หลุดพ้น! แก๊งคอลฯจีน ตุ๋น "ครอบครัวจีน" ข่มขู่-เรียกค่าไถ่ลูกสาว
หลุดพ้น! "ครอบครัวชาวจีน" ถูก "แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน" หลอก ลูกสาวสูญเงิน 8 ล้านบาท ส่วนพ่อ แม่ถูกข่มขู่-เรียกค่าไถ่ลูกสาว ตำรวจกองปราบเข้าช่วยเหลือ ดีใจร้องไห้โฮลูกปลอดภัยดี
27 ก.ย.2567 ตำรวจกองปราบเข้าช่วยเหลือ ครอบครัวชาวจีน หลุดพ้นจาก แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน หลอก ลูกสาวสูญเงิน 8 ล้านบาท ส่วนพ่อ แม่ถูกข่มขู่-เรียกค่าไถ่ลูกสาว ดีใจร้องไห้โฮลูกปลอดภัยดี
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.ธนบดี ดวงจิตต์ สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังเข้าตรวจสอบหอพักแห่งหนึ่งในซอยกิ่งแก้ว 40/1 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อเข้าช่วยเหลือ น.ส.ซอง ซีฮัว (SONG XIUHUA) อายุ 42 ปี สัญชาติจีน
หลังได้รับการประสานจากสถานทูตจีน ให้ข่วยติดตามหาตัว เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย เนื่องจากมีแก๊งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์ไปข่มขู่ครอบครัวหญิงชาวจีนคนดังกล่าวเพื่อเรียกค่าไถ่
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่งข้อความแอปพลิเคชัน We Chat ไปข่มขู่มารดาของ น.ส.ซอง ซีฮัว ว่า ตอนนี้ผู้เสียหายกำลังถูกกักขังบังคับให้ทำงานอยู่ที่ประเทศไทย หากต้องการจะช่วยเหลือให้นำเงินมาไถ่ตัวจำนวน 2.5 ล้านหยวน หรือ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 12.5 ล้านบาท
โดยคลิปวิดีโอของน.ส.ซอง ซีฮัว เป็นภาพกำลังถือหนังสือเดินทางพูดภาษาจีนแปลความหมายได้ว่า “ข้าพเจ้ามาทำงานอยู่ที่ประเทศไทย คลิปวิดีโอนี้ข้าพเจ้าไม่ได้ถูกบังคับให้ถ่ายแต่อย่างใด” มาให้กับทางครอบครัวของผู้เสียหายดู ทำให้ครอบครัวของผู้เสียหายเกิดกังวลเกรงว่าบุตรสาวจะได้รับอันตราย จึงแจ้งประสานผ่านสถานทูตเพื่อขอความช่วยเหลือ
หลังได้รับการประสานเจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนทราบว่า น.ส.ซอง ซีฮัว ได้เดินทางออกจากประเทศเยอรมันนีตั้งเเต่วันที่ 15 ส.ค. 2567 โดยมีปลายทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย และ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก็พบว่าน.ส.ซอง ซีฮัว นั้นเดินทางมาเพียงลำพัง โดยเมื่อมาถึงสนามบินก็ได้นั่งรถแท๊กซี่โดยสารออกจากสนามบินทันที
นอกจากนี้ยังทราบอีกว่าปัจจุบัน น.ส.ซอง ซีฮัว ได้มาเช่าห้องพักอาศัยอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งในซอยกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ ซึ่งจากการสอบถามเจ้าของหอพักทราบว่า น.ส.ซอง ซีฮัว พักอาศัยเพียงลำพัง ไม่มีผู้ใดมาอาศัยอยู่ด้วย โดยส่วนมาก น.ส.ซอง ซีฮัว จะไม่ออกมาจากห้องพัก และมักจะเก็บตัวอยู่ภายในห้องพัก
เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าว ก่อนพบ เจ้าตัวอยู่ภายในห้องพักจริง โดยในช่วงเเรก เจ้าตัวยังคงแสดงท่าทีมีพิรุธ อ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าเดินทางเข้ามาที่ประเทศไทยเพื่อมารอทำงาน โดยเป็นงานเกี่ยวกับการสำรวจกล้องวงจรปิด พร้อมบอกอีกว่าตัวเองปลอดภัยดี และไม่ทราบเรื่องการเรียกค่าไถ่แต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจนำหลักฐานที่มีการส่งข้อความไปยังพ่อแม่เพื่อข่มขู่เรียกเงินจำนวน 2.5 ล้านหยวน ให้เจ้าตัวดู ช่วงแรกยังมีท่าทีไม่เชื่อ จนภายหลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญบิดาและมารดาให้มาพบและพูดคุย จึงเชื่อว่าเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดเป็นเรื่องจริง
