ยาย 83 แทบล้มทั้งยืน กลับจากเก็บของเก่า เจอบ้านถูกไฟไหม้จนหมดตัว
ยาย 83 แทบล้มทั้งยืน อาศัยอยู่ตามลำพังไม่มีลูกหลาน ประทังชีวิตด้วยอาชีพเก็บของเก่าขาย ไม่มีบัตรสวัสดิการ ตกสำรวจเงินหมื่น กลับมาเจอไฟไหม้บ้าน จนสิ้นเนื้อประดาตัว
10 ต.ค. 2567 เวลา 10.20 น. เกิดเหตุไฟไหม้บ้านพักครึ่งปูนครึ่งไม้ สองชั้น ในท้องที่ หมู่ 9 บ้านไผ่ ตำบลไผ่ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ เจ้าของเป็นคุณยาย อายุ 83 ปี ชื่อ นางชุติมา อาศัยอยู่เพียงลำพัง มีอาชีพเก็บของเก่าขาย รถดับเพลิงจำนวน 4 คัน จาก อบต.ไผ่ อบต.ธาตุ อบต.ดอนแรด และเทศบาลรัตนบุรี ระดมฉีดน้ำดับเพลิง ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ แต่บ้านได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลัง ทรัพย์สินเสียหายทั้งหมด
นางประภาพร อายุ 57 ปี เพื่อนบ้าน ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุ นั่งอยู่ใกล้รั้วบ้านตน ติดกับหลังบ้านที่เกิดเหตุ เห็นควันสีดำพวยพุ่งขึ้นทางด้านทิศตระวันออกของบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งตนก็นึกว่าคุณยายเผายางรถยนต์ เพราะว่ากลุ่มควันดังกล่าวมันลอยขึ้นท้องฟ้าสีดำขนาดใหญ่ นั่งดูนาน 5 นาทีจึงรีบบอกสามีวิ่งไปดูให้ชัดๆว่าเป็นกลุ่มควันอะไรกันแน่ ก่อนสามีจะรีบมาบอกตนว่าเป็นเหตุไฟไม้บ้านของคุณยาย
ตนและสามีจะวิ่งมาช่วยกันดับไฟและเก็บของออกห่างๆและตะโกนบอกชาวบ้านมาช่วยประสานตำรวจ
ต่อมา นางสาวชุติมา หรือยายทองมา อายุ 83 ปี เจ้าของบ้าน กลับจากจูงรถจักรยานปั่นสองล้อตระเวนออกหาเก็บขวดพลาสติก และขยะอื่นๆที่ขายได้ เดินทางมาถึงบ้าน ถึงกับหน้าเศร้าหมอง หมดอาลัยตายอยาก ญาติๆต่างพยุงมานั่งบนเก้าอี้ แล้วหายาหม่องมาให้ยายสูดดม
ยายทองมา เล่าว่า เป็นสาวเฒ่าไม่สามี ไม่มีลูก บ้านหลังที่ถูกไฟไหม้ เป็นเงินสมัยตนเคยไปรับจ้างทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วสร้างบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ แบบสองชั้น ราคา 2 แสนบาท ภายในบ้านชั้นสองของบ้านมีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ 4 ตู้และมีผ้าไหม ปลอกหมอน สะสมไว้ด้วย ส่วนชั้นล่างตนมีเตียงนอน ตู้เย็น พัดลม ตู้กับข้าวถ้วยจานต่างๆและยังมีถุงบรรจุขวดพลาสติด ที่ตระเวนเก็บมาถุงใหญ่ 3-4 ถุงรอนำไปขาย
ก่อนเกิดเหตุตนขึ้นไปไหว้พระในหิ้งพระบนบ้าน โดยไม่ได้จุดธูปเทียนใดๆเลย ทานข้าวเสร็จแล้วก็จูงรถจักรยานปั่นสองล้อออกไปตามท้องถนน เพื่อหาเก็บขวด กระป๋อง เหมือนทุกๆวัน
ตนมีเงินสะสมในบัญชีธนาคารออมสิน จากการเก็บขยะขายและเงินผู้สูงอายุในบัญชีฝากไว้จำนวนเงินเพียง 3,417 บาท และมีเงินติดกระเป๋าเสื้ออีกร้อยกว่าบาท ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตนไม่เคยมีกับเขา เพราะตกสำรวจ และเงินกลุ่มเปราะบาง คนชรา ที่รัฐบาลอุ๊งอิ๊งให้ ตนไม่ได้กับเขาเช่นกันเพราะไม่มีโทรศัพท์กับคนอื่นเขา ทุกวันขายขยะได้ ก็จะเก็บออมและซื้อข้าวสารมาหุงและกับข้าวหลังจากนี้ไปจะอยู่ยังไง ใครจะช่วยตน