กรมราชทัณฑ์ โต้ดราม่า หนุ่มอ้างสอบติด แต่กลับแจ้งคุณสมบัติไม่ผ่าน
กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงพร้อมเผยไทม์ไลน์ กรณีหนุ่มอ้างสอบติด แต่ถูกแจ้งคุณสมบัติไม่ผ่าน ตรวจสอบแล้วยื่นวุฒิการศึกษา ป.กศ.สูง ไม่ตรงตามเกณฑ์
กรณีที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของ นายสุรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) เข้าร้องเรียน สอบผ่านการคัดเลือกเป็นข้าราชการกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดแล้ว แต่ภายหลังกลับมีเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่า คุณสมบัติวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ นั้น
กรมราชทัณฑ์ ยืนยันจากการตรวจสอบเอกสาร นายสุรินทร์ใช้คุณวุฒิ “ประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ.สูง)” ซึ่งไม่เป็นไปตามประกาศรับสมัครฯ ทำให้เป็นผู้ขาดคุณสมบัติ และไม่มีสิทธิเข้ารับการสอบแข่งขัน ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีการเพิกเฉยได้แจ้งสาเหตุให้กับเจ้าตัวแล้ว
โดยวันที่ 10 พ.ย.2566 ลงประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติงาน (งานควบคุมผู้ต้องขังชายและอื่นๆ) ได้กำหนดวุฒิการศึกษาของผู้สมัครสอบแข่งขันฯ ต้องเป็นผู้ได้รับ “ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) หรืออนุปริญญาหลักสูตร 2 ปี หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือ อนุปริญญาหลักสูตร 3 ปี ในทุกสาขาวิชา เท่านั้น” โดยมิได้เปิดรับสมัครคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน
พร้อมกันนี้ ยังได้ระบุเงื่อนไขการสมัครสอบแข่งขัน ว่า ผู้สมัครสอบจะต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่า เป็นผู้มีคุณสมบัติตามประกาศรับสมัคร และจะต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ในใบสมัครให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง
หากกรณีที่มีการผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัครสอบแข่งขัน หรือตรวจพบว่า เอกสารหลักฐานต่างๆหรือคุณวุฒิ ซึ่งผู้สมัครสอบนำมายื่นไม่ตรงหรือไม่เป็นไปตามประกาศรับสมัครสอบ
กรมราชทัณฑ์จะถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้มาตั้งแต่ต้นกรมราชทัณฑ์จะถือว่า ผู้สมัครสอบ รวมทั้งหากปรากฏภายหลังว่า ผู้สมัครสอบรายใดมีคุณสมบัติทั่วไปหรือคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งไม่ตรงตามประกาศรับสมัครสอบ ก็จะไม่มีสิทธิได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้เข้ารับราชการในตำแหน่งที่สอบแข่งขันดังกล่าว
ในกรณีของนายสุรินทร์ กรมราชทัณฑ์ มีหนังสือแจ้งให้มารายงานตัวในวันที่ 6 พ.ค. 2567 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับราชการ ด้วยความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า ผู้สมัครสอบรายดังกล่าวได้ตรวจสอบคุณสมบัติและวุฒิการศึกษาของตนเองถูกต้องแล้ว ประกอบกับกรมราชทัณฑ์มีความต้องการบุคลากรเพื่อเสริมอัตรากำลังให้กับเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก แต่กรมฯ ก็ยังมีหน้าที่ในการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อความถูกต้องก่อนออกคำสั่งแต่งตั้งฯ
จากการตรวจสอบพบว่า นายสุรินทร์ ใช้คุณวุฒิ “ประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ.สูง)” ซึ่งไม่เป็นไปตามประกาศรับสมัครฯ เจ้าหน้าที่จึงได้โทรศัพท์ประสานในวันที่ 16 พ.ค. 2567 เพื่อขอเอกสารคุณวุฒิเพิ่มเติม อันเป็นการพิทักษ์สิทธิ์ให้กับนายสุรินทร์อย่างเต็มที่แล้ว
กรมราชทัณฑ์มีหนังสือลงวันที่ 24 พ.ค. 2567 แจ้งให้นายสุรินทร์ ทราบถึงสาเหตุที่ไม่สามารถบรรจุได้ เนื่องจากขาดคุณสมบัติ โดยมิได้เพิกเฉยหรือเงียบหาย ไม่ได้ติดต่อกลับดังที่กล่าวอ้าง
จากนั้นกรมราชทัณฑ์ จึงมีคำสั่งบรรจุแต่งตั้งข้าราชการไปแล้วเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2567 ซึ่งไม่มีชื่อนายสุรินทร์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามประกาศรับสมัครสอบดังกล่าว แต่ทางนายสุรินทร์ ยังคงมีสิทธิ์ในการยื่นเอกสารเพื่อขออุทธรณ์การพิจารณาบรรจุแต่งตั้งในครั้งนี้ได้
ต่อมานายสุรินทร์ ดำเนินการจัดส่งหนังสือจากสถาบันการศึกษา เพื่อเป็นการอุทธรณ์ตามสิทธิ์ที่พึ่งได้ ในวันที่ 30 พ.ค. 2567 ที่ระบุว่า เป็นผู้สำเร็จการศึกษา ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง สาขาวิชาพลศึกษา หลักสูตร 2 ปี เป็นระดับอนุปริญญา ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้ตรวจสอบ วุฒิการศึกษาจากเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. แล้วพบว่า ขัดกับการรับรองคุณวุฒิของสำนักงาน ก.พ. พี่มิได้ระบุว่าเป็นประกาศนียบัตรดังกล่าว คือ อนุปริญญา ที่สำคัญกรมราชทัณฑ์ มิได้เปิดรับสมัครคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน จึงถือได้ว่า ผู้สมัครสอบแข่งขันฯ เป็นผู้ขาดคุณสมบัติ และไม่มีสิทธิเข้ารับการสอบแข่งขัน การใดที่ได้ดำเนินการไปแล้ว สำหรับผู้ขาดคุณสมบัติให้ถือเป็น "โมฆะ"
นอกจากนี้การที่ผู้สอบแข่งขันได้จะลาออกจากหน่วยงาน หรือ สถานที่ทำงานเดิม เมื่อใดนั้น สามารถกระทำได้ตามสิทธิ์ของผู้สอบแข่งขัน การที่กรมราชทัณฑ์ ได้มีการประกาศรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้หรือมีหนังสือแจ้งระยะเวลาการดำเนินการ เป็นเพียงการแจ้งห้วงระยะเวลาให้ทราบขั้นตอนและเตรียมความพร้อม สำหรับการบรรจุแต่งตั้ง
โดยกรมราชทัณฑ์จะมีกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 แม้ได้รับการบรรจุแต่งตั้งไปแล้วก็ตาม ก็จะมีกระบวนการตรวจสอบวุฒิการศึกษาและอื่นๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง หากตรวจสอบภายหลังแล้วพบว่าผู้สอบแข่งขันได้รายใด เป็นผู้ขาดคุณสมบัติ กรมราชทัณฑ์ต้องดำเนินการให้ข้าราชการผู้นั้นออกจากราชการ พร้อมยืนยันว่า ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามที่ สำนักงาน ก.พ. กำหนด ทุกประการด้วยความถูกต้อง จึงชี้แจงมาเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง