ข่าว

ครู เตรียมฟ้องกลับแบงก์ดัง ผจก.ยักยอกเงินครูหลายคน

ครู เตรียมฟ้องกลับแบงก์ดัง ผจก.ยักยอกเงินครูหลายคน

23 ก.ย. 2567

ครู ร้อง ทนายอั๋น ถูกผจก.แบงก์ดังยักยอกเงินครูหลายคน จนศาลสั่งจำคุก 50 ปี แต่แบงก์กลับฟ้องเรียกเงินคืน พร้อมไกล่เกลี่ยให้จ่ายหนี้และต้องออกค่าทนายเอง จบลงที่เซ็นเอกสารห้ามเรียกร้องใดๆ

23 ก.ย. 2567 นายปอน (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ หอบเอกสารหลักฐานและคำพิพากษาที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ร้องขอให้นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น ช่วยเหลือฟ้องกลับธนาคารแห่งหนึ่ง 

 

จากกรณีที่ตนเองและข้าราชการครูอีกหลายคน กู้เงินธนาคารดังกล่าว เมื่อปี 2558 วงเงินกว่า 1.2 ล้านบาท จากนั้นปี 2559 ธนาคารมีโครงการให้รีไฟแนนซ์ปรับสภาพหนี้ด้วยการทำเรื่องขยายวงเงินกู้เป็น 1.4 ล้านบาท เพื่อปิดหนี้ 1.2 ล้าน แล้วยังสามารถนำเงินส่วนต่าง 2 แสนบาทไปใช้จ่ายได้ ทำให้มีครูหลายคนเข้าร่วมโครงการ แต่พอตอนหักเงินในบัญชีเพื่อชำระหนี้ กลับพบความผิดปกติ มียอดหักเพิ่มจากยอดที่ต้องชำระจริงถึง 8,000 บาท 

ครู เตรียมฟ้องกลับแบงก์ดัง ผจก.ยักยอกเงินครูหลายคน

นายปอน เล่าว่า พอไปตรวจสอบถึงทราบว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อของธนาคารในขณะนั้น ยักยอกเงินของครูที่เข้าโครงการรีไฟแนนซ์เงินกู้ เพราะไม่ได้นำเงิน 1.2 ล้านไปปิดหนี้เดิม แต่กลับไปใช้ส่วนตัว ทำให้ครูหลายคนต้องเป็นหนี้ 2 ยอด คือ 1.2 ล้าน และ 1.4 ล้าน รวมเป็น 2.6 ล้านบาท จึงไปแจ้งให้ทางธนาคารทราบว่า มีการยักยอกเงินของครูหลายคน กระทั่งสำนักงานใหญ่ของธนาคารมีการตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยและดำเนินคดีอาญากับ ผจก.ฝ่ายสินเชื่อคนดังกล่าว เมื่อต้นปี 60 จน ผจก.ถูกไล่ออกและศาลพิพากษาจำคุก 50 ปี 

ทุกคนก็เข้าใจว่า เรื่องจะจบเพราะคนทำผิดได้รับโทษไปแล้ว แต่จู่ๆ เมื่อปี 61 ทางธนาคารกลับยื่นฟ้องเรียกเงินจากครูทุกคน 2 บัญชี ยอดรวมกว่า 2.6 ล้าน และดอกเบี้ยอีกรวมกว่า 3 ล้านบาท สร้างความเดือดร้อนและเครียด จนบางคนมีภาวะทางจิตต้องกินยารักษา 


ต่อมามีการไกล่เกลี่ยธนาคารเสนอให้ชำระยอด 1.4 ล้าน แต่ต้องจ่ายค่าทนายความ ค่าธรรมเนียมและค่าปรับคนละ 5 – 6 หมื่นบาทเพิ่มเติมด้วย หลายคนก็จำยอมทำตามเพราะไม่อยากเสียเวลาและไม่มีเงินที่จะจ้างทนายสู้คดี ลำพังทำงานกินเงินเดือนแต่ละเดือนยังลำบาก ทั้งถูกบีบให้เซ็นเอกสารห้ามฟ้องร้อง หรือเรียกร้องใดๆ แต่ตนมองว่าไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม เพราะครูเป็นผู้เสียหายแต่ธนาคารกลับฟ้องเท็จ เพื่อบีบเอาผิดและผลักภาระให้จ่ายเงินเพิ่ม จึงตัดสินใจเดินหน้าสู้คดี จนสุดท้ายศาลยกฟ้อง 

 

วันนี้จึงอยากจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเองและครูหลายคน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานว่า เมื่อแบงค์ทำผิด ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ ยืนยันจะฟ้องเอาผิดตามกฎหมาย 

 

ทนายอั๋น

ด้านทนายอั๋น กล่าวว่า คดีนี้เหมือนเป็น "คดีเงินบาป" เนื่องจาก ผจก.ธนาคารที่โกงเงินครูไปหลายคนหลายล้านบาท จากข้อมูลทราบว่ามีการยักย้ายถ่ายโอนเงินที่โกง ไปให้กับ ผอ.รร. ที่ตกเป็นข่าวดังยิงสังหาร 4 ศพ ซึ่งเป็นสามีขณะนั้น แต่พอเมียติดคุกเพราะยักยอกเงิน สามีก็ฟ้องหย่า หลังจากนั้น ผอ.คนดังกล่าวก็ไปแต่งงานอยู่กินกับ ผอ.สาว แต่สุดท้าย ผอ.สาว ก็จ้างทนายฟ้องหย่า ผอ.อดีตสามี ผจก.ธนาคาร ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมสังหาร 4 ศพ และยิงตัวตายตาม จากเงินที่โกงมาก็อยากให้เป็นเคสตัวอย่าง พร้อมฝากทำอะไรอยากให้นึกถึงบาปบุญ ส่วนที่ครูมาร้องกับตนเองเพื่อให้ยื่นฟ้องกลับธนาคารนั้น ก็จะได้รวบรวมหลักฐานและดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายต่อไป