เปิดคำสารภาพ คนขับรถ หลบหนีไปอ่างทอง หลังเกิดเหตุสลด แจ้ง 2 ข้อหาหนัก
เปิดคำสารภาพ คนขับรถ หลบหนีไปบ้านภรรยา จ.อ่างทอง หลังเกิดเหตุสลด ไฟไหม้รถบัสนักเรียน ขณะที่ ตำรวจ แจ้ง 2 ข้อหาหนัก
จากเหตุโศกนาฏกรรม ไฟไหม้รถบัสนักเรียน โดยเหตุเกิดช่วงบ่ายวานนี้ (1 ต.ค. 2567) หลังจากเกิดเหตุ นายสมาน คนขับรถ ได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านญาติในพื้นที่ ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ชุดสิบสวนภาค 1 กดดันอย่างหนักจนทำให้ตัดสินใจเข้ามอบตัว และยังคงเป็นประเด็นสงสัยถึงสาเหตุที่คนขับต้องหลบหนีภายหลังเกิดเหตุ โดยมีรายงานว่าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีและผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้เดินทางมาสอบปากคำด้วยตัวเอง
ด้าน พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 กล่าวว่าหลังจากเกิดเหตุทางด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดปทุมธานีเร่งติดตามตัวผู้ขับขี่ นายสมาน มาดำเนินคดีซึ่งได้ติดตามไปพบที่บ้านภรรยา จ.อ่างทอง ซึ่งทางผู้ต้องหาได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเศษชัยชาญ เพื่อที่จะขอมอบตัว และนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.คูคต เบื้องต้นมีอยู่หลายข้อหา
- ขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
- ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล แล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ไม่แสดงตัวและไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43(4) , 78 , 157 160 วรรค 2 นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะสอบสวนผู้ต้องหาเกี่ยวกับข้อหาที่แจ้งไปทั้งหมด ส่วนเจ้าของรถนั้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาตรวจสภาพรถอีกครั้งและจะพิจารณาข้อหาอีกครั้ง
โดย นายสมาน คนขับรถบอกว่า ตนเองขับรถมาคันที่ 2 ประมาณ 70-80 กิโลเมตรต่อชม. เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถเสียหลักคล้ายตกหลุมยางระเบิดหรือถุงลมแตกและล้อหน้าเกิดดึงจนทำให้ไปเฉี่ยวชนกับรถเบนซ์ จากนั้นตัวรถจะครูดไปกับแท่งแบริเออร์ ส่วนหลังจากเกิดเหตุที่หนีไปนั้น ทางด้านผู้ต้องหาให้การว่าหลังเกิดเหตุแล้วก็ไปเอาถังดับเพลิงมาช่วยฉีด จากนั้นก็ตกใจและหนีไปบ้านญาติ ส่วนข้อกล่าวหาหลบหนีนั้นก็แจ้งไปแล้ว ส่วนรถบัสนั้นก็จะให้เจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง ในส่วนคนเจ็บสาหัสอยู่ 2 ราย และอีก 1 รายก็ยังรักษาตัวอยู่
ขณะที่ตัวแทนบริษัทพาผู้ประกอบการเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนกรณีรถโดยสารรับส่งนักเรียนทัศนศึกษาเกิดเหตุเพลิงไหม้ เดินทางมาที่ สภ.คูคต ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมได้พาผู้ประกอบการมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงถึงการใช้รถแล้ว ทางผู้ประกอบการพร้อมเยียวยา ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ยืนยันรถผ่านการตรวจสภาพ ดัดแปลงติดตั้งระบบแก๊ซการผ่านตรวจสอบทางวิศกรรมรถยนต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกอย่างถูกต้อง
ส่วนประเด็นในเรื่องของประตูฉุกเฉินรถโดยสารที่ไม่ได้พบว่ามีการเปิดในขณะเกิดเหตุ การตัวแทนของบริษัทยืนยันว่าสามารถเปิดออกได้ แต่ประตูค่อนข้างมีน้ำหนักมากพอสมควร ทำให้ครูกับนักเรียน อาจจะใช้แรงไม่เพียงพอในการเปิดประตูฉุกเฉิน
สำหรับข้อมูลจาก กรมขนส่ง พบว่ารถคันดังกล่าว โดยจดทะเบียนครั้งแรกแจ้งการใช้รถตั้งแต่ปี 2513 และจดแจ้งในการติดตั้งระบบแก๊ส ปี 2561 และมีการดัดแปลงเครื่องยนต์รถ (เครื่อง BENZ) ใช้มาจนถึงปัจจุบัน ได้ต่อภาษีครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2567 ที่ผ่านมา
ส่วนการการเยียวยาเบื้องต้น นอกเหนือจากการเยียวยาของบริษัท ทางบริษัทประกันรถยนต์ทจะ จ่ายเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต คนละ 500,000 บาท (ของ บ.วิริยะ), ประกันกลุ่ม คนละ 80,000 จ่ายให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต อละประกันประเภท 3 ภาคสมัครใจของบริษัทประกันภัย (ทุนประกัน 10 ล้าน) จ่ายให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต คนละ 500,000 บาท ส่วนค่ารักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ ควบ 2 บริษัทที่ทางบริษัททำประกันเอาไว้ จะมีเงินช่วยเหลือเยียวยาจำนวน 130,000 บาทให้เบื้องต้น