ปปง. เร่งสืบทรัพย์ทุกรายการ CEO ธุรกิจขายตรง พิจารณายึดอายัดทรัพย์
ปคบ. ส่งเรื่องให้ปปง. ปมธุรกิจขายตรงชื่อดัง ล่าสุดตั้งทีมตรวจสอบทรัพย์สิน "บอสพอล - คณะผู้บริหาร" เพื่อพิจารณายึดและอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบชั่วคราว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้มีรายงานคดีจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ได้ส่งไปยังเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ถึงกรณีนายณัฏฐ์ ธนาพิพัฒน์ดลภัค กับพวก (ผู้เสียหาย) รวม 90 ราย รวมความเสียหายประมาณ 35 ล้านบาท เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก
11 ต.ค. 2567 นายวิทยา นีติธรรม ผอ.กองกฎหมาย และในฐานะโฆษกสำนักงาน ปปง. เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่มีหนังสือแบบรายงานคดี ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่า ด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินจาก ปคบ. ที่ส่งมายังสำนักงาน ปปง. นั้น ล่าสุดนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. มีคำสั่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ปปง. เข้าไปดำเนินการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว
อีกทั้งยังได้มีการประชุมทีมเจ้าหน้าที่ในเนื้อหาสาระสำคัญ โดยในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาดำเนินการ
ส่วนระหว่างนี้ ปปง. จะต้องทำการตรวจสอบความสมบูรณ์ครบถ้วนจากรายงานข้อมูลของตำรวจ ปคบ. ว่า มีความเพียงพอที่ ปปง. จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ได้หรือไม่ หากยังมีรายละเอียดใดที่ ปปง. ประสงค์เพิ่มเติม ต้องสอบถามกลับไปใหม่ เพื่อให้ได้ความถูกต้องชัดเจนมากที่สุด ทั้งเรื่องรายการทรัพย์สินหรือตัวบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ส่วนการตรวจสอบเรื่องทรัพย์สินของบุคคล นิติบุคคลนั้น โฆษก ปปง. เปิดเผยว่า เนื้อหาภายในจะเกี่ยวข้องกับตัวบริษัทที่ปรากฏเป็นข่าวและบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไว้ ส่วนความเสียหาย ปคบ. มีผู้เสียหายร้องทุกข์ 90 ราย มูลค่าเบื้องต้นหลายสิบล้านบาท ซึ่งอาจมีมูลค่าความเสียหายและจำนวนผู้เสียหายเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่ตำรวจ และ ปปง. ต้องช่วยกันตรวจสอบอย่างเข้มข้น
ทั้งนี้หากพฤติการณ์ดังกล่าว มีความผิดตามกฎหมายฟอกเงินของ ปปง. เจ้าหน้าที่ก็จะได้ตรวจสอบว่า ผู้สัมพันธ์เกี่ยวข้องแต่ละรายมีการครอบครองทรัพย์สินรายการใดบ้างและทรัพย์สินต่าง ๆ ได้มาอย่างไร จึงจะนำไปสู่กระบวนการดำเนินการกับทรัพย์สิน โดยต้องประมวลเรื่องส่งไปยังที่ประชุมของคณะกรรมการธุรกรรม เพื่อมีมติออกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบชั่วคราว
ส่วนที่สังคมกังวลว่า ระหว่างนี้ที่ยังไม่ปรากฏความผิดมูลฐาน อาจมีการจำหน่าย ยักย้าย ถ่ายเททรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่ได้มาจากการถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดนั้น ตนต้องเรียนว่า มาตรการป้องกันกรณีดังกล่าวจะเหมือนคดีของ น.ส.กรกนก หรือ แม่ตั๊ก เนื่องจากพนักงานสอบสวนจะสามารถอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบเบื้องต้นตามอำนาจของ ป.วิอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ฝเลขาธิการ ปปง. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฯลฯ เพื่อหารือแนวทางในเรื่องดังกล่าว ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 16.00 น.