สาวทอม ยังให้การวกวน อ้างมีคนสั่ง ตำรวจพบประวัติเคยรักษาอาการทางจิต
ผกก.สน.ห้วยขวาง เผย ยังไม่แจ้งข้อหาสาวทอม เพราะให้การวกวน อ้างมีคนสั่งขับรถออกไป เตรียมส่งแพทย์ประเมินอาการทางจิต เข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีแจ้ง 2 ข้อหา
จากกรณีเกิดเหตุสาวทอมขโมยรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น HRV สีดำ ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรัชดา โดยคนร้ายขับรถไล่ชนรั้วเหล็ก และสิ่งกีดขวางอื่นๆ
ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับพนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างดังกล่าว เล่าว่า เหตุเกิดขึ้นประมาณ 14.00 น. ตอนนั้นตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือว่า รถยนต์ถูกขโมย ตนพยายามเอารั้วเหล็กมาขวางกั้น ซึ่งคนร้ายพยายามจะวนรถไปออกอีกทาง แต่ก็ไม่สามารถไปได้ จึงขับรถฝ่าหลบหนีออกไป ทำให้รั้วเหล็กพังเสียหายและกันชนหน้ารถยนต์ของผู้เสียหายพังหลุดออกมา
หลังตามล่ากันนานกว่า 8 ชั่วโมง ตำรวจสามารถไปจับกลุ่มคนร้ายได้ที่ซอยนาคนิวาส 16 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ทราบชื่อต่อมา น.ส.ณัฐกัญญ์ อายุ 39 ปี ส่วนน้องแมวมอร์ตี้ก็พบว่าหลบอยู่ใต้เบาะรถไม่ได้หายไปไหน ซึ่งทันทีที่นำน้องมอร์ตี้กลับมาคืนให้กับผู้เสียหายนั้น ก็มีสีหน้าดีใจอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับบอกสั้น ๆ ว่า "ดีใจมาก"
ขณะที่ตำรวจชุดจับกุมให้ข้อมูลว่า คนร้ายเคยมีประวัติรับการรักษาอาการป่วยจิตเวชที่ จ.ขอนแก่น และขาดการรักษามานานกว่า 1 ปี ซึ่งผู้ก่อเหตุหนีออกมาจากบ้านย่านธัญบุรีมาแล้ว 3 วัน ก่อนจะมาก่อเหตุขโมยรถในครั้งนี้ อ้างว่าได้รับการติดต่อจากพี่สาวเจ้าของรถให้นำรถกลับไป ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำและพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เข้าประชุมติดตามความคืบหน้าคดีกับชุดทำงาน พร้อมกล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากได้รับแจ้งข้อมูลจากพลเมืองดีว่า พบรถต้องสงสัยจอดอยู่ที่บริเวณลานจอดรถของอพาร์ทเมนแห่งหนึ่งในซอยนาคนิวาส 16 ในชั้นจับกุมผู้ต้องหายังให้การวกวน ไม่สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ในขั้นต้น ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ อ้างว่ามีคนสั่งให้มาขับรถออกไป
เบื้องต้นทางฝ่ายสืบสวนมีข้อมูลจากญาติผู้ก่อเหตุทราบว่า เคยได้รับการรักษาอาการทางจิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น มาประมาณ 2-3 ปี หลังเริ่มมีอาการผิดปกติ มักพูดคนเดียวและมีอาการคล้ายองค์ลง มักมีอาการมากขึ้นเมื่อถูกขัดใจ โดยทางเจ้าหน้าที่ให้ญาติส่งหลักฐานมาให้ดู ซึ่งทางญาติก็ได้ส่งซองยารักษามา
โดยในวันพรุ่งนี้ ตำรวจได้ประสานขอข้อมูลประวัติการรักษาที่ชัดเจนอื่นๆ มาให้เพิ่มเติม ทำให้ขณะนี้ทางตำรวจยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ ซึ่งอำนาจการควบคุมของตำรวจ 48 ชั่วโมง จะตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเฉพาะอาการป่วย หากไม่มั่นใจตำรวจสามารถดำเนินการส่งผู้ต้องหาให้แพทย์ประเมินอาการทางจิต หากยังเห็นว่า สภาวะทางจิตสามารถต่อสู้คดีได้ ก็จะส่งตัวดำเนินคดีต่อ แต่หากไม่สามารถควบคุมได้ ก็จะต้องส่งไปรักษาก่อน โดยจะต้องรอให้แพทย์ประเมินสถาวะทางจิต เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิตเวชจริงหรือไม่ เพื่อนำมาใช้พิจารณาแนวทางการดำเนินคดีทางกฎหมาย
แต่หากผู้ก่อเหตุสามารถกลับมาให้การได้ตามปกติ พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหา คือ ลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งนอกจากรถคันดังกล่าวแล้วยังพบว่า ระหว่างเกิดเหตุมีผู้เสียหายอื่นๆ เริ่มจากทรัพย์สินของห้างสรรพสินค้าอย่างไม้กั้นและแผงกั้น , เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้างที่พยายามเข้าไประงับเหตุจนทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ฝ่ามือ , รถของพลเมืองดีที่พยายามเข้าไปสกัดกั้นไม่ให้ผู้ก่อเหตุหลบหนี ก็ได้รับความเสียหายมีร่องรอยถูกเฉี่ยวชน
ขณะเดียวกันยังมีตำรวจสังกัดกองบังคับการปราบปราม อีก 1 นาย ที่ได้พยายามขับรถติดตามและแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ก่อเหตุภายในปั้มแห่งหนึ่งในซอยมัยลาภ แต่ผู้ก่อเหตุขัดขืน จึงทำให้ตำรวจคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ
พ.ต.อ.ประสพโชค ระบุอีกว่า ปัจจุบันมีการสอบปากคำพยานไปแล้ว 5 ปาก คือ เจ้าของรถ แฟนเจ้าของรถ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของห้างสรรพสินค้า ในวันนี้นัดหมายให้พยานอีก 1 คน และ มารดาของผู้ก่อเหตุให้ปากคำเพิ่มเติมในช่วงเช้า
สำหรับไทม์ไลน์จากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์
10.21 น. เดินมาจาก ถ.รัชดา เข้าบิ๊กซีรัชดา เข้าไปเปลี่ยนรองเท้าจากแตะสีขาวเป็นคัชชู
10.56 น. เดินออกจากบิ๊กซี มุ่งหน้าเดอะสตรีท
11.00 น. เดินเข้าลานจอดรถเดอะสตรีท อยู่ในเดอะสตรีทประมาณ 2-3 ชม.
14.03 น. ก่อเหตุลักรถยนต์
14.09 น. ออกจากห้างเดอะสตรีท
14.10 น. ลงอุโมงค์ข้ามแยกห้วยขวาง
14.12 น. ขับรถผ่านรัชดา 17
14.17 น. ขึ้นสะพานรัชวิภา