ซ้ำอีก ไฟไหม้อาคารพาณิชย์ ใน ตลาดวโรรส ย่านไชน่าทาวน์เชียงใหม่ วอด 4 คูหา
ซ้ำอีก ไฟไหม้อาคารพาณิชย์ ภายในบริเวณ ตลาดวโรรส ย่านไชน่าทาวน์เชียงใหม่ ไฟลุกลามไหม้วอด 4 คูหา เร่งตรวจสอบสาเหตุ
เมื่อเวลา 01.00 น. (25 ก.ย. 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครเชียงใหม่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านให้เข้าทำการตรวจสอบอาคารพานิชย์ 3 ชั้น ภายในบริเวณ ตลาดวโรรส หรือ กาดหลวง ย่านไชน่าทาวน์เชียงใหม่ ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ซึ่งอาคารดังกล่าวอยู่ติดกับศาลเทพเจ้ากวนอู พบว่าได้เกิด ไฟไหม้อาคารพานิชย์ ภายในอาคาร ถ.ข่วงเมรุ ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดทั่วไป
ด้านล่างเป็นหน้าร้านขายสินค้า ส่วนชั้นที่ 2 และ3 เป็นคลังสินค้า เพลิงได้ลุกไหม้ชั้นสองของอาคาร ก่อนที่จะลุกลามอย่างรวดเร็วเจ้าหน้าที่ดับพลิงได้ประสานรถน้ำมากกว่า 10 คันพร้อมพนักงานดับเพลิงเข้าสกัดเพลิง แต่ไฟโหมไหม้รุนแรง ไฟไปติดกับสินค้าบนชั้น 2 ของอาคาร ประกอบกับสินค้าส่วนใหญ่เป็นพลาสติกจำพวกด้าย ไหมพรม นุ่นหมอน อุปกรณ์ตัดเย็บ เสื่อน้ำมัน และของใช้ที่ทำจากพลาสติก และผ้า ทำให้ลุกลามรวดเร็วจนผนังอาคารทะลุไปยังคูหาใกล้เคียงซึ่งเป็นชั้น 2 เช่นกัน ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และโหมแรงขึ้น
เจ้าหน้าที่พยายามใช้บันไดปีนขึ้นไปชั้นสองเพื่อฉีดน้ำสกัดเพลิง แต่เปลวไฟน่าจะไปติดกับวัตถุไวไฟทำให้เปลงไฟพุ่งออมาจากทางหน้าต่างจนเจ้าหน้าที่ต้องถอนกำลังออกมาโชคดีที่ไม่ถูกไฟคลอก หลังจากนั้นก็ได้ใช้น้ำฉีดสกัดควบคุมไฟไว้ไม่ให้ลุกลามไปคูหาใกล้เคียง ทั้งด้านหน้า และด้านหลังอาคาร ซึ่งติดกับคลังสินค้าอีกแห่งหนึ่ง อีกทั้งเป็นใจกลางตลาดเก่าแก่ของเชียงใหม่อายุมากกว่า 100 ปี ทางเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัด แต่ก็จัดชุดเฝ้าระวังเนื่องจากยังมีเชื้อไฟปะทุขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งสภาพอาคารที่เจอความร้อนมีการพังทรุดตัวลงมาต่อเนื่อง จึงต้องกันพื้นที่ไว้ เพื่อความปลอดภัย
นายอัศนีย์ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ มาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเปิดเผยเบื้องต้นว่า ไฟลุกลามไปทั้งหมด 4 คูหาด้วยกัน ไม่มีผู้ที่อยู่อาศัยในช่วงเกิดเพลิงไหม้ทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จุดเกิดเหตุเป็นใจกลางตลาดเป็นซอยแคบรถดับเพลิงเข้าถึงจุดลำลาก แต่ไฟที่ลุกไหม้ไปติดกับสินค้าที่เป็นเชื้อไฟอย่างดีทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟด้วยความยากลำบาก
ประกอบกับอาคารชั้นสองมีการทรุดตัวถล่มลงมาจึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพราะตัวอาคารเก่าแก่มีอายุหลายสิบปีด้วย หลังจากนี้ก็จะต้องให้เจ้าหน้าที่กับพื้นที่เพื่อตรวจสอบ และประเมินความเสียหายก่อนทั้งในส่วนของทรัพย์สิน และสภาพโครงสร้างของตัวอาคารว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ที่จะเข้าไป รวมทั้งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงของเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป
โดย : วสันต์ ปัญญาเรือน