แม่ "โยโกะ" ยังติดใจ ปมลูกสาวซด "ไซยาไนด์" เสียชีวิต เผยพิรุธ 3 ข้อ
แม่ "โยโกะ" พริตตี้สาว เข้าให้ปากคำ "กองปราบ" ยังติดใจ ปมลูกสาวซด"ไซยาไนด์" เสียชีวิต เผยพิรุธ 3 ข้อ ด้านรองผบก.ป.ยัน ช่วยคลายความสงสัยทุกประเด็น
23 ก.ย.2567 เวลา 11.30 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.เปิดเผยว่า นางกมลพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ ซึ่งเป็นแม่ ของ น้องโยโกะ (ลูกสาวผู้เสียชีวิต) ได้มายื่นร้องขอให้กองปราบปราม ช่วยตรวจสอบการเสียชีวิตของลูกสาว เนื่องจาก ยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว ซึ่ง ตน ได้ให้ ผกก.1 บก.ป.พูดคุย สอบถามข้อมูลรายละเอียดก่อนจะสรุปแจ้งให้ผู้ร้องทราบว่าจะดำเนินการอย่างไร
ต่อมาเวลา 13.00 น. หลังจากเข้าพบตำรวจกองปราบปราม นางกมลพัฒน์ แม่ของน้องโยโกะ เปิดเผยว่า ตนยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว เนื่องจาก ทาง สน.คลองตัน ท้องที่เกิดเหตุสรุปสำนวนคดี ว่า เป็นการฆ่าตัวตาย และญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย ก่อนส่งสำนวนให้อัยการ ทั้งที่ ตน เป็นแม่ไม่เชื่อว่า โยโกะ จะฆ่าตัวตายเอง
แม่ของน้องโยโกะ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ตน ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวทั้งที่ ดีเอสไอ และ บช.ก. ก่อนทาง บช.ก.จะนัดหมายให้ ตน มาพบเพื่อให้ปากคำในประเด็นที่ตนสงสัยในวันนี้ ซึ่ง ตน ได้มอบหลักฐานเป็นภาพถ่ายและข้อมูลต่างๆ กับพนักงานสอบสวนไปทั้งหมดแล้ว
รวมถึงยังมีข้อพิรุธ ของแฟนลูกสาว ที่ ยังมีข้อสงสัย ซึ่ง "ตัวแม่ เองยังติดใจสาเหตุการตาย แต่ทำไม สน.คลองตัน ถึงสรุปว่า ญาติไม่ติดใจ"
สำหรับร่างของน้องโยโกะ ตน ยังเก็บรักษาไว้ที่วัดบางบอน ยังไม่ได้ทำพิธีฌาปนกิจ แต่จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ทุกวันพระใหญ่ของทุกเดือน
นางกมลพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ตน มีหลักฐานที่นำมามอบให้ตำรวจกองปราบปรามไปพิสูจน์เยอะมาก และยืนยัน น้องโยโกะ ไม่ได้ฆ่าตัวตายเอง ซึ่งได้มอบหลักฐานให้พนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว รวมทั้งข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับแฟนหนุ่มของน้องโยโกะ ที่มีพิรุธ
ทาง สน.คลองตัน ทำคดีนี้ไม่เคลียร์ ตน จึงต้องมาร้องขอกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางตรวจพิสูจน์ ว่า การทำคดีของนครบาลนั้นถูกต้องหรือไม่อย่างไร วันนี้ตนจึงต้องลุกขึ้นมาทวงความยุติธรรมให้กับลูกสาวของตน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่ ของ น้องโยโกะ ให้ข้อมูลตำรวจถึงสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว โดยยังเก็บศพไว้ และไม่เผาร่างตั้งแต่วันเกิดเหตุ ซึ่งผลชันสูตรในตอนนั้น พบว่า เสียชีวิตจากอาการสมองบวมน้ำ ตับอ่อนเน่า มีไซยาไนด์ในร่างกาย ซึ่งทางครอบครัวไม่เชื่อการแถลงปิดคดีของตำรวจ เพราะ จุดสังเกตที่สงสัย ดังนี้
1.ในเรื่องของกล้องวงจรปิดหน้าห้อง ที่มีช่วงหนึ่งหายไป โดยให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบพบว่ามันถูกลบไป
2. ไลน์แฟนหนุ่มมาหาลูกสาวคะยั้นคะยอให้กินยา
3. ลูกสาวเพิ่งรู้ว่า เขามีภรรยาแต่งงานอยู่แล้ว ซึ่งวันที่เสียชีวิต ก็เป็นวันเกิดภรรยาของแฟนหนุ่มด้วย จึงสงสัยว่า ทางแฟนหนุ่มเอาไซยาไนด์ใส่ในแคปซูลยาของลูกสาวหรือไม่
นอกจากนี้ยังไม่มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะหลังจากนำโทรศัพท์ของลูกสาวไปตรวจสอบ แล้วพบว่า มีรูปหายไป 21 รูป จึงไปร้องขอความเป็นธรรม เพื่อมีการสอบสวนเพิ่ม แต่สุดท้ายก็สรุปว่า เป็นการฆ่าตัวตาย