จัดแท่นดอกไม้สวยงาม ไว้อาลัยครูจอย ครูในดวงใจของเด็กๆ จากเหตุโศกนาฏกรรม | คมชัดลึก

4 ต.ค. 2567 จากโศกนาฏกรรม ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เป็นเหตุให้มีนักเรียนและครูในรถเสียชีวิต 23 ราย และ บาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนวิภาวดีรังสิต ตรงข้ามพหลโยธิน 72 บริเวณอนุสรณ์สถาน เข้าเข้า กทม. ท้องที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 1 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา

 

โดยเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2567  แพทย์ได้ชันสูตรและพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเสร็จสิ้นแล้ว และเคลื่อนร่างกลับสู่ภูมิลำเนา จ.อุทัยธานี โดยร่างทั้งหมด ตั้งบำเพ็ญกุศล ที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก

ล่าสุด เวลา 13.00 น. วันนี้  นางสาวสุมิตา หรือแป้ง อายุ 27 ปี ผู้ปกครองของนักเรียน ชั้น ป.2 ซึ่งมาช่วยงานเป็นจิตอาสามา ช่วยงานตั้งแต่วันแรก เปิดเผยว่า ลูกของตัวเองเรียนอยู่ที่นี่รวมถึงหลานอีก 5 คน โดยลูกของตัวเองได้กลับมาถามว่า แม่จะให้หนูไปทัศนศึกษาที่ทางโรงเรียนจัดหรือเปล่า เลยบอกลูกสาวไปว่า ถ้าอยากไปจะเซ็นอนุญาตไปให้ แต่พอมาอีกวันหนึ่งลูกก็มาบอกว่าไม่อยากไปแล้วมันไกลบ้านเราจังเลย และคงไม่สนุกต้องนั่งรถบัสไปไกล ตนก็ตามใจลูกจึงไม่ได้ไปกับเพื่อนและหากไปแล้วลูกนั่งรถคันที่เกิดอุบัติเหตุก็คงเสียใจไปตลอดชีวิต คงเสียลูกไปอย่างแน่นอน

 

ทั้งนี้ นางสาวพิมพ์ทอง สมบัติ หรือ ครูจอย สอนชั้น ป.3 ครูโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม หนึ่งในครูผู้เสียชีวิต เป็นครูที่อัธยาศัยดีมาก เด็กรักทุกคน ตอนนี้ห้องเรียนของครูจอยจะเห็นว่าบรรดาเพื่อนที่เป็นช่างทำดอกไม้และผู้ที่อยากมาร่วมไว้อาลัย ได้จัดแท่นวางดอกไม้ที่คล้ายจะวางโลงศพไว้ และประดับประดาดอกไม้ ของตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เพียงห้องเดียวที่มีการประดับแบบนี้ขึ้นมา เพราะว่าครูจอยนั้นเป็นที่รักของเด็กนักเรียนมาก

ถึงแม้ว่าลูกของตัวเอง ยังไม่ได้เรียนกับครูจอยก็จริง แต่เพื่อนด้วยกันที่มีลูกและเรียนอยู่ห้องครูจอยนั้น ต่างเล่าว่าเป็นครูที่ตั้งใจสอนเด็กมากและเป็นครูที่ใจดีมาก ในห้องเรียนแห่งนี้ทำให้นึกถึงครูจอยอย่างมาก เพิ่งได้รับรางวัล เพิ่งได้รับรางวัลระดับเหรียญเงินการคัดเลือกผลงานวิธีปฏิบัติที่ดี (Best practice) ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองศีลธรรม และประชาธิปไตยของสถานศึกษาและครูผู้สอน ระดับเขตพื้นที่การศึกษาประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ระดับเขตพื้นที่การศึกษาด้วย เสียดายมากที่ครูจอยมาด่วนเสียชีวิตไปแบบนี้

 

นางสาวสุมิตา บอกว่าถึงแม่ลูกของตัวเองนั้นจะไม่ได้ไปทัศนศึกษาด้วยและปลอดภัยเพราะลูกไม่อยากจะไป แต่ก็มาช่วยงานตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ด้วยความเต็มใจโดยมากับผู้เป็นแม่ ซึ่งชาวบ้านละแวกโรงเรียนแห่งนี้ ต่างก็มาช่วยกันทุกบ้าน เพราะโรงเรียนแห่งนี้มีลูกหลานของคนในหมู่บ้านเดียวกัน

 

และขอว่าในเรื่องการเสนอความคิดเห็นในโลกโซเชียลในเรื่องต่างๆขอให้หยุดกันบ้าง ขอให้เห็นใจพ่อและแม่ของนักเรียนที่สูญเสียลูกไป รวมถึงญาติของครูอีก 3 คน ต่างคนก็ทุ่มเททั้งแรงทั้งพลังทุนทรัพย์เพื่อช่วยเหลืองานในครั้งนี้ให้ดีที่สุด เพื่อเป็นการไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณทั้ง 23 คน สู่สวรรค์เป็นครั้งสุดท้าย และนับว่าเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่และยากที่จะลืมลงกันทุกคน รวมถึงคนทั่วประเทศและหากมีการจัดไปทัศนศึกษาอีกขอให้เพิ่มความปลอดภัยของนักเรียนเป็นหลักอีกด้วย