ข่าว

งามไส้! เปิดคลิปตำรวจ ไล่สกัดรถเก๋ง มีอาวุธสงคราม ยิงยางผิดคัน คนร้ายหนีรอด

งามไส้! เปิดคลิปตำรวจ ไล่สกัดรถเก๋ง มีอาวุธสงคราม ยิงยางผิดคัน คนร้ายหนีรอด

29 ก.ย. 2567

งามไส้! เปิดคลิป สายตรวจ สภ.เมืองตรัง ไล่สกัดรถคนร้าย มีอาวุธสงคราม แต่ผิดคัน รถชาวบ้านยางแตก ส่วนคนร้ายหนีรอด

29 ก.ย. 2567 เมื่อเวลา 05.47 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการนเรนทรตรัง (1669) ได้รับแจ้งเหตุจากประชาชนว่า มีชาย 1 ราย นอนหมดสติ เรียกไม่รู้สึกตัว อยู่ภายในรถเก๋ง ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟท์ สีขาว ซึ่งจอดติดเครื่องยนต์อยู่ริมถนน บริเวณสี่แยกตลอดท่ากลาง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ภายหลังรับแจ้งจึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ-กู้ภัย มูลนิธิกุศลสถานตรัง เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ-กู้ภัย พยายามเคาะกระจกเรียก แต่ปรากฏว่าผู้ขับขี่เป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี นอนหลับไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนองใดๆ จึงประสานสายตรวจ สภ.เมืองตรัง เข้ามาตรวจสอบ

เมื่อเจ้าหน้าที่ส่องไฟฉายเข้าไปภายในรถ กลับพบอาวุธปืนสงคราม M16 ตั้งอยู่เบาะหลังคนขับ จึงได้พยายามเรียกอีกครั้ง จนกระทั่งคนขับตื่นขึ้นมา และยกโทรศัพท์พูดคุยกับปลายสาย ก่อนขับรถหนีออกไปจากจุดเกิดเหตุ มุ่งหน้าถนนห้วยยอด
 

จังหวะนั้นมีรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์เงิน ขับผ่านไป 1 คัน และจอดติดไฟแดงอยู่บริเวณสามแยกหมี ตำรวจที่ขับตามรถต้องสงสัย ได้จอดปิดหน้ารถคันดังกล่าว และใช้อาวุธปืนยิงล้อหน้าจนแตก แต่เมื่อตรวจสอบแล้วกลับไม่ใช่รถเก๋งต้องสงสัยที่พกอาวุธสงคราม ซึ่งหลบหนีไปแล้ว ต่อมาคนขับอายุ 60 ปี ได้ลงมาจากรถ พร้อมตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่
 

งามไส้! เปิดคลิปตำรวจ ไล่สกัดรถเก๋ง มีอาวุธสงคราม ยิงยางผิดคัน คนร้ายหนีรอด

ขณะเดียวกันตำรวจพยายามวิทยุสกัด ให้สถานีตำรวจใกล้เคียงช่วยติดตาม แต่จุดสุดท้ายที่พบรถคันต้องสงสัยอยู่บริเวณแยกป่าหมาก เส้นทางมุ่งหน้าไป พื้นที่ ต.หนองตรุด อ.ห้วยยอด และ อ.วังวิเศษ จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้

ด้าน นายพรรณเชษฐ จันทร์แก้ว เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง กล่าวว่า จากการสอบถามชาวบ้านรถต้องสงสัยได้ขับมาจอดตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. ส่วนรถที่ตำรวจยิงผิดคัน มีคนเป็นชายอายุประมาณ 60 ปี ขับมาพร้อมกับหญิงอายุประมาณ 50 ปี 2 คน ซึ่งทราบว่ากำลังเดินทางไปสวน เมื่อเห็นรถตำรวจขับตามมา ก็พยายามเบี่ยงรถหลีกให้ แต่กลับถูกยิงสกัดดังกล่าว