ตรวจสอบนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ ถึงคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือกกต.เพื่อให้ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม และส่งคำร้องเพิ่มเติมในวันที่ 4 กันยายน เข้าข่ายแจ้งความเท็จหรือไม่ เพราะตามข้อกฎหมายแล้วนายกรัฐมนตรีสามารถโอนหุ้นภายหลังได้รับตำแหน่งตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด 

 

  นายเดชา เปิดเผยว่า ตาม พรบ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 ระบุว่ารัฐมนตรีต้องไม่ถือหุ้นเกินกำหนด คือร้อยละ 5 ซึ่งหากประสงค์จะถือหุ้นต่อ ให้แจ้งประธาน ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน เมื่อแจ้งแล้วก็มีกรอบเวลาโอนหุ้นต่อได้อีก 90 วัน ดังนั้น วันสุดท้ายที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะโอนหุ้นได้ คือวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ซึ่งนายเรืองไกรเองก็มีความรู้ทางกฎหมาย น่าจะทราบดีถึงกรอบระยะเวลาที่นายกฯ สามารถโอนหุ้นได้ การที่มาร้องนายกฯ ก่อนกรอบระยะเวลา ตนเองอยากให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ามีการกระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานหรือไม่ 

 

 

นายเดชา กล่าวต่อว่า การมายื่นเรื่องในวันนี้ยังไม่ใช่การแจ้งความ แต่เป็นการขอให้พนักงานสอบสวนไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น ซึ่งหากพบการกระทำความผิด พนักงานสอบสวนก็มีหน้าที่ดำเนินคดีกับนายเรืองไกรตามกฏหมายด้วย

  ”ผมมองว่าการยื่นร้องเรียนต่างๆ โดยไม่ได้พิจารณาข้อกฎหมายชัดเจนว่าผิดกฎหมายจริงหรือไม่ ทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไม่ได้ เพราะกระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำประเทศ ผมอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าไปด้วยดี ไม่ใช่ใครก็มาร้องกันแล้วทำให้ประเทศเกิดปัญหา จึงขอใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนมายื่นเรื่องในครั้งนี้“ นายเดชา กล่าว