อดีต สจ. เมากร่าง กระชากหัวเด็กพัฒนาการช้าวัย 4 ขวบ เหวี่ยงกระเด็นหัวกระแทก
อดีต สจ. เมากร่าง ทะเลาะกับสาวคนสนิทและพาลคนที่มากินข้าวโต๊ะข้างเคียง กระชากหัวเด็กพัฒนาการช้าวัย 4 ขวบ เหวี่ยงกระเด็นหัวกระแทก
26 ก.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อคืนวันที่ วันที่ 23 กันยายน 2567 เวลา 22.20 น. เกิดเหตุทะเลาะกันร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองสิงห์บุรี ซึ่งในคลิปเหตุการณ์ ผู้ก่อเหตุ ได้จับวัย 4 ขวบเหวี่ยงลงกับพื้น หัวฟาด ก่อนที่ พ่อของเด็กเข้ามารุมสกรัม
ผู้ก่อเหตุทราบชื่อ น.ส.กฤชตญาณัฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี (อดีต สจ.ยีนส์) ใส่เสื้อสีดำ กางเกงขาสั้น นั่งรับประทานอาหารอยู่หัวโต๊ะ ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน มีลักษณะมึนเมา ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหุตวิวาท กับ คู่กรณีพ่อเด็กที่ถูกทำร้าย น.ส.ยีนส์ ได้มีปากเสียง กับเพื่อนในโต๊ะอยู่ก่อนแล้ว ทราบชื่อ น.ส.พรทิพย์ (นายกเจี๊ยบ) นายก องค์การบริหารส่วนตำบลม่วงหมู่ ซึ่งเป็นเพื่อนสาวคนสนิทของ น.ส.ยีนส์
ขณะที่มีเรื่องทะเลาะ กับเพื่อนสาวคนสนิท โต๊ะของคู่กรณีที่มานั่งทานอาหารทั้งครอบครัว ซึ่งมีลูก2 คน อายุ 4 ปี กับ 3 ปี ได้หันไปมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ น.ส.ยีนส์ ไม่พอใจ ตะโกนเสียงดังว่า “มองหน้าทำไม” ทำให้คู่กรณี ทราบชื่อ นายนัท ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.ปวิตรา หรือ น้องโฟม ลุกเดิน ไปถาม น.ส.ยีนส์ ว่า “พี่ว่าอะไรเมียผมหรือเปล่า” พนักงานในร้านได้พากันเข้ามาห้าม เพราะกลัวเกิดเรื่องราว
โดยในระหว่างที่กลับไปนั่งโต๊ะ และทานอาหารกันต่อ ปรากฎว่า น.ส.ยีนส์ ไม่ยอมจบ น.ส.ยีนส์ ตะโกนขู่ว่า “บ้านมึงอยู่ไหน” และตะโกนด่าคำหยาบคายตลอดเวลา และขอกุญแจรถ จาก นายกเจี๊ยบ บอกว่า “กูจะตามมันไป เอามา ถ้าไม่เอามาเดี๋ยวจะทุบรถมันเลย มึงลูกใคร” หลังจากนั้น
น.ส.ยีนส์ ได้เดินมาที่โต๊ะของ นายนัท และเกิดการ ผลักกันไปยังที่ถนน โดยมีคนมาช่วยจับแยกจากกัน ในขณะนั้นเอง น้องนิวตั้น อายุ 4 ขวบ เป็นลูกชายคนโต ของนายนัทซึ่งเป็นเด็กที่มีพัฒนาการด้านสมองช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน ได้วิ่งไปดูเหตุการณ์ จังหวะนั้น น.ส.ยีนส์ หันมาเห็นก็วิ่งไปกระชากศีรษะ น้องนิวตั้น และเหวี่ยงลงกับพื้นทำให้ศีรษะ กระแทกกับพื้นอย่างแรง
นายนัท เห็นดังนั้น ก็ตะโกน “ลูกกูๆๆๆ” พร้อมวิ่งใส่ น.ส.ยีนส์ และต่อยตีกัน พร้อมถาม “มึงทำอะไรลูกกู มึงทำลูกกูทำไมๆ” ส่วนคนรอบข้าง และน้องโฟมก็ได้มาจับแยกพร้อมทั้งรีบพาครอบครัวตัวเองขึ้นรถและไปแจ้งความที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองสิงห์บุรี
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ น.ส.ปวิตรา จุ๋ยจุ้ย หรือ น้องโฟม อยู่เขตพื้นที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เล่าว่า ตน และนายนัท สามี เป็นชาวบ้านธรรมดาทำงานรับจ้างทั่วไป และไม่เคยคิดจะมีเรื่องกับใคร วันเกิดเหตุ ที่ร้านอาหาร เป็นร้านประจำของครอบครัว ซึ่ง ลูกชายคนโต ที่ถูกทำราย เป็นเด็กพัฒนาการด้านสมองช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน และสามีเป็นคนที่รักครอบครัวมาก จึงโมโห เข้าทำร้าย น.ส.ยีนส์
น.ส.ปวิตรา เล่าต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ ตน ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเสียงดังจึงหันไปดู พอดีกับจังหวะที่ผู้หญิงผมสั้นใส่เสื้อสีดำนั้นหันมาเห็น และตะโกนเสียงดังใส่ตนว่า “มองหน้าทำไม” หนูก็ยกมือไหว้ขอโทษ และบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ และหนูได้ยินคนในร้านบอกว่า “ไม่เอาน่ะ สจ. หนูขอ” ซึ่งหนูก็ไม่รู้ว่าเขาเป็น สจ.ที่ไหน
หลังจากเกิดเรื่อง ตน พาลูกไปโรงพยาบาล ตรวจร่างกาย เพราะมีอาการอาเจียน เอ็กซเรย์สมอง ยังไม่พบอาการผิดปกติ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ลูกชายมีอาการผวา พูดย้ำไปย้ำมาว่าพี่เขาใจร้ายทำหนูๆ และพอนึกได้อีกก็พูดอีก หนูก็ได้แต่ปลอบลูก ซึ่ง ตน ก็อยากให้เขาโดนดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ ผกก.สภ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี ได้กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งความ เบื้องต้นเราได้ส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี เพื่อที่จะได้รู้ว่าเด็กได้รับบาดเจ็บขนาดไหน ทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมายได้ ในส่วนของคดี ได้ให้พนักงานสอบสวนในพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และได้ดำเนินการให้ตรวจสอบรายละเอียดของคดีตลอดจนผู้เกี่ยวข้องให้เป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ เพื่อให้พนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป
ต่อมา เวลา 15.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสิงห์บุรี ทางพนักงานสอบสวนสภ.เมืองสิงห์บุรี ได้เรียกตัว น.ส.ปวิตรา จุ๋ยจุ้ย หรือ น้องโฟม พร้อมกับนายณัฐกานต์ (สงวนนามสกุล) หรือ นัทสามี และลูกชายน้องนิวตั้น มาสอบปากคำ เบื้องต้น ยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหากับใคร เนื่องจากได้รับแจ้งว่า อดีต สจ. ยีนส์ ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จึงยังไม่สามารถมาสอบปากคำได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะไปสอบปากคำอีกครั้งที่โรงพยาบาล จากนั้นจะรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งข้อหา และดำเนินคดีต่อไป