เปิดใจเหยื่อเล่าหมดเปลือก หลวมตัวลงทุนจนหนี้ท่วม ถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตาย | คมชัดลึก

10 ต.ค. 2567 จากกรณีบริษัทเครือข่ายขายตรงออนไลน์ชื่อดัง บริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ที่มีดาราระดับตัวท็อปเป็น บอส เป็นพ่อข่าย - แม่ข่าย ส่งผลให้มีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อ ร่วมลงทุน แต่สุดท้ายสินค้าขายไม่ออก สูญเงินไปหลายล้านบาท โดยล่าสุดมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ บก.ปคบ.รวม 80 ราย มูลค่าความเสียหาย 31 ล้านบาทนั้น ทั้งนี้พบว่ามีผู้เสียหายรายหนึ่ง ถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตาย เนื่องจากการกู้หนี้ยืมสินมาทำธุรกิจดังกล่าว

 

ล่าสุด ผู้เสียหายที่เคยพยายามฆ่าตัวตาย หลังสูญเงินรวมกว่า 4 ล้านบาท จากธุรกิจเครือข่าย เปิดใจว่า ตนเริ่มเข้าไปร่วมจากการดูติ๊กตอก เห็นว่า มีการชักชวนไปเรียนการสอนทำออนไลน์ 5 วัน 5 คอร์ส ราคา 97 บาท จึงติดต่อไปผ่านทางแชท โอนจองเข้าเรียน

 

จากนั้นทางบริษัทก็ติดต่อกลับมา ให้ตนไปอบรมที่บริษัทหลายครั้ง โดยไม่เสียเงิน นอกจากนั้นจะมีการจัดแคมป์ตามโรงแรม อย่างน้อยเดือนละครั้ง ซึ่งต้องเสียเงิน 1,500 บาทเพิ่มเติมในการเข้าร่วม ซึ่งบรรยากาศภายในแคมป์ จะมีการพูดคุยกันหลายอย่าง สอนการถ่ายรูป สอนการสร้างโปรไฟล์ และมีการโน้มน้าวว่าหากจ่ายเงินเพิ่ม ก็จะได้รับสิทธิเพิ่มมากขึ้น

โดยเริ่มที่ระดับร้านขายปลีก (Distributor) ราคา 2,500 บาท จากนั้นก็ขึ้นไปเป็นระดับร้านขายส่ง (Supervisor) ราคา 25,000 บาท มีราคาดินเนอร์อยู่ที่ 200,000 บาทต้นๆ โดยจะมีผลิตภัณฑ์มาให้ผู้ที่ร่วมลงทุน แต่ตนจำปริมาณไม่ได้  ซึ่งตนลงเงินไปจบที่ระดับร้านขายส่งขนาดใหญ่ (Dealer)

 

นอกจากนี้ยังมีให้ซื้อ Founder โกโก้ ราคา 120,000 เป็นผลิตภัณฑ์โกโก้ให้ อ้างว่าถ้าเขาขายได้ก็จะแบ่งผลประโยชน์ให้ผู้ลงทุน หรือเป็นมรดกให้ลูกหลานผู้ลงทุนต่อไป คล้ายๆกับการซื้อหุ้นส่วน

 

ตนร่วมลงทุนไปทั้งหมด 2 ปี จะมีการปันผลปีละครั้งปี โดยปีแรก ตนได้ผลตอบแทนกลับมานิดเดียว เพียงประมาณ 1,200-1,400 บาท ส่วนปีที่ 2 ไม่ได้ผลตอบแทนเลย เขาอ้างว่า ขายไม่ได้ตามเป้าหมาย

ตนร่วมลงทุนจ่ายเงินไปหลายครั้ง เบ็ดเสร็จรวมที่ซื้อของจากแบรนด์นี้ ไปประมาณ 400,000 บาท เท่านั้นยังไม่พอ ตนเริ่มกู้หนี้ยืมสิน สินเชื่อ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด รีไฟแนนซ์รถยนต์ รวมทั้งหนี้นอกระบบ รวมๆแล้ว แบรนด์นี้ ส่งผลกระทบต่อการเงินในชีวิตของตนไปกว่า 4 ล้านบาท จากการพยายามหาเงินมาซื้อคอร์สเพิ่ม

 

พอไม่มีเงินปันผลกลับมาจากการลงทุน ตนจึงขอผลิตภัณฑ์ออกมาขายเอง แม้ตอนแรกทางแบรนด์ บอกไม่ต้องสต็อกของเอง ให้เก็บไว้ในโรงงานได้ แต่ตนจำเป็นต้องขายแล้ว เนื่องจากสินค้าใกล้จะหมดอายุ ซึ่งก็ต้องนำไปขายในตลาดมืด เป็นการโทรคุยกันแบบไม่เปิดเผยตัวตน และขายของได้ในราคาที่ต่ำมาก ซึ่งตนคิดว่า ได้นิดหน่อยก็ยังดีกว่าไม่ได้เลย ตนพยายามทำทุกวิถีทาง ทั้งสั่งโปสเตอร์ โบชัวร์ โต๊ะวางของขาย จากทางแบรนด์ หมดอีกเกือบหมื่นบาท

 

จุดที่ทำให้ชีวิต รู้สึกดิ่ง คือ เริ่มกู้เงินจนเป็นหนี้สินจำนวนมาก จากนั้นก็ตัดสินใจออกมาจากกลุ่มแบรนด์ และเริ่มคิดฆ่าตัวตาย ทั้งที่ตอนนั้น ตัวเองก็ตั้งครรภ์ 4-5 เดือนอยู่ โดยลงจากแท็กซี่เพื่อกระโดดน้ำ พยายามกดตัวเองลงน้ำ แต่สุดท้ายมี รปภ.เข้ามาช่วยไว้

 

จากนั้นมีการบอกเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับครอบครัวแล้ว แต่ทาง ญาติกลับบอกว่าตนโง่ ทำให้ตนยิ่งรู้สึกแย่มากๆ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่มีเจ้าหน้าที่จากทางแบรนด์ติดต่อมาพูดคุยใดๆ

 

ตน ได้เจอดารา นักแสดง ที่เป็นพรีเซนเตอร์ ตามงานแคมป์ มีมาการแนะนำ ตนก็เรียกว่า บอสมีน บอสกันต์ ส่วนด้านของแซมนั้น ตนออกมาจากกลุ่มก่อนแล้ว ตอนแรกที่เข้ามาจะรู้จักตอนเป็นพรีเซนเตอร์ 5 คน โดยตัวพรีเซนเตอร์ จะอยู่บนเวทีอย่างเดียว ไม่ได้ลงมาสัมผัสพูดคุยกับลูกข่าย แต่คนอื่นอาจจะเจอส่วนตัวเพราะเห็นมีการเข้าไปบริษัท แต่คนที่มาสอนตน หลักๆ คือ ครูกลุ่มแม่ข่ายคนอื่น ที่ถนัดกันคนละอย่างมาสอนแนะนำ ทั้งนี้ยังไม่อยากฝากอะไรถึงกลุ่มดารา กลัวว่าจะไม่เหมาะสม