ข่าว

ผู้เสียหาย ร้อง ถูกพยาบาลอ้างตัวโปรไฟล์หมอ หลอกร่วมลงทุน บางรายต้องแท้งลูก

ผู้เสียหาย ร้อง ถูกพยาบาลอ้างตัวโปรไฟล์หมอ หลอกร่วมลงทุน บางรายต้องแท้งลูก

11 ต.ค. 2567

ผู้เสียหาย ถูก พยาบาลสาว ปลอมโปรไฟล์หมอคลินิกเสริมความงาม ใช้ชีวิตหรูหรา หลอกร่วมลงทุนหลายอย่าง เสียหายร่วม 100 ล้าน บางรายเครียดจัดถึงขั้นแท้งลูก คิดสั้น

11 ต.ค. 2567 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นายแทนคุณ จิตต์อิสระ พาผู้เสียหายถูกพยาบาลหญิงสร้างโปรไฟล์เป็นหมอ หลอกร่วมลงทุนทำธุรกิจ เสียหายหลักร้อยล้านบาท 

 

โดยพยาบาลคนนี้สร้างโปรไฟล์เป็นคุณหมอ เปิดคลินิกเสริมความงามชื่อดังในจังหวัดระยอง พร้อมกับร่วมลงทุนกับเพื่อนเปิดร้านสุกี้ชื่อดัง มีบ้านพักอาศัยหลังใหญ่ พร้อมรถหรู ทำตัวตีสนิทกับลูกค้าที่เข้ามาใช่บริการที่คลินิก

 

เมื่อเกิดความสนิทสนมและไว้ใจก็จะชักชวนร่วมลงทุนนำเข้าขนมจากประเทศมาเลเซียและจีน ขายผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงลงทุนนำเข้าการธุรกิจยาฟาวิพิราเวียร์ และเครื่องตรวจ ATK

ทั้งนี้มีการแอบอ้างนำใบสั่งซื้อจากโรงพยาบาลของลูกค้ามาแสดง หลอกว่ามีการสั่งซื้อแต่ยังขาดเงินเพื่อนำเข้าสินค้าดังกล่าว ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินไปร่วมลงทุนด้วย แต่ต่อมากลับแจ้งว่า สินค้าดังกล่าวติดที่ด่านศุลกากร ยังไม่สามารถนำออกมาได้ อยู่ระหว่างการเดินเรื่องเอาสินค้าออก

 

ผู้เสียหาย ร้อง ถูกพยาบาลอ้างตัวโปรไฟล์หมอ หลอกร่วมลงทุน บางรายต้องแท้งลูก

นายแทนคุณ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 20 ราย สุดท้ายไม่มีการจ่ายผลตอบแทน บล็อคทุกคนทุกช่องทาง ยังลอยนวล ไม่มีการคืนเงิน ผู้เสียหายบางรายก็ไม่กล้าแจ้งความ กลัวเสียชื่อเสียง เพราะมีหน้ามีตาในสังคม ซึ่งมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน

 

ทั้งนี้ผู้เสียหายบางรายเครียดเนื่องจากผู้ก่อเหตุพาไปกู้หนี้นอกระบบ เพื่อมาลงทุนด้วย จนเกิดความเครียดถึงขนาดกินยาฆ่าตัวตาย  บางรายเครียดถึงขนาดแท้งลูก เนื่องจากกำลังตั้งครรภ์อยู่ บางรายหนีและทิ้งทุกอย่างเพราะสูญเงินและเป็นหนี้นอกระบบ

 

นาายแทนคุณ ระบุว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการหลอกลวงประชาชนและหลอกผู้อื่นว่าเป็นหมอเข้าข่ายความผิดประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

 

ปัจจุบันผู้ก่อเหตุถูกจับกุมดำเนินคดีและยอมรับผิดแล้ว อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ได้บอกกับเพื่อนสนิทที่ไปเยี่ยมที่เรือนจำว่า จะยอมรับและยอมติดคุก และเมื่อศาลสั่งจำคุก ก็จะไปบำเพ็ญประโยชน์ในคุก จะได้ลดโทษ เนื่องจากตนเองเป็นพยาบาลวิชาชีพ ไม่นานก็จะถูกปล่อยตัวออก และก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หนี้ก็ไม่ต้องชดใช้ เคยออกข่าวไปแล้วแต่คดียังเงียบ ซึ่งตนเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก