หนุ่มเปิดปาก เจอรุ่นน้องหักหลัง เปลี่ยนสถานะจากทีมอุ้ม เป็นฝ่ายถูกล่าสังหาร
มือชี้เป้า เปิดปาก เจอรุ่นน้องหักหลัง เปลี่ยนสถานะจากทีมอุ้ม เป็นฝ่ายถูกล่าสังหาร ด้าน ผู้การฯ ปากน้ำ เผย ขัดแย้งเรื่องยาเสพติด จ่อหมายจับ "นายโชค" มือรัวถล่ม
จากกรณีแก๊งคนร้าย รัวถล่มรถเก๋งคัมรี่ 30 นัด บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ถนนสายศรีวารีน้อย หลักกิโลเมตรที่ 10 ทิศทางมุ่งหน้าลาดกระบัง 54 ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เป็นเหตุให้ นายประพจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี คนขับรถเก๋ง เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย โดยตำรวจตั้งประเด็นขัดแย้งธุรกิจผิดกฎหมาย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
3 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายฟิน หนึ่งในผู้ที่นั่งโดยสารมาในรถคัมรี่ เล่าวินาทีรอดตายมาได้ ว่า ตนเองนั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ หลังจากรถถูกยิงยางจนไปต่อไม่ได้ และถูกอีกฝ่ายตามประกบ พอมือปืนลงมาจากรถ ซึ่งมีทั้งปืนยาวและปืนสั้น ได้เปิดฉากกระหน่ำยิงอีกหลายนัด
ตนเองตัดสินใจแกล้งตาย ทำให้มือปืนใช้ด้ามปืนยาวทุบกระจกฝั่งซ้ายจนแตก แล้วใช้ด้ามปืนตบที่หน้าตนเอง เพื่อดูว่าตายหรือยัง ซึ่งตนเองได้แต่ทำนิ่งๆ จนพวกนั้นพูดออกมาว่าตายหมดทั้งคันแล้ว ก่อนจะพากันแยกย้ายหลบหนี
ด้านนายคิว ยอมรับว่า ทราบดีว่ามีการว่าจ้างให้มาทำงานนี้ โดยมีการว่าจ้างทีมของตนเอง ในราคา 3 หมื่นบาท เพื่อให้ตามหาและชี้เป้านายโชค หรือฉายากำนันโชค ซึ่งตนเองรับงานเมื่อช่วง 17.00 น. หลังจากที่ได้รูปนายโชคมา ตนเองไม่รู้จักกับนายโชค และไม่เคยเห็นหน้า ทราบเพียงว่าอยู่ไม่ไกลจากซอยวัดศรีวารีน้อย จึงลองติดต่อรุ่นน้องที่รู้จักกันในพื้นที่ แล้วส่งรูปนายโชคให้รุ่นน้องดู
จนกระทั่งมีการนัดหมายให้มาเจอกันที่ตลาดศรีวารี พอมาถึงก็ถูกรุ่นน้องที่ขี่รถจักรยานยนต์มากับเพื่อนอีกคันบอกว่าจะนำทางไปหาเป้าหมาย ด้วยความไว้ใจและไม่คิดว่าจะถูกรุ่นน้องคนนี้หักหลัง จึงพากันตามรุ่นน้องคนนี้ไปในซอยเปลี่ยว
จนเข้าไปเจอกลุ่มของนายโชค ดักรออยู่ก่อนแล้ว พอเจอรถอีกฝ่าย ยังไม่ทันจอด ก็ถูกเปิดฉากยิงใส่ จนต้องพากันหนีตายอกมา แล้วถูกตามไล่ยิงมาตลอดทางด้วยปืนหลายกระบอก ส่วนที่ตนเองรอดตายมาได้หลายครั้ง มีความเชื่อเพราะแขวนพระท้าวเวสสุวรรณของวัดจุฬามณี
ด้าน พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า เรื่องนี้มีกลุ่มความขัดแย้ง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่ถูกจ้างให้มาชี้เป้าและมาอุ้ม ซึ่งทีมชี้เป้า ขับรถยนต์ โตโยต้าคัมรี่ สีขาว มาด้วยกันจำนวน 5 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 1 คน และคนขับชื่อ นายประพจน์ (สงวนนามสกุล) ถูกยิงเสียชีวิต
ส่วนทีมอุ้มโดยสารมากับรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่น สเปซวากอน สีเทา มี 4 คน ถูกยิงบาดเจ็บ 2 คน ส่วนอีก 2 คนหลบหนีไป รวมถึงคนขับขี่รถจักรยานยนต์ นำทางอีก 2 คน สรุปทีมชี้เป้าและอุ้ม รวมทั้งหมดคือ 11 คน
ฝั่งคนร้ายทีมที่จะเป็นผู้ถูกอุ้ม ได้พลิกกลับเป็นทีมล่าสังหาร มีด้วยกันรวม 5 คน ใช้รถยนต์ก่อเหตุจำนวน 3 คัน สีขาว 2 คัน สีแดง 1 คัน ใช้อาวุธปืนยาว 1 กระบอก ปืนสั้น 3 กระบอก เบื้องต้น จากพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมมาได้ทั้งภาพกล้องวงจรปิดและหลักฐานอื่นๆ วันนี้จะออกหมายจับ 2 คน คนแรกเป็นหัวหน้าทีมมือปืนชื่อ "นายโชค" อายุประมาณ 27-30 ปี อีกราย เป็นคนขี่รถ จยย. พาไปยิง
ส่วนปมปัญหาเกิดจากความขัดแย้งเรื่องยาเสพติด ซึ่งเดิมนายโชค ต้องเป็นเป้าหมายที่จะต้องถูกอุ้ม แต่หนึ่งในทีมชี้เป้า รู้จักนายโชค จึงแจ้งเรื่องให้รู้ กระทั่งมีการซ้อนแผน แล้วล่อทีมชี้เป้าและอุ้ม เข้ามาในซอย อบต.ศีรษะจรเข้น้อย ซึ่งเป็นซอยเปลี่ยวและลงมือเปิดฉากยิงเข้าใส่ โดยที่ยังไม่มีการพูดคุย จนเกิดการสูญเสียดังกล่าว
โดยทั้งสองกลุ่มเป็นคนที่อยู่นอกพื้นที่ จ.สมุทรปราการ แต่นัดหมายกันมาก่อเหตุในพื้นที่อาจเพราะจุดนั้นเป็นพื้นที่ลับตา และหลังจากรวบตัว 2 คนนี้ได้ ผู้ก่อเหตุรายอื่นๆ ก็ต้องถูกดำเนินการต่อไปอย่างไม่ละเว้น