รวบ "พลอย ดาวติ๊กต็อก" ขโมยของบ้านแฟน ก่อนหนีไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์
สืบนครบาล จับ "พลอย ดาวติ๊กต็อก" คาด่านชายแดน ก่อเหตุขโมยของบ้านแฟนหนุ่ม หลังติดการพนันออนไลน์ ก่อนข้ามหนีไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างถูกบังคับเป็นเมียน้อยBOSS
21 ก.ย. 2567 ชุดสืบนครบาล เข้าจับกุม น.ส.พลอยณภัทร (สงวนนามสกุล) หรือ พลอย อายุ 21ปี ดาวติ๊กต็อก สาวสวยหน้าตาดี ผู้ติดตามกว่า 36 k หลังมีพฤติการณ์ “รักจริง....ลักขโมย” ลักขโมยทรัพย์สินที่บ้านของชายหนุ่มที่มีความสัมพันธ์กับเธอ จนเป็นที่ปรากฏภาพจากสื่อมวลชนหลายๆสำนัก เมื่อห้วงปลายเดือน ก.ค. 67 ที่ผ่านมา
โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ส่งชุดสืบนครบาล ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกันจับกุมตัวได้ที่ อาคารผู้โดยสารขาเข้า จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว
ในชั้นจับกุม น.ส.พลอย รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ระบุว่า เธอประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก เนื่องจากติดพนันออนไลน์ (ปั่นสล็อต) และไม่สามารถยืมเงินของนายต่อแฟนหนุ่มได้ เนื่องจากตอนนั้นนายต่อแฟนของตนอยู่ที่ปอยเปต กำลังเข้าไปเปิดบัญชีม้าและคอยแสกนหน้าให้กับกลุ่มมิจฉาชีพอยู่ ตนจึงตัดสินใจเข้าไปขโมยทรัพย์สินในบ้านของแฟนหนุ่มตามที่เห็นจากภาพกล้องวงจรปิด โดยได้ทรัพย์สินไปประมาณ 60,000 บาท จากนั้นได้หลบหนี
โดยติดต่อไปที่ Tiktok หนึ่ง ซึ่งเป็นที่รับสมัครไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หากไปทำงานกับเค้าจะได้เงินเดือนๆละ 25,000 บาท และยังมีเงินพิเศษรายวันหากทำยอดหลอกลวงแตะตามเป้าหมายที่วางไว้ เริ่มต้น 5% ของเงินที่หลอกได้/รายวัน , 7% ของเงินที่หลอกได้/รายเดือน โดยมีเงินขั้นต่ำ 50,000 – 100,000 บาท แต่หากทั้งเดือนหลอกได้ไม่ถึง 50,000 บาท จะไม่ได้รับเงินเดือนเลย ตนเห็นรายละเอียดแล้วสนใจจึงตัดสินใจข้ามไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยข้ามประเทศด้วยการใช้เส้นทางธรรมชาติ
เมื่อข้ามไปถึงฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้มีคนมารับพาไปและเข้าทำงานที่ชั้น 12 ของอาคาร 25 ชั้น โดยจะทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์รูปแบบหลอกให้รักแล้วชวนทำภารกิจดันสินค้า ซึ่งไม่มีจริง โดยหัวหน้าจะให้สร้างโปรไฟล์ facebook และ Line ตีสนิทกับเหยื่อก่อนประมาณ 15 วัน เมื่อเหยื่อหลงรักเราแล้ว ก็จะค่อยๆชักชวนให้เข้ากลุ่มไลน์ซึ่งไลน์อวตาลอีก 4 ตัว เป็นหน้าม้าและมีการทำสลิปโอนเงินปลอม เพื่อล่อใจเหยื่อให้ทำภารกิจดันสินค้านี้
