ระทึก! ก๊าซรั่วไหล ขณะตรวจสภาพรถบัส คันแรก ในขบวนทัศนศึกษา
ระทึก! ก๊าซรั่วไหล ส่งกลิ่นเหม็น ขณะตรวจสภาพรถบัส คันแรก ในขบวนทัศนศึกษา ทั้ง 5 คัน ติดตั้งถังก๊าซ เกินอนุญาต พ่นสีทับ "ห้ามใช้"
4 ต.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ขนส่งสิงห์บุรี ได้ประสานให้ผู้ประกอบการ นำรถบัสทั้ง 5 คัน เข้าตรวจสภาพอีกครั้งที่สำนักงานขนส่งสิงห์บุรี จนประทั่งเวลา 12.30 น. รถบัสในชื่อครอบครองของ นายจิรภัทร (สงวนนามสกุล) ได้เดินทางมาถึง สำนักงานขนส่งสิงห์บุรี ช่างได้ทำการตรวจสภาพพบว่า รถบัสคันดังกล่าวได้ติดตั้งถังก๊าซ จำนวน 11 ถัง แบ่งเป็น บริเวณด้านหน้า 4 ถัง ช่วงกลางรถ 1 ถัง และช่วงท้าย 6 ถัง
ต่อมาเวลา 14.06 น. รถบัสทะเบียน 30-0357 สิงห์บุรี ซึ่งเป็นรถคันแรกในขบวนวันเกิดเหตุ มีชื่อผู้ถือครองคือ นางสาวกนิษฐา (สงวนนามสกุล) ซึ่งรถคันดังกล่าว มีการติดถังก๊าซ จำนวน 11 ถัง ด้านหน้า 3 ถัง ช่วงกลางรถ 3 ถัง และช่วงท้ายรถ 5 ถัง
จากการตรวจสอบพบว่า ถังก๊าซบางส่วน มีการเชื่อมต่อกับวาล์วตามปกติ แต่ก็มีถังก๊าซอีกส่วนหนึ่ง ถูกถอดออกจากท่อส่งก๊าซภายในรถ ลักษณะคล้ายกับพยายามถอดถังก๊าซส่วนที่เกิดออก แต่เจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบได้เสียก่อน
นอกจากนี้ระหว่างการตรวจสอบ พบว่ามีเสียงแก๊สไหลออกมาจากถัง จึงได้ให้คนขับรถเข้าไปดู พบว่าเป็นการปิดวาล์วแก๊สไม่สนิท ทำให้มีแก๊สรั่วไหล และส่งกลิ่นเหม็น
เวลา 14.58 น. รถบัสทะเบียน 30-0427 สิงห์บุรี ชื่อผู้ถือครอง คือ นายทรงวิทย์ เดินทางมาถึง สนง.ขนส่ง พบว่า มีการติดตั้งถังก๊าซ จำนวน 11 ถัง
เวลา 15.43 น. รถบัสทะเบียน 30-0438 สิงห์บุรี ชื่อผู้ถือครองคือ นายณัฐพล ซึ่งรถดังกล่าวนั้นเป็นรถคันที่ 3 ของขบวน ในวันเกิดเหตุ จากการตรวจสอบพบมีถังก๊าซ ยังคงติดตั้งอยู่ภายในรถ 9 ถัง ประกอบด้วย ช่วงหน้ารถ 2 ถัง ช่วงกลางรถ 1 ถัง และช่วงท้ายรถ 6 ถัง นอกจากนี้ยังพบว่า มีร่องรอยการถอด ถังก๊าซออกไปอีก จำนวน 2 ถังประกอบไปด้วยด้านหน้า 1 ถัง และช่วงกลาง 1 ถัง
คันสุดท้าย เป็นรถบัสทะเบียน 30-0411 สิงห์บุรี มีชื่อผู้ปกครองคือ นางสาวปาณิสรา จากการตรวจสอบ พบมีถังก๊าซที่อยู่บริเวณท้ายรถ จำนวน 5 ถัง และมีร่องรอยการถูกถอดถังก๊าซออกไป ตรงช่วงกลางรถอีก 2 ถัง
สำหรับการตรวจสอบในครั้งนี้ ได้ใช้ช่างชุดใหม่ ของสำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี โดยจะมีการตรวจสอบในส่วนของถังแก๊สทั้งหมด รวมไปถึงสภาพและวันหมดอายุ นอกจากนี้ก็จะมีการตรวจสอบในเรื่องของประตูฉุกเฉิน ที่เคาะกระจก รวมไปถึงถังดับเพลิงที่อยู่ภายในรถด้วย
โดยรถบัสทั้งหมดเมื่อผ่านการตรวจสอบจะถูกพ่นทับ ด้วยสีแดง ที่บริเวณหน้ารถ มีข้อความว่า "ห้ามใช้" คำสั่งผู้ตรวจการ กรมขนส่งทางบกกระทรวงคมนาคม
กรมขนส่งทางบก ให้ข้อมูลว่า การพ่นทับด้วยสีสเปรย์ว่าห้ามใช้ ไม่ได้เป็นการยึดรถ แต่อย่างใด เนื่องจากกรมขนส่งทางบกไม่มีอำนาจในการยึดรถ แต่การพ่นสีสเปรย์ เพื่อให้รู้ว่าไม่สามารถนำรถ ดังกล่าวไปใช้งานได้จนกว่าจะมีการปรับปรุงให้ลดเป็นไปตาม ระเบียบของกรมขนส่ง เมื่อผู้ประกอบการ ปรับปรุงให้รถเป็นไปตามระเบียบขนส่ง ก็สามารถนำรถดังกล่าว มาตรวจสภาพใหม่อีกครั้ง หากเป็นไปตามระเบียบ จึงจะสามารถลบข้อความสีแดงที่อยู่บริเวณหน้ารถออกไปได้
ส่วนกรณีรถของ นางสาวปาณิสรา ขนส่งทางบก ได้ยึดใบประกอบการ เรียบร้อยแล้ว ทำให้รถบัสที่ นางสาวปาณิสรา ถือครอง จะไม่สามารถใช้งาน หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลง หรือเข้าตรวจสภาพใหม่ได้ เจ้าตัวจึงแจ้งความประสงค์ว่าจะขอให้จอดรถบัสดังกล่าว ไว้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี