ไม่รอด! รวบอดีตนักฟุตบอล ผันตัวบุกชิงทองห้างดัง ลั่นทำไปเพราะหน้ามืด
ไม่รอด! รวบอดีตนักฟุตบอล ผันตัวบุกชิงทองห้างดัง ลั่นทำไปเพราะหน้ามืด เปิดปากสารภาพเงินที่ขายทอง นำไปใช้หนี้หมดแล้ว
4 ต.ค. 2567 เมื่อเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้นำ นายธีรยุทธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร มาชี้จุดก่อเหตุ ที่บริเวณร้านทองชื่อดัง ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังจากเมื่อช่วงเย็น วันที่ 30 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา นายธีรยุทธ์ ได้ก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น รวมน้ำหนัก 4 บาท มูลค่ากว่า 200,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ไปขึ้นขี่รถจักรยานยนต์ที่เตรียมไว้หลบหนี
วันนี้ ( 4 ต.ค. 2567 ) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ติดตามจับกุมตัว นายธีรยุทธ์ ได้ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกู๊ปปีไอ สีขาว ที่นายธีรยุทธ์ ได้ไปขโมยมา ส่วนรถคันที่ใช้ในการก่อเหตุ ทราบว่าได้ถูกนำไปทิ้งลงน้ำแล้ว และตั๋วรับจำนำ 2 ใบ ที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มา
โดยที่มี พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อม พ.ต.ท.ไมตรี บูรณทอง รอง.ผกก.ปป.สภ.เมืองสมุทรปราการ ควบคุมการนำชี้จุดที่ก่อเหตุของผู้ต้องหา โดยที่ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนขยายผมเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่าไม่น่าจะก่อเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยที่ นายธีรยุทธ์ ได้ไหว้ขอโทษพนักงานประจำร้านขายทองดังกล่าว ที่ทำให้เดือดร้อน
พล.ต.ต.วิชิต เผยว่า คดีวิ่งราวร้านค้าทองของ สภ.เมืองสมุทรปราการ ปิดคดีได้แล้วและจับผู้ต้องหาได้เรียบร้อยแล้ว ผู้ต้องหารับสารภาพว่าสาเหตุที่ทำเพราะ , ติดพนันออนไลน์ , ผู้ต้องหาไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดนี้ อาศัยอยู่แถวกรุงเทพกรีฑา กทม. โดยตระเวนลักรถจักรยานยนต์ก่อน และไปตามห้างต่างๆ ถ้าร้านค้าทองร้านไหนไม่มีลูกกรง ก็จะทำการก่อเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาเคยมาเล่นฟุตบอลที่ จ.สมุทรปราการ
จยย. ที่ใช้ก่อเหตุก็ลักมาจาก จ. ปทุมธานี แล้วก็ขับจักรยานยนต์มาที่นี่ เพื่อทำการก่อเหตุที่ร้านทองดังกล่าว ก่อนจะขับรถหลบหนีไปถึงจังหวัดนครปฐม หลังจากนั้นก็นำรถจักยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งน้ำ แต่เจ้าหน้าที่นำขึ้นมาได้แล้ว ส่วนทองที่ได้ไป เขาเอาไปจำนำได้เงินมา 70,000 บาท และใช้หมดไปแล้ว เมื่อก่อนเขาเคยทำงานอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เป็นเจ้าหน้าที่เวรเปล
นายธีรยุทธ์ (ผู้ก่อเหตุ) เล่าว่า ตนเอาเงินไปใช้หนี้นอกระบบ ตนไม่ได้ทำงาน ที่ก่อเหตุเพราะตนเองหน้ามืด ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ยอมรับเสียใจที่ทำลงไป ตนเองเคยเล่นพนันบอล แต่ตอนนี้ไม่ได้เล่นแล้ว นำเงินไปใช้หนี้นอกระบบ แสนกว่าบาท ตนเองโดนทวงหนี้ ตนเลยหน้ามืดมาก่อเหตุ