ข่าว

CIB บุกคลินิกเถื่อน ปราบ 7 หมอเถื่อน อ้างเป็นแพทย์รักษาประชาชน

CIB บุกคลินิกเถื่อน ปราบ 7 หมอเถื่อน อ้างเป็นแพทย์รักษาประชาชน

22 ก.ย. 2567

CIB ร่วม สบส. สสจ.เพชรบูรณ์ สสจ.ชลบุรี บุกทลายคลินิกเถื่อน 8 จุด จับหมอไม่มีใบอนุญาต 7 ราย อึ้งจบการศึกษามีต่ำสุดจบม. 6

22 ก.ย. 2567 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.)  พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. พร้อมด้วย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ร่วมปฏิบัติการระดมตรวจค้นสถานพยาบาล และบ้านพักที่ดัดแปลงเป็นสถานพยาบาล ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ จ.ชลบุรี และ จ.สมุทรสาคร จำนวน 8 จุด จับกุมผู้ต้องหา 8 ราย (หมอเถื่อน 7 ราย และเจ้าของสถานพยาบาล 1 ราย)


สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สาธารณะสุขจังหวัดสมุทรสาคร  และ ประชาชน ให้ตรวจสอบบุคคลที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำการักษาโรค และฉีดเสริมความงามให้ประชาชนทั่วไป

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ทำการสืบสวนพบว่า มีบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์หลายรายในพื้นที่หลายจังหวัดลักลอบใช้สถานที่ต่างๆ เปิดรับการรักษาให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปจริง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้บริการ บางรายเจ็บป่วยคาดหวังการตรวจรักษาให้หาย แต่กลับไม่ได้รับการรักษาโดยแพทย์ที่แท้จริง ในกรณีผู้ที่เสริมความงาม อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายรูปแบบอื่นๆ เช่น ใบหน้าผิดรูป บิดเบี้ยว หรือเกิดการอักเสบติดเชื้อจนเป็นอันตรายถึงชีวิต จึงเป็นการนำมาสู่การระดมกวาดล้างหมอเถื่อนและสถานพยาบาลเถื่อน 8 จุด 

 

CIB บุกคลินิกเถื่อน ปราบ 7 หมอเถื่อน อ้างเป็นแพทย์รักษาประชาชน

-ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 4 จุด เช่น บ้านพักแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ โดยขณะเข้าตรวจสอบพบว่า น.ส.ทัศนีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี กำลังให้บริการฉีดดริปวิตามินให้กับประชาชนที่มารับบริการ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ให้บริการฉีดรักษาไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม และสถานที่ให้บริการนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการสถานพยาบาล โดย น.ส.ทัศนีย์ฯ กล่าวอ้างว่า ตนเองจบชั้น จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาพยาบาล มีความรู้เกี่ยวกับความงามและการชะลอวัยได้ประมาณ 8-9 ปี จึงเปิดกิจการเป็นของตัวเอง โดยใช้บ้านพักเป็นสถานที่รับทำหัตถการให้เฉพาะคนรู้จัก หรือบุคคลที่ไว้ใจแนะนำมาเท่านั้น โดยทำมาแล้วเป็นเวลาประมาณ 1 ปี มีรายได้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 20,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุม น.ส.ทัศนีย์ฯ พร้อมตรวจยึดของกลาง จำนวน 13 รายการ มูลค่า 30,000 บาท ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ดำเนินคดี
 

-ในพื้นที่ จ.ชลบุรี จำนวน 3 จุด เช่น เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่คลินิกเวชกรรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองปรือ พบ น.ส.วาสนา (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี อ้างตัวเป็นแพทย์ทำการตรวจรักษาให้ประชาชน เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพบว่า แพทย์ที่ทำการรักษาโรคให้กับประชาชนทั่วไปนั้น ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด อีกทั้งสถานพยาบาลดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล โดย น.ส. วาสนาฯ รับว่าเป็นเจ้าของคลินิกดังกล่าว และอ้างว่าจบหลักสูตรพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุม น.ส.วาสนาฯ พร้อมตรวจยึดของกลาง 16 รายการ มูลค่า 100,000 บาท ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี 

 

CIB บุกคลินิกเถื่อน ปราบ 7 หมอเถื่อน อ้างเป็นแพทย์รักษาประชาชน

จากการตรวจสอบข้อมูลของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี พบว่า น.ส. วาสนาฯ ได้ลักลอบเปิดคลินิกโดยไม่ได้ขออนุญาต และอ้างตัวเป็นแพทย์ทำการรักษาให้กับประชาชนมานานแล้ว แต่พยายามหลบหนีการจับกุม โดยย้ายคลินิกตลอดเวลา และเมื่อย้ายสถานที่แล้วจะเปลี่ยนชื่อคลินิกไปเรื่อยๆ และจะรับรักษาเฉพาะแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือชาวต่างชาติ เท่านั้น  

