ล่ามือปืนอาชีพ ใบสั่งตายกระหน่ำยิงเสี่ยรับเหมาคารถหรู รอดตายปาฏิหาริย์
เปิดกล้องวงจรปิด ล่ามือปืนอาชีพ ใบสั่งตายกระหน่ำยิงเสี่ยรับเหมาคารถหรู BMW รอดตายปาฏิหาริย์ คาดคนร้ายเป็นมืออาชีพแต่สวมรอยเป็นไรเดอร์
21 ก.ย. 2567 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ตรัง ตำรวจกองปราบปราม (CIB ชป.ตรัง) รุดลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 33/6 หมู่ 4 ต.บางรัก อ.เมืองตรัง ริมถนนสายตรัง-สิเกา อย่างละเอียดอีกครั้ง
ภายหลังจากเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วานนี้ (20 ก.ย. 2567) ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายขับรถ จยย.คล้ายไรเดอร์ส่งอาหาร ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 รัวยิงประมาณ 5-6 นัด เจาะผ่านกระจกรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ BMW รุ่น X3 สีขาว ทะเบียนประมูล กต 8989 ตรัง เพื่อหมายเอาชีวิต นายสิทธิกร (สงวนนามสกุล) หรือ เอ็กซ์ อายุ 43 ปี
ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ที่ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างบ้าน จนกระสุนทะลุผ่านกระจกรถเจาะเข้าบริเวณต้นแขนขวา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้อยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว แพทย์เอกซเรย์เบื้องต้น ไม่พบกระสุนฝังใน แต่ยังคงต้องรอการผ่าตัดรักษาเนื่องจากกระสุนเจาะตัดเส้นประสาท และยังคงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านผู้บาดเจ็บเสีย ไม่สามารถใช้งานได้ ต่อมาได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงปรากฏให้เห็นว่า จังหวะที่ผู้บาดเจ็บขับรถมาจอดบริเวณประตูรั้วหน้าบ้าน ทางด้านภรรยา คือ น.ส.เก๋ (สงวนนาม) ซึ่งนั่งข้างมาด้วย ได้ลงมาเปิดประตูรั้วบ้าน จังหวะเดียวกันนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับรถสวนเลนมาจอดประกบข้างประตูฝั่งคนขับ ก่อนจะชักอาวุธปืนรัวยิงผ่านทะลุกระจก
โดยใช้ระยะเวลาลงมือประมาณ 14-45 วินาที เท่านั้น ก่อนที่จะขับรถสวนเลนหลบหนีมาฝั่งขาเข้าตัวเมืองตรังอย่างรวดเร็ว ด้าน นางประยงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี แม่ยายผู้บาดเจ็บ ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ยังทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเกิดเหตุ ลูกเขยและภรรยาได้ไปงานศพของญาติที่ ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ส่วนตนซึ่งอยู่ใน อ.วังวิเศษ อยู่แล้ว ก็ได้เดินทางไปเจอกันที่งานศพ
หลังจากนั้นก็แยกย้ายกัน ลูกเขยและภรรยาเดินทางกลับบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเขาอยู่กัน 4 คน มีลูกเขย ภรรยา และลูกสาวอีก 2 คน ตามที่ลูกสาวเล่าให้ฟังว่า เมื่อมาจอดรถถึงประตูหน้าบ้าน ลูกสาวตนซึ่งเป็นภรรยาเขา ได้ลงจากรถมาเปิดประตูบ้าน จังหวะนั้นก็ได้มีผู้ชายขับรถ จยย. น่าจะเป็นยี่ห้อฮอนด้า เวฟรุ่นเก่า สวมเสื้อกันฝน สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ท้ายรถมีกล่องใส่อาหารแอปฯ ยี่ห้อหนึ่ง มาจอดข้างประตูรถฝั่งคนขับ โดยไม่พูดอะไร ก่อนที่คนขับก็ได้ชักอาวุธปืนออกมายิงประมาณ 2-3 นัด
แต่ปรากฏว่ากระสุนไม่ทะลุกระจก คนร้ายจึงลงมาจากรถ จยย. และมาเปิดประตูฝั่งคนขับ ที่ลูกเขยนั่งอยู่ แต่ประตูเปิดไม่ออก เนื่องจากระบบล็อกอัตโนมัติจากด้านใน คนร้ายจึงจ่อยิงซ้ำผ่านกระจกอีกประมาณ 2-3 นัด จนกระจกทะลุและขึ้นรถขับหลบหนีไป ซึ่งลูกสาวตนที่ลงมาเปิดประตูบ้านก็เห็นเหตุการณ์ คนร้ายก็น่าจะเห็นอยู่ แต่คนร้ายเจตนาจะยิงลูกเขยเพียงคนเดียว
แม่ยายกล่าวอีกว่า บุคลิกนิสัยของลูกเขยเป็นคนดีมาก ไม่เคยมีปัญหากับใครทั้งเพื่อนบ้านและเพื่อนฝูง ส่วนเรื่องในการทำงานตนก็ไม่แน่ใจ เพราะตนก็ไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกัน นอกเหนือจากเรื่องงานตนก็มองว่าไม่มีอะไรที่จะเป็นปัญหา เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ เป็นคนที่รักครอบครัวมาก เสร็จจากทำงานก็กลับเข้าบ้าน ทำแต่งาน ซึ่งบ้านหลังนี้ก็มาอยู่ได้ประมาณ 3-4 ปีแล้ว
หลังจากเกิดเหตุการณ์ตนในฐานะแม่ยายก็ขอฝากให้เจ้าหน้าที่ ตร.ทำงานให้ถึงที่สุด จับคนร้ายให้ได้ ไม่กล้าอยู่บ้าน คนในครอบครัวและหลานๆ อายุ 15 ปี และ 12 ขวบ ก็หวาดผวาอยู่ตลอดนอนไม่หลับ ตนห่วงทั้งลูกเขย ลูกสาว และหลานๆ ซึ่งตอนเกิดเหตุหลานๆ ก็อยู่ในบ้านได้ยินเสียงปืนที่ดังขึ้น
“จากการสอบถาม ทราบว่าก่อนหน้าจะเกิดเหตุมีคนบอกว่าคนร้ายมาขับวนเวียนดูลาดเลาอยู่ก่อนหน้าแล้ว แต่ไม่มีใครสนใจเพราะเข้าใจว่ามาส่งของ ส่งอาหารตามปกติ ส่วนประเด็นที่ว่าลูกเขยจะมีปัญหากับไรเดอร์ส่งอาหารนั้น ลูกเขยไม่มี และไม่ค่อยจะสั่งกัน อาจจะต้องมองไปในเรื่องของการทำงานมากกว่า
เพราะลูกเขยทำงานรับเหมาก่อสร้างบ้าน ส่วนใหญ่ในพื้นที่ จ.ตรัง สุราษฎร์ธานี พัทลุง และประทุมธานี และทำธุรกิจขายวัสดุก่อสร้างควบคู่ไปด้วย และยังมีเปิดร้านขายอุปกรณ์สำนักงาน เครื่องเขียน ที่ กทม. มีลูกน้องดูแลอยู่ แต่ส่วนนี้คงไม่เป็นประเด็น
ทั้งนี้ลูกเขยไม่ได้พกพาอาวุธปืน ส่วนสาเหตุที่กระสุนไม่ทะลุเข้าจกในช่วงแรก และช่วยชีวิตไว้ได้ก็เพราะกระจกน่าจะมีความหนาเป็นพิเศษ และความดีของเขาที่ช่วยเหลือเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน ทั้งในและนอกเครื่องแบบ อยู่ในระหว่างลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่คนร้ายอาจจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี สอดคล้องกับข้อมูลบางส่วนที่แจ้งว่าผู้ก่อเหตุได้มาขับวนเวียน และจอดซุ่มรออยู่แล้วในช่วงเย็นก่อนที่จะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น