ทั้งนี้จากการสอบถามปากคำ น.ส.ซอง ซีฮัว ให้การว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย.67 ขณะที่ทำงานอยู่ในประเทศเยอรมันนี ได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนโทรศัพท์มาหา โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน เเจ้งว่า ตนเองนั้นมีการเปิดหมายเลขโทรศัพท์ที่ประเทศจีนซึ่งเป็นหมายเลขที่ใช้ในการหลอกลวงคนอื่นในลักษณะหลอกให้ทำงานพิเศษ เข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์
โดยมีการแจ้งความไว้และจะต้องถูกดำเนินคดี ก่อนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวจะพูดจาหว่านล้อม ให้โอนเงินเข้ามายังบัญชีของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อทำการตรวจสอบ โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้อ้างว่าหากทำการตรวจสอบ เรียบร้อยเเล้วจะโอนเงินคืนให้ แต่ภายหลังเมื่อโอนเงินไปแล้ว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวได้แจ้งว่าโอนผิดบัญชี ให้โอนเงินมาใหม่ หากไม่โอนจะไม่ได้รับเงินก้อนเดิมคืน จึงหลงเชื่อโอนเพิ่มไปอีก รวมเป็นเงินกว่า 8 ล้านบาท โดยเป็นการโอนไปบัญชีธนาคารปลายทางในประเทศจีนและบัญชีธนาคารประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป
จากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวก็ได้ออกอุบายหลอกให้เดินทางจากประเทศเยอรมันนีมายังประเทศไทย อ้างว่าจะมีบุคคลที่สามารถช่วยเหลือทางคดีได้ ซึ่งเมื่อมาถึง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ได้ให้ น.ส.ซอง ซีฮัว ติดตั้งแอปพลิเคชัน Skyp และเปิดวิดีโอคอลไว้ให้เห็นตลอดเวลา นอกจากนี้ยังได้ออกอุบายให้ น.ส.ซอง ซีฮัว เข้าพักอาศัยอยู่ในที่พักที่ยอมให้เข้าพักโดยไม่ต้องแสดงหนังสือเดินทางและให้อยู่แต่ในห้องรอการติดต่อกลับเท่านั้น และห้ามติดต่อผู้ใด รวมถึงสั่งให้ถ่ายคลิปวิดีโอตนเอง พูดว่า “มาทำงานอยู่ที่ประเทศไทย และไม่ได้ถูกบังคับให้ถ่ายแต่อย่างใด”
ทั้งนี้ในระหว่างที่ น.ส.ซอง ซีฮัว อยู่ที่ประเทศไทย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังได้ให้ เจ้าตัวคอยรายงานตัวยืนยันที่พักของตนเองทุกๆ วัน และจะมีการโทรตาม หากหายไปจากแอปฯ Skype โดยจากการตรวจสอบข้อมูลเดินทางทั้งหมดทราบว่า น.ส.ซอง ซีฮัว ถูกหลอกลวงให้เดินทางเข้ามาพักอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.67 – 24 ก.ย.67 รวมเป็นเวลากว่า 40 วัน เปลี่ยนที่พักรวม 8 แห่ง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบดังกล่าว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้สอบถามถึงสาเหตุที่น.ส.ซอง ซีฮัว ไม่ยอมพูดความจริงในช่วงเเรก โดย น.ส.ซอง ซีฮัว ให้เหตุผลว่า เมื่อประมาณเดือนเมษายน 2567 แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้หลอกนางสาวซอง ซีฮัว ว่าหากบอกเรื่องดังกล่าวกับบุคคลอื่นหรือไม่ทำตามที่สั่ง จะไม่ได้รับเงินคืนและจะถูกดำเนินคดี ขณะที่ในส่วนของ MS.LI JIANSHE (มารดา) ที่ถูกข่มขู่เรียกค่าไถ่ลูกสาวนั้น MS.LI JIANSHE (มารดา) ยังไม่ได้มีการโอนเงินไปให้กับแก๊งมิจฉาชีพแต่อย่างใด