2 ทหารหนุ่ม ยอมรับสารภาพ หลังยิงปืนใส่กลุ่มวัยรุ่นสนั่นเวทีหมอลำดัง
เปิดปากสารภาพ! 2 ทหารหนุ่ม ยอมรับสารภาพ ยิงปืนใส่กลุ่มวัยรุ่นสนั่นเวทีหมอลำดัง ชาวบ้านถูกลูกหลง 3 ราย ก่อนทิ้งปืนลงสระในค่าย
10 ต.ค. 2567 จากกรณีที่มีกลุ่มชายหัวเกรียน ไปดูหมอลำคณะดัง “ใจเกินร้อย” ที่ลานคอนเสิร์ตตลาดเมืองทองเจริญศรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี และมีเหตุชกต่อยกันกับกลุ่มวัยรุ่นหน้าเวทีหมอลำ จากนั้นออกมาทะเลาะกันนอกรั้วสังกะสี ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ทำให้ชาวบ้านโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
ที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนเกลื่อนถนน หลังก่อเหตุกลุ่มชายหัวเกรียนได้ขับรถกระบะหลบหนีไป ก่อนร้อยเอก จะนำรถกระบะสีขาวโดนกระสุนปืนยิงกระจกหลัง เหตุเกิดเวลา 01.40 น. วันที่ 9 ตุลาคม 2567 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า ล่าสุด 10 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ น.ส.ญาณีนาถ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาว จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นภรรยานายไพศาล (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ผู้บาดเจ็บโดนกระสุนปืนบริเวณสะโพกขวา 1 นัด และต้นขาซ้าย 1 นัด โดย น.ส.ญาณีนาถ เล่าว่า สามีทำงานขึ้นสินค้าที่ตลาดเมืองทองเจริญศรี ส่วนตนเป็นแม่บ้าน แต่งงานมา 5 ปี มีลูก 3 คน
คืนเกิดเหตุหลังเลิกงาน สามีชวนตนไปดูหมอลำที่มาทำการแสดงที่ลานคอนเสิร์ต ในตลาด พอตกดึกมีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกันหน้าเวทีหมอลำ แล้วออกมาทะเลาะนอกรั้วสังกะสี สามีเกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงชวนตนกลับบ้าน เมื่อเดินออกมาหน้าประตูรั้วสังกะสี ก็พบกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกัน สามีได้รีบจับมือตนให้รีบเดินหนี ถึงหน้าร้านขายพลาสติก ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น เป็นจังหวะที่สามีดึงตนมาหลบอยู่ด้านหลัง
สิ้นเสียงปืนสามีได้ทรุดลงกับพื้น จึงรู้ว่าสามีโดนลูกหลง ถูกยิงที่สะโพกขวา ซึ่งบริเวณดังกล่าวมืดทำให้มองไม่เห็นว่าใครยิง เมื่อคืนนี้หมอได้ผ่าตัดเอากระสุนออก จึงรู้ว่าโดนยิงที่ต้นขาซ้ายอีก 1 นัด “มันไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่มาโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บ ถ้ากระสุนถูกตนไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ฝากถึงกลุ่มที่ก่อเหตุ ให้มามอบตัว และแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป เพราะสามีเป็นเสาหลักของครอบครัว โดนยิงอาการสาหัสต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ไม่ได้ทำงานก็ไม่มีเงินเลี้ยงดูแลครอบครัว”
ทางด้าน พ.ต.ท.ดิษฐวัฒน์ ถาวรสินพงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดี หลังตำรวจสืบสวนออกไปตรวจภาพวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และมีทหารยศร้อยเอก นำทหารที่ไปดูหมอลำในวันเกิดเหตุ สอบสวนปากคำ โดยมีทหารธรรมนูญร่วมสอบสวนด้วย โดย จ.ส.อ. เอ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ให้การรับสารภาพว่า หลังมีเหตุทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่น ได้นำปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ออกมายิงขึ้นฟ้า 1 นัด เพื่อข่มขู่เท่านั้น
ส่วน จ.ส.ท. ว. นามสมมติ อายุ 35 ปี ได้ใช้ปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่น 1 นัด ก่อนขับรถกระบะหนีกลับเข้าค่ายทหาร ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี แล้วนำอาวุธปืนทั้งสองกระบอกไปทิ้งลงสระในค่ายทหาร ซึ่งวันนี้ตำรวจจะได้เข้าไปงมหาอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา จ.ส.ท. ว. “พยายามฆ่า มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณโดยไม่มีเหตุอันควร” ส่วน จ.ส.อ.อ แจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณโดยไม่มีเหตุอันควร” ส่วนทหารที่โดนกลุ่มวัยรุ่นทำร้าย จะได้สืบสวนหาวัยรุ่นผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป