บีบหัวใจคนรักแมว ไฟไหม้บ้านคลอกแมว 11 ตัว เจ็บอีกหลายตัว | คมชัดลึก

4 ต.ค. 2567 เวลา 18.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งครุ รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในชุมชนคลองเก้าห้อง ซอยประชาอุทิศ 90 รุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยสถานีทุ่งครุ พร้อมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดเข้าตรวจสอบและดับเพลิง

ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นที่ 2 ของตัวบ้าน มีรั้วรอบขอบชิด พบแสงเพลิงและกลุ่มควันเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงเร่งฉีดน้ำดับเพลิง ใช้เวลาเพียง 5 นาที เพลิงจึงสงบลง และจึงทำการเร่งระบายควันภายในห้องที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบความเสียหาย

เมื่อกลุ่มควันเริ่มเบาบาง ภาพตรงหน้าทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัคร ถึงกับเศร้าสลด เพราะเป็นกรงแมวนับสิบวางเรียงรายอยู่ภายในห้อง ทุกกรงมีแมวอยู่รวมแล้ว 20 กว่าตัว

จากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบไฟคลอกแมวตายในที่เกิดเหตุถึง 9 ตัว และบาดเจ็บจากความร้อนจำนวนมาก อาสาสมัครจึงรีบช่วยเหลือนำแมวที่ยังมีชีวิตอยู่ลงมาด้านล่าง เพื่อให้การช่วยเหลือและปฐมพยาบาลเบื้องต้นในทันที

จากนั้นจึงทราบยอดแมวที่เลี้ยงไว้จำนวน 29 ตัว และตายทันทีในที่เกิดเหตุ 9 ตัว และมีอาการสาหัส 1 ตัว อาสาต้องให้ออกซิเจนเพื่อช่วยต่อลมหายใจ แล้วมีแผลจากการถูกไฟไหม้ 12 ตัว ที่เหลือสูญหายไป ต่อมามีตายนอกบ้านอีก 2 ตัว สรุปยอดรวมแมวที่ตาย ทั้งหมด 11 ตัว

นางสาว ศิริศรา อายุ 53  ปี เจ้าของแมว กล่าวว่า ตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ มีป้าอยู่ในเหตุการณ์ เขาโทรมาบอกว่าไฟไหม้ที่บ้าน เลยรีบกลับมา ตนเลี้ยงแมวเอาไว้ 29 ตัว แยกกรงไว้แต่ละตัวให้เขาอยู่ เลี้ยงเอาไว้บนห้องที่ชั้น 2 เป็นห้องของแมวเลย เราเช่าให้เขาอยู่ เปิดพัดลมให้แมวตอนกลางวัน พอตอนกลางคืนก็ปิด แต่ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เป็นเพราะไฟฟ้าลัดวงจรหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือว่าแมวกัดสายไฟหรือเปล่า ตนก็ไม่รู้ แต่ก็เสียบปลั๊กไฟต่อพ่วงเอาไว้ตลอดเวลา จะปิดแค่สวิตช์พัดลมเท่านั้น แต่ปลั๊กไฟต่อพ่วงไม่ได้ดึงออก

เบื้องต้นอาสาสมัครได้นำแมวที่ถูกไฟคลอก ที่ได้รับบาดเจ็บมีอาการหนักส่งโรงพยาบาลสัตว์ใกล้เคียง 5 ตัว ส่วนที่เหลือทีมสัตวแพทย์ ที่เข้ามาช่วยเหลือได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วและให้รอดูอาการที่บ้านได้

ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุป ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ถึงจะสรุปสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวได้