ควรถูกยกเลิกหรือไม่? ตราบาป "ทัศนศึกษา" โศกนาฏกรรม บทเรียน ที่ต้องหาจุดแก้
ทัศนศึกษา ควรถูกยกเลิกหรือไม่ สังคมตั้งคำถามหลังเกิด โศกนาฏกรรม สาเหตุแท้จริงเพราะ เรียนรู้นอกสถานที่ หรือ อุบัติเหตุจากความปลอดภัย
ทัศนศึกษา กระบวนการเรียนการสอน วิธีสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ผ่านการเรียนรู้นอกห้องเรียน กลับกลายเป็นเหตุการณ์สลด โศกนาฏกรรม ที่สร้างความสะเทือนใจให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครองไม่น้อย
เหตุการณ์ ไฟไหม้รถบัสนักเรียน ขณะที่กำลังเดินทางไป ทัศนศึกษา จนทำให้มีทั้งครู และ นักเรียน เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้จุดชนวนให้สังคมได้ตระหนักรู้ และตั้งคำถามว่า "ทัศนศึกษา ควรถูกยกเลิกหรือไม่" เนื่องจากเหตุการณ์นี้ สร้างความไม่สบายใจต่อครอบครัว ผู้ปกครองไม่น้อย
บนโลกออนไลน์ ต่างแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องราวของการออก ทัศนศึกษา โดยมีความคิดเห็นจากผู้คนในสังคม และผู้ปกครอง ที่อยากให้ "ยกเลิกทัศนศึกษา" และ อีกความคิดเหนจากสังคมอีกส่วนหนึ่ง มองว่า ไม่จะเป็นต้องยกเลิกทัศนศึกษา เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นระหว่างทัศนศึกษาจริง แต่สาเหตุไม่ใช่เพราะ "ทัศนศึกษา"
ทำไมต้องยกเลิกทัศนศึกษา
ความคิดเห็นจากโลกออนไลน์ต่อประเด็นนี้ บางส่วนระบุว่า เลิกจัดแถะครับจัดที่โรงเรียนก็พอ, ควรยกเลิกโครงการนี้ไปเลย, ควรยกเลิกทัศนศึกษาเห็นมีเหตุการณ์แบบนี้บ่อยมาก ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง, พอเถอะพอๆ ทัศนศึกษา, ลูกหลานไปทัศนศึกษาทีไร เป็นห่วงมาก เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ควรยกเลิก, อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ต่อให้ตรวจเช็กดีขนาดไหน ยางใหม่ขนาดไหนถ้ามีอะไรมาแทงหรือกระแทกแรงก็เกิดระเบิดได้ เหมือนไม่ใช่แค่ยางเก่าจะระเบิดได้อย่างเดียวนะคะ ควรยกเลิกทัศนศึกษา หรือเดินทางไกลๆ ดีกว่าค่ะ เอางบไปทำอย่างอื่นให้เด็กๆ ดีกว่าค่ะ" ฯลฯ
ด้าน "กันจอมพลัง" ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า "หดหู่มาก มีร่างน้องมาอัดอยู่ตรงทางออกฉุกเฉินแต่ออกมาไม่ได้ ผมว่าเราควรยกเลิกทัศนศึกษาในเด็กอนุบาลหรือเด็กประถมนะครับ วันนี้ทำให้เห็นเลยว่ามันไม่คุ้มเลยกับการเสียน้องๆ ไป" ขณะที่ "แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร" โพสต์แสดงความเห็นว่า "เศร้ารับต้นเดือนเลยเหรอคะ R.I.P การทัศนศึกษานอกพื้นที่แบบเดินทางไกลไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็กจริงๆ ค่ะ"
สิ่งที่ควรแก้ไข ไม่ใช่การยกเลิกทัศนศึกษา
ขณะที่สังคมเกิดการรณรงค์ให้ ยกเลิกทัศนศึกษา ส่วนหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการรณรงค์ให้ยกเลิกทัศนศึกษาของเด็กเล็ก มันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุและทำให้เด็กที่ฐานะทางบ้านไม่พร้อมหรือพ่อแม่ไม่พร้อมพาไปเที่ยว เสียโอกาสหลายอย่าง ยังไงผมก็มองว่าทัศนศึกษามีข้อดีมากกว่าข้อเสีย
สิ่งที่ควรแก้จริง ๆ คือเรื่องของยานพาหนะและคนขับ หลายครั้งอุบัติเหตุ เพราะความไม่พร้อมของรถ บางคันใช้มาร่วม 20-30 ปี เก่าบ้าง เสียบ้าง ไม่ใช่แค่รถทัวร์ แต่รวมถึงรถบัสประจำทางด้วย ยิ่งคนขับยิ่งแล้วใหญ่ ขนาดเปลี่ยนรถใหม่ก็แล้ว แต่เห็นยังทำพฤติกรรมเดิม ๆ ขับรถเร็ว ขับฉวัดเฉวียน ติดประมาทเหมือนเดิม นี่ต่างหากปัญหาจริง ๆ ที่ควรแก้
บางความคิดเห็นระบุว่า "มันไม่ได้อยู่ที่ว่าให้ยกเลิกทักศนศึกษาหรอกครับ มันอยู่ที่สภาพรถและคนขับรถครับ ควรจะแยกแยะปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามันอยู่ที่ตรงไหนนะครับ อย่าลืมว่าทั้งประเทศไม่ได้ไปทัศนศึกษาแค่โรงเรียนนี้โรงเรียนเดียวนะครับ และมันก็ไม่ได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ทุกโรงเรียนที่ไปครับ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทุกโรงเรียนที่ไป แน่นอนครับสมควรต้องยกเลิกครับ มันไปกันทั้งประเทศครับ เข้าใจครับเกิดการสูญเสีย แต่ต้องแยกแยะถึงปัญหาที่เกิดขึ้นครับ"
ยกเลิกทัศนศึกษา แก้ที่ปลายเหตุ
ในประเด็นที่หลายคนถกเถียงกัน เกี่ยวกับเรื่องของการ "ยกเลิกทัศนศึกษา" ทางด้านของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พูดถึงประเด็นนี้ว่า สิ่งที่ต้องดูเป็นอันดับแรกคือ เรื่องของมาตรฐานและความปลอดภัย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะทัศนศึกษา ที่เป็นสาเหตุของ โศกนาฏกรรม ในครั้งนี้ แต่เป็นรื่องของ ความปลอดภัย ของรถ ยานพาหนะ และคุณภาพของผู้ขับขี่มากกว่า
ทางด้านของ นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ อดีตประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า หลักการไปทัศนศึกษา เพราะต้องการสร้างเสริมประสบการณ์ของเด็ก ไม่ได้เน้นให้เด็กไปไหนไกล แต่เน้นให้เด็กได้เรียนรู้ชีวิต สภาพแวดล้อม เสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตให้เด็กเท่านั้น ซึ่งตนมองว่ากรณีที่เกิดขึ้น โรงเรียนไม่ควรจะจัดให้เด็กระดับชั้นอนุบาลไปไกลถึงขั้นข้ามจังหวัด อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน ไม่ควรที่จะเกิดทางไปไหนไกล ควรจะจัดกิจกรรมทัศนศึกษาในช่วงเปิดเทอม ไม่ใช่จัดในช่วงปิดเทอมเช่นนี้ ทั้งนี้ หากจะต้องเดินทางไกลนั้น จะต้องตรวจสอบสภาพรถเพื่อสร้างความมั่นใจ
การจัดทัศนศึกษาของนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ควรไม่ให้เด็กไปไหนอาจจะจัดทัศนศึกษาในจังหวัด หรือจัดกิจกรรมในโรงเรียนเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์เด็ก และการที่จะไปทัศนศึกษานั้น จะต้องขอดูสภาพรถ และเมื่อขึ้นรถแล้วต้องมีการเตรียมแผนรับมือหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับนักเรียน หากมีแผนรับมือที่ดี โอกาสที่จะเกิดเหตุสลดอาจจะน้อยลง
“ดังนั้น ในความเห็นของผม ไม่ควรที่จะยกเลิก แต่ไม่ควรจัดให้เด็กไปไกล เช่น หากเป็นเด็กเล็ก การเดินทางด้วยรถไม่ควรเกินครึ่งชั่วโมง ทั้งนี้มองว่าการรักษาความปลอดภัย แผนรับมือต่างๆ ของเรายังไม่ใส่ใจมากเท่าที่ควร เมื่อเกิดเรื่องก็วัวหายล้อมคอก มองว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ควรจะกำหนดว่าการไปทัศนศึกษาต้องทำอย่างไรบ้าง เช่น ต้องคำนึงถึงวัยของเด็ก เป็นต้น” นายเอกชัยกล่าว