 
-ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร 1 จุด  เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้เข้าตรวจสอบคลินิกเสริมความงามภายในห้างดัง พื้นที่ ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พบ น.ส.นภาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี กำลังให้บริการฉีดผิวให้แก่ลูกค้าที่มารับบริการ โดยจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ให้บริการฉีดรักษาไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดย น.ส.นภาพรฯ รับว่าตนเองจบปริญญาตรี สาขาบัญชี มีความรู้ในการฉีดเสริมความงามจากการเคยเป็นพนักงานคลินิกมาก่อน โดยทำมาแล้วประมาณ 1 ปี มีรายได้จากการเป็นพนักงานของคลินิก เดือนละ 15,000 บาท และได้ค่าจ้างเพิ่มจากการฉีด ครั้งละ 60 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันจับกุม น.ส.นภาพร (สงวนนามสกุล) พร้อมตรวจยึดของกลาง จำนวน 20 รายการ มูลค่า 110,000 บาท ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดี 

 

อย่างไรก็ตาม รวมตรวจค้น 8 จุด โดยเป็นสถานพยาบาลเถื่อน จำนวน 4 แห่ง, จับกุมผู้ต้องหา 8 ราย โดยเป็นแพทย์เถื่อน 7 ราย เจ้าของสถานพยาบาล 1 ราย และผู้ทำการรักษาจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ราย ปริญญาตรี 7 ราย พร้อมตรวจยึดของกลาง เช่น ยาแผนปัจจุบัน ยาขึ้นไม่ขึ้นทะเบียนตำรับ เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ รวมทั้งพยานหลักฐานอื่นๆ รวมจำนวน 242 รายการ

 

CIB บุกคลินิกเถื่อน ปราบ 7 หมอเถื่อน อ้างเป็นแพทย์รักษาประชาชน

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม
1. กรณีสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  
2. พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน
- “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
- “ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 5,000 บาท
 
ด้านทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กล่าวว่า การให้บริการของหมอเถื่อนที่ขาดความรู้ความสามารถ ย่อมสร้างผลกระทบต่อสุขภาพ ร่างกายของผู้รับบริการ อย่างการเสริมความงามก็มักจะพบความผิดพลาด ทั้งแผลติดเชื้อ จมูก ปาก หน้าอกผิดรูป เกิดความพิการจากการฉีดสารเสริมความงาม หรือในบางรายก็รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ดังนั้นในการหลีกเลี่ยงอันตรายจากหมอเถื่อนเหล่านี้ ผู้รับบริการจะต้องหมั่นสังเกตเอกสารหลักฐานประจำคลินิก 

 

ซึ่งนอกจากเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และใบอนุญาตให้ประกอบกิจการแล้ว ก่อนเข้าห้องตรวจรักษาจะต้องตรวจสอบเอกสารหลักฐาน “แบบแสดงรูปถ่ายและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ (ส.พ.6)” ที่ติดอยู่หน้าห้อง ซึ่งจะแสดงภาพถ่าย ชื่อ นามสกุล สาขา และเลขที่ใบอนุญาตของผู้ให้บริการ และเพื่อความมั่นใจก่อนรับบริการขอให้นำชื่อของแพทย์รายดังกล่าวไปตรวจสอบในเว็บไซต์แพทยสภา (https://tmc.or.th/) หรือหากเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะให้ตรวจสอบที่เว็บไซต์กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (http://mrd-hss.moph.go.th/) หากไม่ปรากฏรายชื่อในเว็บไซต์ หรือใบหน้าของผู้ให้บริการไม่ตรงกับภาพถ่ายห้ามรับบริการโดยเด็ดขาด และขอให้แจ้งเบาะแสมาที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 หรือหากอยู่ในส่วนภูมิภาคก็แจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ ซึ่งข้อมูลของท่านนั้นย่อมเป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนพ้นจากอันตรายได้

 

ด้านพล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ได้รับเบาะแสบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ทำการรักษาโรค และทำหัตการฉีดเสริมความงามให้ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชน ก่อนเข้ารับการรักษาโรค หรือเสริมความงามตามสถานพยาบาลต่างๆ ควรตรวจสอบการได้รับอนุญาตของคลินิกและแพทย์ที่ทำการรักษาก่อนในเบื้องต้น เพราะอาจทำให้ได้รับความเสี่ยงในการวินิจฉัยและรับการรักษาที่ไม่ถูกต้องจากบุคลากรที่ไม่ใช้แพทย์ 

 

ในกรณีการเสริมความงามหากทำการฉีดรักษาโดยบุคลากรที่ไม่ใช่แพทย์อาจทำให้ได้รับความเสี่ยงต่อการรักษาที่ผิดพลาด และเกิดผลกระทบกับใบหน้าได้ง่าย บางรายอาจถึงขั้นเสียโฉมยากต่อการแก้ไข และขอเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ, หมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนหากพบสถานพยาบาลหรือแพทย์ที่ต้องสงสัยว่าอาจอยู่ลักษณะหมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค
 

CIB บุกคลินิกเถื่อน ปราบ 7 หมอเถื่อน อ้างเป็นแพทย์รักษาประชาชน