ข่าว

สาว 17 ขึ้นโรงพัก แจ้งจับ รองสารวัตรหื่น ล่วงละเมิดในป้อมตำรวจ

สาว 17 ขึ้นโรงพัก แจ้งจับ รองสารวัตรหื่น ล่วงละเมิดในป้อมตำรวจ

09 ต.ค. 2567

สาว 17 พร้อมพ่อ ขึ้นโรงพักแจ้งความ รองสารวัตร ก่อเหตุล่วงละเมิดในป้อมตำรวจ เหยื่อเผยทั้งข่มขู่ แถมยังคอยตามรังควาน

9 ต.ค. 2567 เวลา 11.00 น. ที่ สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมด้วยผู้เสียหาย เด็กนักเรียนชั้น ม. 4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง อายุ 17 ปี พร้อมกับพ่อ อายุ 73 ปี เข้าพบ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านบึง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีที่ถูก ตำรวจ ตำแหน่ง รองสารวัตร สภ.บ้านบึง ข่มขืนในป้อมตำรวจ

 

โดยมีนางสาวจันจิรา ไทยบัณฑิตย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี สหวิชาชีพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เข้าร่วมรับฟังการสอบสวน ใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ 1 ชั่วโมง

 

สืบเนื่องมาจากวันที่ 5 ต.ค. 2567 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ่อเฒ่าวัย 73 ปี พาลูกสาววัย 17 ปี เดินทางขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เนื่องจากลูกสาวถูกตำรวจสายตรวจ ตำแหน่ง รองสารวัตร สภ.บ้านบึง ตีสนิทจนนับถือเป็นลุง สุดท้ายมารับลวงไปข่มขืนคาป้อมตำรวจสายตรวจ

โดย น้องพลอย ผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ญาติพาพ่อซึ่งป่วยติดเตียงกลับบ้านที่ใต้ ทำให้ตนเองต้องอยู่ลำพัง และได้เดินทางแจ้งความที่ สภ.บ้านบึง เนื่องจากมีคนมาขับรถวนเวียนแถวบ้าน จากนั้นทางสภ.ได้ให้เบอร์สายตรวจ และเข้ามาดูที่บ้าน แต่คนร้ายไม่อยู่แล้ว จากนั้นมีการขอไลน์เพื่อติดต่อหากมีอะไรผิดปกติ และได้ติดต่อกันมาตลอด โดยให้ความเคารพเหมือนผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่ง ที่ดูแลความปลอดภัย พาไปกินข้าว พาไปเที่ยว

 

กระทั่งช่วงเดือนเมษายน 2567 เวลาประมาณเที่ยงคืน ชวนออกมากินข้าวตามปกติ พอกินเสร็จ บอกว่า ขอแวะทำธุระที่ป้อมตำรวจหนองแกก่อน ซึ่งตนเห็นว่าเป็นที่เขาทำงานคงไม่เป็นไร ตอนนั้นในป้อมไม่มีใครอยู่ จากนั้นได้เข้ามาลวนลาม ตนเองก็พยายามห้ามและบอกว่าอย่าทำ เรานับถือเป็นลุง แต่เขาไม่ฟังเข้ามาบังคับข่มขืน จนสำเร็จ แล้วมาขอร้องไม่ให้เอาเรื่อง ถ้าเอาเรื่องตนเองไปพูดกับคนอื่นจะฆ่าให้ตาย เพราะในอดีตเขาเคยเผานั่งยางผู้ต้องหาในคดียาเสพติด แต่เอาผิดเขาไม่ได้เพราะไม่มีใครรู้ ถึงจะไปแจ้งความก็ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ตนเองกลัว เลยยอมทำตามที่เขาพูดไม่กล้าบอกใคร

 

หลังวันนั้นมาเขาก็ทำตัวปกติคือ แวะมาตรวจแถวบ้าน มารับไปกินข้าว และพยายามมาเลี้ยงดูโดยการมาช่วยจ่ายค่าห้องเดือนละ 2-3 พัน เชื่อว่าเขาส่งคนมาเฝ้าเพราะรู้ความเคลื่อนไหวเราตลอดเวลา จากนั้นเขาได้ย้ายไปประจำที่ป้อมหนองไผ่แก้ว และจะโทรมาทุกครั้งที่เขาเข้าเวร ก่อนจะมารับ แล้วบอกว่าจะพาไปป้อม ซึ่งตนก็รู้ว่าไปแล้วจะโดนอะไร แต่ก็ไม่กล้าขันขืนเพราะกลัว และไม่ได้ไปแจ้งความ ก็กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

ด้านนายเอกภพ ระบุว่า หลังจากนี้จะพาน้องไปตรวจร่างกายตามกระบวนการ เรื่องนี้หากผิดก็ว่าไปตามผิด เพราะน้องอายุเพียง 17 ปีฝากท่านผู้การ ผู้กำกับ ลงมาตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

 

ต่อมา ทางพนักงานสอบสวน พร้อมกับทีมสายไหมต้องรอด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้พาผู้เสียหายไปที่ป้อมยามตำรวจ เพื่อให้ผู้เสียหายได้ชี้จุดเกิดเหตุ เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี โดยให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เก็บหลักฐานภายในป้อมยาม พร้อมกับตรวจหาดีเอ็นเอ อย่างละเอียด รวมถึงหลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เป็นผู้สอบสวนผู้เสียหาย อายุ 17 ปี อีกครั้ง

ผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความ