"พล.ต.อ.สราวุฒิ" ยอมรับ ถูกลูกน้อง "บิ๊กโจ๊ก" ฟ้องฯเป็นของขวัญก่อนเกษียณ | คมชัดลึก

จากกรณี พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ หลังถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยร้ายแรง จากเหตุต้องคดีอาญาในความผิดสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อฟอกเงิน , สมคบกันฟอกเงิน และ ร่วมกันฟอกเงิน อันเกี่ยวเนื่องจากการสืบสวนสอบสวนคดีเว็บออนไลน์ ในพื้นที่ สน.เตาปูน

30 ก.ย. 2567 พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนอำลาชีวิตข้าราชการตำรวจ ส่วนความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีนี้เป็นระยะเวลาพอประมาณ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนผู้ถูกกล่าวหา ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการฯให้มีการสอบสวนพยานเพิ่ม ซึ่งมีจำนวนมาก 

โดยตนเองในฐานะประธานสอบสวนก็ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม ส่วนหลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของ ผบ.ตร.คนใหม่ ที่จะมอบหมายให้ รอง ผบ.ตร. ที่เข้ามากำกับดูแลสานต่อ 

พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าว่า ตนเองถือว่าหมดหน้าที่แล้ว เชื่อว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนดแน่นอน ยืนยันทำตามหน้าที่และไม่ได้เป็นการหนีปัญหา หรือ ยกภูเขาออกจากอก แต่ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนไม่ได้กังวลใจ ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างตรงไปตรงมาให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย 

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแส นายคริษฐ์ ปริยะเกตุ หรือ อดีตรองคริษฐ์ ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์และเป็นนายตำรวจคนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ซึ่งถูกสั่งให้ออกราชการไปแล้ว เข้าแจ้งความที่ สน.ปทุมวัน ให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ พร้อมคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง โดย 1 ในนั้นมีตนเองด้วยนั้น พล.ต.อ.สราวุฒิ หัวเราะและบอกว่า "ถือเป็นของขวัญก่อนเกษียณ" การฟ้องร้องก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ ส่วนตัวก็ทำใจไว้แต่แรก ชีวิตข้าราชการตำรวจ ก็ต้องพร้อมรับเสมอ ส่วนในทางคดีก็ต้องต่อสู้ แก้ต่างไปตามกฎหมายต่อไป