ตำรวจ ยืนยันตัวเลข เหตุไฟไหม้รถบัสนักเรียน สูญหาย 25 ราย เผย ยังไม่พบคนขับ
พล.ต.ท.ประจวบ ยืนยันตัวเลข เหตุไฟไหม้รถบัสนักเรียน สูญหาย 25 ราย เผย ยังไม่เจอคนขับ เร่งเช็กรถดัดแปลงได้มาตรฐานหรือไม่ ลั่น! ต้องมีคนรับผิดชอบ
1 ต.ค. 2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์เพลิงไหม้รถบัสนักเรียน พร้อมสั่งการด่วนให้ตำรวจภูธรภาค 1 และ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่กรณีเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัส หมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี วอดทั้งคัน ซึ่งเป็นรถของโรงเรียนวัดเขาพระยา จังหวัดอุทัยธานี ระหว่างมาทัศนศึกษาทั้งหมด 3 คัน
โดยคันเกิดเหตุเป็นคันที่ 2 ขณะมาถึงบริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า ได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น ส่งผลให้มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย เบื้องต้น มีรายงานว่ารถคันดังกล่าว มีเด็กนักเรียนและครูเดินทางมาทั้งหมด 45 คน ขณะเกิดเพลิงไหม้ สามารถออกจากรถได้ 19 คน ซึ่งผู้บาดเจ็บถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแพทย์รังสิต และโรงพยาบาลราชวิถี ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
โดยในพื้นที่ พ.ต.อ. กานตภณ วรรณณา ผกก.สภ.คูคต นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ประสานหน่วยงานและสนับสนุนในการดับเพลิง ตลอดจนอำนวยความสะดวกและดูแลการจราจร โดยมีการปิดถนนวิภาวดีรังสิตคู่ขนานถาวร ทั้งช่องเลนด่วน และเลนปกติ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าทำงานในจุดเกิดเหตุ ขอให้พี่น้องประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว ทั้งนี้จะได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุต่อไป
ล่าสุด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เดินทางลงพื้นที่ด้วยตนเอง เพื่อร่วมตรวจสอบเหตุดังกล่าว และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเป็นการด่วนแล้ว
ด้าน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า มีผู้สูญหาย 25 คนจาก 44 คน ขณะนี้ทุกหน่วยงานกำลังลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบรายละเอียดรวมถึงเก็บรวบรวมพยานหลักฐานถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยตำรวจก็จะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ขบวนรถทัศนศึกษารวม 3 คัน เดินทางกลับจังหวัดอุทัยธานี ว่ารถคันดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุจากสาเหตุ เช่นมีการเฉี่ยวชนกับคันอื่นหรือไม่
เพราะทราบว่ารถคันเกิดเหตุมีแก๊สรั่ว ดังนั้นก็จะต้องมีการตรวจสอบกับกรมการขนส่งทางบก ว่ามีการติดตั้งก่อน หรือมีการดัดแปลงภายหลังและได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งในทางคดีหากมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตตำรวจก็จะต้องดำเนินการกับคนขับ จากนั้นจะต้องตรวจสอบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของผู้ประกอบการรายใด ที่จะต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องความเสียหาย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ และยังไม่พบคนขับรถคันเกิดเหตุ
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ทางนิติเวช รพ.ตำรวจ จะส่งทีมไปร่วมตรวจพิสูจน์กับทางนิติเวช รพ.ธรรมศาสตร์ เนื่องจากอยู่ใกล้พื้นที่เกิดเหตุ พร้อมฝากถึงผู้ประกอบการรถบัสโดยสารให้ตรวจสอบรถที่จะนำไปใช้บริการให้ได้มาตรฐานและอยู่ในเกณฑ์ทีกำหนด เพราะการที่รถโดยสารขนาดใหญ่ที่นำออกมาใช้บริการ มีการให้บริการประชาชนโดยสารจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่เกิดการสูญเสียในภายหลัง