ระหว่างที่อยู่ที่แรกนี้ มีเหยื่อที่หลงเชื่อและเริ่มคุยกับตนแล้วประมาณ 10 คน ซึ่งหลังจากตนอยู่ที่ตึก 25 ชั้นนี้ได้เพียง 1 สัปดาห์ คดีของตนก็เกิดเป็นข่าวขึ้นทำให้บอสชาวจีนสั่งย้ายตนไปหลบอยู่อีกออฟฟิศหนึ่งทันที ซึ่งเป็นตึก 4 ชั้นในซอยวัดใหม่ เมื่อทำงานที่นี่เป็นรูปแบบการหลอกลวงลักษณะเดียวกับที่แรก แต่เปลี่ยนตัวสินค้าที่ให้เหยื่อทำภารกิจ โดยที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์แห่งที่ 2 นี้ ตนใช้ facebook อวตาร ชื่อ “ก้อย” แค่ตัวเดียว ได้ลูกค้าที่พูดคุยด้วยประมาณ 20 กว่าคน และมีผู้หลงเชื่อให้หลอกจำนวน 1 คน เป็นเงิน 25,000 บาท แต่ตนเห็นคนเก่งๆในแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ สามารถหลอกลวงพยาบาลสาวได้เป็นเงิน 5,000,000 บาท
ตนจึงพยายามตั้งใจทำงานมากขึ้นหวังจะได้เงินเยอะๆ แต่เมื่อทำงานไปได้ระยะหนึ่งก็ประสบปัญหา โดย Boss ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ที่เป็นชาวไทยชื่อว่า “แสบ” ได้เข้ามาตีสนิทและบีบบังคับให้ตนเองเป็นเมียน้อย จะให้เงินเดือนเดือนละ 30,000 บาท โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ตนได้ปฏิเสธ จึงถูกไล่ออกทันที จากนั้นตนเข้าทำงานที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์แห่งที่ 3 ซึ่งเรียกกันว่า หลังบ่อตกปลา โดยการหลอกจะเป็นรูปคล้ายเดิม คือ หลอกให้รักแล้วชวนลงทุนเทรดหุ้นในเพลตฟอร์มเก๊ ซึ่งท้ายสุดเหยื่อจะถอนเงินออกไม่ได้ แต่ทำงานได้เพียง 3 วัน
นายต่อแฟนที่เป็นคู่กรณีก็ได้ทักมาบอกว่าสารวัตรแจ๊ะจะตามจับ ซึ่งถัดมาเพียง 2 วัน ก็มีตำรวจมาจับกุมตนจริงๆระหว่างเดินทางไปทำงาน โดยช่วงชีวิตที่ผ่านมา 2 เดือนนี้ตนรู้สึกได้ว่าถลำลึกไปมาก ตอนแรกคิดเพียงว่าจะไปหาเงินสักก้อนหนึ่งเพื่อนำกลับมาชดใช้ไม่คิดว่า ชีวิตจะถลำลึกถึงเพียงนี้ อยากให้ชีวิตตนเป็นอุทาหรณ์ให้กับสังคม ส่วนปัญหาเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นตนคิดว่าคงแก้ไม่ได้ เพราะรายได้ดี อย่างไรก็ล่อตาล่อใจให้คนมาทำได้ง่ายๆ
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ในส่วนทางคดีของการลักทรัพย์ จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมติดการพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการตัดสินใจในการก่อเหตุ โดยในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่ที่จะต้องมีการขยายผลต่อไปคือเรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งจากการสืบสวนติดตามตัวห้วงที่ผ่านมา พบข้อมูลพยานหลักฐานสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาให้ข้อมูลจริง
ซึ่งเป็นที่น่าตกใจเมื่อพบว่า ธุรกิจแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เติบโตและระบาดในประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก หลังจากนี้จะมีการขยายผลโดยละเอียด และขอยืนยันว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมลผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และหากท่านใดมีเบาะแสสามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาได้ที่ เพจ สืบนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม. หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.นิมิตรใหม่ ดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหากับน.ส.พลอย "ลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ , ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์"