หลานยายเกียน อโหสิกรรม กฟภ. เผยไม่ส่งร่างผ่าชันสูตร แม้ตร.พร้อมรับทำคดี
หลานยายเกียนผู้ป่วยติดเตียงถูกตัดไฟบ้าน อโหสิกรรม กฟภ. หวังเป็นบทเรียน เผยไม่อยากส่งร่างผ่าชันสูตร แม้ตร.พร้อมรับทำคดี
จากกรณีพนักงานไฟฟ้าของบริษัทเอกชน รับหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.วังยาง จ.นครพนม (กฟภ.อ.วังยาง) ไปตัดกระแสไฟบ้านของนางเกียน ลี้พล อายุ 68 ปี กลุ่มเปราะบาง ชาวบ้านนาขาม ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม ทั้งที่ผู้ป่วยต้องใช้เครื่องผลิตออกซิเจนและเตียงลม ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ทำให้มีไฟฟ้าดับประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ จนกระทั่งนางเกียนอาการทรุดต่อเนื่อง และเสียชีวิตในคืนวันเดียวกัน
ต่อมา กฟภ. จะออกมายืนยันว่า การเสียชีวิตนางเกียน ไม่เข้าหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยา เนื่องจากไม่ได้เสียชีวิตทันที แต่ญาติยังค้างคาใจ เชื่อว่าการตัดกระแสไฟเป็นต้นตอการเสียชีวิต
ล่าสุด 4 ต.ค. 2567 พ.ต.อ.จิรุฏฐ์ พิมพา ผกก.สภ.วังยาง จ.นครพนม มอบหมายให้ พ.ต.ท.ยงยุทธ ผิวพรรณ์ รอง ผกก.สอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้กำลังใจญาติและร่วมไว้อาลัยศพนางเกียน
พ.ต.ท.ยงยุทธ กล่าวว่า ทางตำรวจพร้อมให้การช่วยเหลือรับเป็นคดีอาญา หากญาติมีความประสงค์จะต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่ต้องทำตามขั้นตอน และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการดำเนินคดี จะต้องมีการส่งศพผู้ตายไปผ่าพิสูจน์ หาสาเหตุยืนยันการเสียชีวิต เพื่อประกอบการดำเนินคดี ทั้งอาญาและแพ่ง พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนการประกอบพิธีฌาปนกิจศพจะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้
ด้านน.ส.หมิ๋ว อายุ 44 ปี หลานสาวผู้ตาย ยอมรับว่าคาใจการเสียชีวิต อดคิดไม่ได้ว่าการตัดไฟฟ้า เป็นต้นเหตุให้ยายเกียนเสียชีวิต เพราะเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกัน และติดใจพนักงานตัดไฟมากที่สุด ทั้งที่มีญาติบอกแล้วว่า มีคนป่วยติดเตียงนอนอยู่ในบ้าน แต่ได้คำตอบกลับว่าทำตามหน้าที่ แต่หลังจากเกิดเรื่องพนักงานคนเดิมกลับอ้างไม่รู้ว่ามีคนป่วยติดเตียง
รวมถึงมองว่า การแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ บางครั้งหากจำเป็นเร่งด่วน คงไม่ต้องรอเป็นเอกสารเกี่ยวกับฐานข้อมูลคนป่วย หรือไปยื่นข้อมูลลงระบบ อ้างข้างๆคูๆว่าทำตามหน้าที่ สุดท้ายพอเกิดปัญหาก็บอกไม่มีฐานข้อมูล
น.ส.หมิ๋ว กล่าวต่อว่า ไม่ต้องการเรียกร้องค่าเสียหาย หรือเงินชดเชยเยียวยา ขออโหสิกรรมให้แก่คนทั้งการไฟฟ้าและไม่อยากส่งศพไปผ่าชันสูตร ขอให้เป็นบทเรียนกับหน่วยงานการไฟฟ้าฯ มั่นใจว่าการตายของยายเกียน จะเกิดประโยชน์กับสังคม ส่วนการดูแลขึ้นอยู่กับการแสดงออกถึงจิตสามัญสำนึกความรับผิดชอบขององค์กร ถ้าไม่เป็นญาติตนเองก็ไม่รับรู้ถึงความสูญเสีย
